In Thailand
เจ้าของฟาร์มจระเข้ยิ้มยอดสั่งซื้อโตขึ้น หลังเป็นข่าวสวนกระแสราคาเนื้อหมู
นครปฐม-ผู้ประกอบการฟาร์มจระเข้ อ.ดอนตูม จ.นครปฐม เผยหลังมีสื่อมาเจาะประเด็นราคาเนื้อจระเข้ มีราคาถูกกว่าเนื้อหมู แถมมีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ ปลอดสารเร่งเนื้อแดง ทำยอดสั่งซื้อพุ่งกระฉูดทะยานขึ้นข้ามคืนถึง 70 เปอร์เซ็นต์ โดยเน้นจระเข้เลี้ยงง่ายไม่มีโรคระบาด คุมแค่ต้นทุนอาหารสามารถทำรายได้ แต่ต้องศึกษาให้ชัดเจน
เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีการนำเสนอข่าวเนื้อจระเข้ถูกกว่าเนื้อหมูส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากหันมาให้ความสนใจในการบริโภคเนื้อจระเข้กันมากขึ้นกว่า 70% และมียอดสั่งจองเนื้อจระเข้เข้ามาต่อวันละ 20 กิโลกรัม ถือเป็นการพลิกโอกาสสำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการที่มีการทำธุรกิจเกี่ยวกับจระเข้ ซึ่งประชาชนและนักชิมได้นำเนื้อจระเข้ไปปรุงเป็นอาหารหลากหลายเมนู ซึ่งมีสะอาดปลอดภัยไม่มีสารเจือปน เนื้อนุ่ม ไขมันต่ำ ซึ่งฟาร์มจระเข้รุ่งทวีชัย เป็นหนึ่งผู้ประกอบการที่การเลี้ยงจระเข้ บนเนื้อที่ประมาณ 30 กว่าไร่ซึ่งมีจรเข้มากถึง 12,000 ตัว โดนเป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ และจระเข้ที่กำลังถึงวัยในการนำมาเป็นอาหารและแปรรูปเป็นสินค้าได้หลากหลายชนิด
โดยที่ ฟาร์มรุ่งทวีชัยฟาร์มจระเข้ ตั้งอยู่ที่ตำบลสามง่าม อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม ร.ต.ต.วิชัย รุ่งทวีชัย อายุ 64 ปีเจ้าของฟาร์ม ได้นำข้าดูกระบวนการเพาะเลี้ยงในพื้นที่ปิด เล่าว่าหลังจากมีข่าวนำเสนอเรื่องจระเข้ราคาถูกกว่าเนื้อหมูที่มีกระแสข่าวเนื้อหมู ไก่ ขึ้นราคาส่งผลให้เนื้อจระเข้มีกระแสตอบรับดีขึ้นมามาก ๆประชาชนมาอุดหนุนสั่งซื้อเนื้อจระเข้กลับบ้านกันจำนวนมากซึ่งเนื้อจระเข้ ที่ชำแหละแล้วทางฟาร์มแพ๊คใส่ตู้เย็นเอาไว้เป็นถุง ๆละ 1 กิโลประชาชนวันหนึ่งก็จะมาชื้อเนื้อจระเข้ 10-20 กิโลกรัม ทางร้านได้ขายให้ในราคากิโลกรัมละ 200 บาท
ร.ต.ต.วิชัย บอกว่า การเจริญเติบโตของธุรกิจในการเลี้ยงจระเข้ในช่วง 2-3 วันมีการเจริญเติบโตมามากกว่าเก่าประมาณ 70% ซึ่งเมื่อก่อนลูกค้าจะมีมาบ้างก็ประมาณ 30% ซึ่งจำนวนจระเข้ของฟาร์มรุ่งทวีชัยมีการรองรับเพียงพอต่อประชาชนที่ต้องการสั่งซื้อเพราะเราได้ทำเนื้อชำแหละสำรองเอาไว้ตลอดและแพ๊คใส่ช่องฟรีชเอาไว้ โดยส่วนที่มีการสั่งซื้อมามากก็จะเป็นส่วนเนื้อตัวจระเข้ รองลงมาก็จะเป็นเนื้อบ้องตันซึ่งตัวหนึ่งจะมีเนื้อบ้องตัน 2 เส้น ความยาวก็ประมาณ 30-40 เซ็นติเมตรซึ่งราคาเนื้อจระเข้ถ้าเป็นเนื้อตัวรวมเนื้อซี่โครง ก็อยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 70 บาทถ้านเป็นเนื้อตัวกิโลกรัมละ 200 บาทและถ้าเป็นเนื้อส่วนบ้องตันจะราคาละ 500 บาทต่อกิดลกรัม
