In Thailand

ผู้พันเดอะรองผอ.กมน.จว.สิงห์บุรีนำคณะ ร่วมทอดผ้าป่าวัดสะเดา



สิงห์บุรี-ผู้พันเดอะ รอง ผอ.กมน.จว.สิงห์บุรี นำคณะร่วมทอดผ้าป่าวัดสะเดา วัดที่มีเบี้ยแก้ใหญ่ที่สุดในโลก

วันที่ 16 มกราคม 2565 เวลา 10.30 น. ที่วัดสะเดาได้จัดงานทอดผ้าป่าสามัคคี ณ วัดสะเดา ตำบลแม่ลา อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสมทบทุนสร้างกุฏิสงฆ์ โดยมีกำหนดการดังนี้ เวลา 09.00 น. ตั้งองค์ผ้าป่าสามัคคี ณ วัดสะเดา ต.แม่ลา อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรีเวลา 10.29 น. พ.อ.ชายธนัญชา  วาจรัต (ผู้พันเดอะ มือปราบบ่อนชื่อดัง) รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมคณะ คือ คุณจิโรจน์ คุณนงเยาว์ วิจารณ์ภูธร และคุณณิชชา วิจารณ์ภูธร ร่วมทำพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี เวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ โดยมี พระครูวรธรรมโสภณ เจ้าคณะตำบลเชิงกลัด เจ้าอาวาสวัดสะเดา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีสาธุชน ศิษยานุศิษย์ ร่วมทำบุญกันมากมายภายใต้มาตรการการป้องกันโควิด-19  ที่ทางสาธารณสุข จ.สิงห์บุรี กำหนด เมื่อเสร็จพิธี ได้ประกาศยอดเงินที่มีผู้ร่วมทำบุญทั้งสิ้น  700,876 บาท ถ้วน

วัดสะเดา ตั้งอยู่ที่ ม.1 ต.แม่ลา อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี โดยห่างจากตัวเมืองสิงห์บุรี ประมาณ 6 กม. ซึ่งนอกจากจะมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจแล้ว บริเวณวัดยังคงความร่มรื่นของแมกไม้ริมลำแม่ลาที่เต็มไปด้วยต้นสะเดาน้อยใหญ่ขึ้นอยู่ในบริเวณวัดเป็นจำนวนมาก มีปลาชนิดต่างๆ มากมายที่อยู่หน้าวัดเพื่อให้ประชาชนมาทำทานให้อาหารปลาแล้ว อดีตยังมีหลวงพ่อฟุ้ง (พระอธิการฟุ้ง อุตฺตโม)  เกจิชื่อดังของจังหวัดสิงห์บุรี เป็นอดีตเจ้าอาวาสอีกด้วย สำหรับประวัติของ หลวงพ่อฟุ้ง เกจิชื่อดังของ จ.สิงห์บุรี นั้น เมื่อตอนท่านบวชมีท่านพระครูศรีวิระยะโสภิต (หลวงพ่อพระครูศรี) วัดพระปรางค์ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ โดยขณะนั้นหลวงพ่อพระครูศรีฯ ท่านเป็นเถระคณาจารย์ผู้เรืองวิทยาคม มีเวทมนตร์คาถาอาคมในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์และวาจาสิทธิ์ของหลวงพ่อนี้มีเรื่องเล่าเอาไว้มากมาย หลวงพ่อศรีท่านเป็นพระศักดิ์สิทธิ์ที่โด่งดังในสมัยนั้น โดยชื่อเสียงของท่านดังไปทั่วทั้งภาคกลาง โดยเฉพาะแถบสิงห์บุรี, อ่างทอง, ชัยนาท และนครสวรรค์  เมื่อหลวงพ่อฟุ้งท่านใกล้ชิด และเป็นศิษย์ที่ท่านอุปสมบทให้ด้วยตัวของท่านเอง ย่อมเป็นโอกาสดีที่จะได้รับการถ่ายทอดวิทยาคมต่างๆ จากหลวงพ่อศรีจนครบทุกวิชาของหลวงพ่อศรี  หลวงพ่อท่านเป็นพระที่ใฝ่ใจศึกษาหาความรู้พระธรรมวินัยและตั้งใจปฏิบัติสม่ำเสมอ ด้วยดีเสมอมา เป็นผู้ประกอบด้วยอินทรีย์สังวรสำรวมและมีอิริยาบถอันนิ่มนวล สงบเสงี่ยมเรียบร้อย และได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสะเดาในปี พ.ศ.2467

และวัดสะเดายังมีของดีที่ล้ำค่าอีกอย่างหนึ่งของวัดนี้นั่นก็คือ โบสถ์เก่าที่ผนังโดยรอบประดับประดาไปด้วยถ้วยชามเก่า ที่สำคัญยังมีภาพหนังสือพิมพ์เก่า แสดงถึงเหตุการณ์บ้านเมืองในขณะนั้นร่วมอยู่ด้วย ว่ากันว่าของทุกชิ้นเป็นสมบัติส่วนตัวของหลวงพ่อฟุ้ง ซึ่งถ้วยชามเก่าที่ติดตามผนังโบสถ์นี้คือมีญาติโยมมาถวายท่าน เพราะท่านเป็นพระเกจิดัง แล้วท่านก็มีแนวคิดที่จะนำถ้วยชามเหล่านั้นเอามาติดผนังโบสถ์พร้อมทั้งภาพหนังสือพิมพ์เก่าที่แสดงเหตุการณ์บ้านเมืองในสมัยนั้นเพื่อให้ลูกหลานรุ่นหลังได้ดู โดยมีทั้งหมดที่ติดเกือบพันใบ แต่ถ้วยชามที่ญาติโยมมาถวายท่านเมื่อสมัยนั้นก็ยังเหลืออีกเยอะที่ทางวัดยังเก็บไว้ และที่นี่ยังมี "เบี้ยแก้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก" ซึ่งเบี้ยแก้ ถือว่าเป็นวัตถุมงคลชนิดหนึ่งของคนไทยที่มีมาแต่โบราณเป็นของศักดิ์สิทธิ์ สรรพคุณของเบี้ยแก้เชื่อว่าใช้ป้องกันภยันตราย เมตตามหานิยม ขับไล่สิ่งไม่ดี ป้องกันภูตผีปิศาจได้ สามารถลอดใต้ฐานและอธิษฐานได้ 

จินตนา  ปานมี  ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สิงห์บุรี