In Thailand

ปราจีนบุรีจัดวางพานพุ่มถวายราชสักการะ วันยุทธหัตถีพระนเรศวรมหาราช



ปราจีนบุรี-จัดวางพานพุ่มถวายราชสักการะ-บวงสรวงวันยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชวันยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

วันนี้ 18 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า ที่ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ต.บ้านพระ อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี นายวรพันธุ์  สุวัณณุสส์ ผวจ.ปราจีนบุรี เป็นประธานในพิธีวันยุทธหัตถี และวันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช  ในพิธีประกอบด้วยนำพสกนิกรทุกหมู่เหล่า หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยนำวางพานพุ่มถวายราชสักการะ และการบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช  จากนั้นได้นำกล่าวถวายราชสดุตี โดยใจความว่า

... เนื่องในวันประวัติศาสตร์อันสำคัญที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช   ทรงได้รับชัยชนะจากการทำยุทธหัตถีกับสมเด็จพระมหาอุปราชา     ข้าพระพุทธเจ้า นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี    พร้อมด้วยคณะข้าราชการ และพสกนิกรชาวจังหวัดปราจีนบุรีทุกหมู่เหล่า   ได้มาชุมนุมพร้อมใจกัน ณ มณฑลพิธี ในวันนี้ 

ขอพระราชทานพระบรม-ราชวโรกาส กราบบังคมทูลต่อดวงพระวิญญาณแห่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราช บูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า ซึ่งเหล่าข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ ที่ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทย   และทรงสถาปนาความเข้มแข็งมั่นคงแก่ประเทศไทยมาในอดีตกาล อันนำมาซึ่งความสุขสงบและเกียรติภูมิ ของราชอาณาจักรมาถึงกาลปัจจุบัน

การทำยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ อนุสรณ์ดอนเจดีย์จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพระวีรกรรมครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทยจนกลายเป็นภาพลักษณ์ของความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยวของชาวไทย ที่มีความ
สมัครสมาน สามัคคี เสียสละ ต่อสู้เพื่อรักษาเอกราชของชาติ ให้ชนรุ่นหลังรำลึกถึงตราบเท่าทุกวันนี้

วโรกาสพิเศษนี้ ข้าพระพุทธเจ้าในนามพสกนิกรชาวจังหวัดปราจีนบุรี ขออำนาจแห่งพระบารมีของพระองค์ ทรงปกป้องคุ้มครองประเทศไทย ขจัดสารพัดพิพิธภัยให้สูญสิ้น พระราชทานพระเมตตาคุณให้ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายได้รับความสุขสวัสดิ์ กระทำภารกิจใดๆสำเร็จลุล่วงตามความมุ่งหวังทุกประการเทอญ…

ผู้สื่อข่าวรายงาน    สำหรับ จ.ปราจีนบุรี มีความสำคัญคือในอดีตเป็นเส้นทางเดินทัพไทย – กัมพูชา กล่าวคือจากลักษณะทำเลที่ตั้งของเมืองปราจีนบุรี เป็นเมืองที่ตั้งใกล้กับประเทศกัมพูชา เรื่องราวส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นเหตุการณ์เกี่ยวกับศึกสงคราระหว่างสองอาณาจักรเป็นสำคัญ 

โดยเฉพาะเมื่อกรุงศรีอยุธยามีศึกติดพันกับพม่า หรือ มีความอ่อนแอภายใน กัมพูชา ก็ถือโอกาสมากวาดตอนผู้คน ตามชายแดนของอาณาจักรอยุธยา อย่างเมืองปราจีน อันเป็นเหตุผลที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชยกทัพไปตีกัมพูชา เมื่อ พ.ศ. 2132       ในการยกทัพไปตีกัมพูชา ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เส้นทางบกมีสองทัพคือ ทัพเมืองนครราชสีมาที่ยกลงมาทางเมืองเสียมเรียบและเมืองกะพงสวาย และทัพหลวงจากกรุงศรีอยุธยา

ทัพหลวงยกออกมาจากกรุงศรีอยุธยามาทางตะวันออกผ่านพิหารแดง(วิหารแดง)  บ้านนา เมืองนครนายก ด่านกบแจะ(ประจันตคาม) ด่านหนุมาน(กบินทร์บุรี) ด่านพระปรง (อำเภอเมืองสระแก้ว) ช่องตะโก  ด่านพระจารึก หรือ พระจฤต (อรัญประเทศ – ตาพระยา) ตำบลนำนบ (ด่านพระจารึก และ ตำบลทำนบ)ตำบลเพนียด เมืองพระตะบอง (ปัตบอง) เมืองโพธิสัตว์ และ เมืองละแวก

โดยเมื่อทัพหลวงมาถึงเมืองปราจีนบุรี  ปัจจุบันคือที่ตั้งศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช นั้น  ได้ให้ตั้งทัพ เพื่อรวบรวมเสบียง กำลังพล ก่อนเสด็จยกกองทัพปราบนักพระสัฏฐาหรือพระยาละแวก 

เพื่อรำลึกถึงวีรกรรม ชาวปราจีนบุรีได้สร้างศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชขึ้น   เมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2514 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงสักการะดวงวิญญาณ ณ ศาลแห่งนี้      ภายในศาลแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในท่าประทับยืน      เหตุที่สร้างศาลขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงพระองค์ท่านในคราวกรีฑาทัพจากกรุงศรีอยุธยา เพื่อไปปราบนักพระสัฏฐาแห่งเมืองละแวก กัมพูชา เมื่อ พ.ศ. 2132    ระหว่างการเดินทางทัพได้หยุดพักทัพ ณ บริเวณเนินหอม (บริเวณที่ตั้งศาลในปัจจุบัน)

ปัจจุบันได้มีการปรับปรุงและตกแต่งจัดให้เป็นส่วนหย่อมและเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวและแวะสักการะเพื่อความเป็นศิริมงคล

มานิตย์   สนับบุญ/ปราจีนบุรี