“เมนูที่ลูกค้าชอบและเคยกินมาแล้วจะชอบสั่งต้มแซบ ชั่วกลิ่ง ผักช่า ผัดกระเพรา เป็นต้นถ้าคนที่ไม่เคยทานเนื้อจระเข้ก็จะชอบสั่งก๋วยเตี๋ยวเนื้อจระเข้ และเนื้อจระเข้ย่างทางเราก็มีขายไม้ละ 20 บาท คนที่สนใจทำธุรกิจทางด้านเลี้ยงจระเข้ถ้าคิดจะเลี้ยงจระเข้ช่วงนี้บอกได้เลยว่าไม่คุ้มต้องมีตลาดที่ดีและมีความเจริญเติบโตมาก่อนถึงจะลงมือเลี้ยงจระเข้ได้ ซึ้งถ้าประชาชนหันมาบริโภคเนื้อจระเข้อยู่แบบนี้บอกได้เจ้าของฟาร์มเลี้ยงจระเข้ อาชีพนี้สดใสแน่นอนถ้ากระแสนิยมทานเนื้อจระเข้ไม่ตกลงไปได้แน่นอน” ร.ต.ต.วิชัย กล่าว
ร.ต.ต.วิชัย ยังบอกอีกว่า จระเข้เป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายที่สุดเพราะการเลี้ยงไม่ต้องมีสัตวแพทย์เข้ามาดูแลระหว่างเลี้ยงไม่ต้องให้ยาปฏิชีวนะ โรคที่พบก็เล็กน้อยเช่นตาแดง ปากเปื่อย ซึ่งจะเป็นในช่วงระหว่างจระเข้เกิดใหม่ๆ ทางเราก็จะให้ด่างทัพทิม น้ำเกลือล้างจระเข้ก็จะหายหลังจากนั้นเราก็ไม่ต้องให้ยาอะไรกับจระเข้เลยน้ำก็ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย อาหารก็ให้วันเว้นวันหรืออาจจะให้ทุกวันแล้วแต่ขนาดของจระเข้
ร.ต.ต.วิชัย บอกต่อว่า คนที่คิดจะลงทุนเลี้ยงจระเข้จะต้องคิดอันดับแรกคือแหล่งอาหารของจระเข้ ว่ามีความยากง่ายขนาดไหนและมีต้นทุนราคาที่แพงหรือไม่คิดแบบง่ายๆถ้าเราไปซื้ออาหารมากิโลกรัมละไม่เกิน 13 บาททางฟาร์มจะอยู่ได้ถ้าแพงกว่านั้นทางเราก็จะอยู่ยากต้องรับภาระต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเราเป็นผู้ประกอบการอยากเชิญชวนประชาชนท่านที่ยังไม่เคยมาชิมเนื้อจระเข้ต้องมาลองชิมดูจะรู้รสชาติความนุ่มของเนื้อจระเข้เพราะเป็นเนื้อที่มีคุณค่าทางอาหาร ไขมันต่ำ โปรตีนสูง ซึ่งเนื้อจระเข้ไม่มีสารเคมี สิ่งเจือปนในเนื้อจระเข้เลย ไม่มีสารเร่งเนื้อแดงในจระเข้เลยอาหารที่ทางฟาร์มนำมาให้จระเข้กินก็จะเป็นปลาสะอาดมาตั้งแต่อาหารที่จระเข้กินเข้ามาแล้วจึงมั่นใจว่าเนื้อจระเข้ไม่มีสารเคมีตกค้างอย่างแน่นอน ซึ่งยังมีแพทย์บางท่านแนะนำผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งสามารถทานเนื้อจระเข้ได้ ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกันระหว่างเนื้อหมูกับเนื้อจระเข้ในช่วงนี้เนื้อจระเข้จะถูกกว่าหมูซึ่งมีพ่อค้าขายหมูก็ยังมาทานเนื้อจระเข้ยังบอกว่าเนื้อจระเข้ถูกกว่าเนื้อหมูอีกด้วย