Biz news

ที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ธันวาคม64ไม่หวือหวา มีเพียง21โครงการลดลงถึง57.5%



กรุงเทพฯ-การเปิดตัวโครงการใหม่เดือนธันวาคม 2564 ไม่หวือหวา  มีเพียง 21 โครงการ ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2564  จำนวน 28  โครงการ  จำนวนหน่วยลดลง 66.5% มูลค่าการพัฒนาโครงการลดลง 57.5% แต่ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยเพิ่มขึ้น

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) กล่าวว่าในเดือนธันวาคม 2564 มีการเปิดตัวโครงการใหม่ 21 โครงการ เป็นประเภทที่อยู่อาศัยทั้งหมด ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2564 จำนวน 28 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายรวม  3,702 หน่วย มีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 18,767 ล้านบาท

จำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นใหม่ในเดือนนี้มีทั้งหมด 3,702 หน่วย ลดลงจากเดือนที่ผ่านมาจำนวน 7,349 หน่วย (ลดลงประมาณ 66.5%) เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้ทยอยเปิดโครงการไปเป็นจำนวนมากแล้วในเดือนที่ผ่านมา จึงทำให้จำนวนหน่วยขายของเดือนนี้มีการหดตัวลง เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมา

โดยประเภทที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้ คือ ทาวน์เฮ้าส์มีจำนวน 1,515 หน่วย (40.9%) รองลงมาคือบ้านเดี่ยวจำนวน 863 หน่วย (23.3%) ส่วนอันดับ 3 คือบ้านแฝดจำนวน 667 หน่วย (18.0%) ส่วนอาคารชุดมาตกมาอยู่อันดับ 4 มีจำนวน 647 หน่วย ซึ่งนาน ๆ ครั้งที่อาคารชุดจะเปิดตัวน้อยกว่าที่อยู่อาศัยประเภทอื่น

มูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ในเดือนธันวาคม 2564 นี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 18,767 ล้านบาท ซึ่งหดตัวจากเดือนที่ผ่านมา 25,363 ล้านบาท (ลดลง 57.5%)     โดยประเภทที่มีมูลค่าการพัฒนาสูงสุดคือ บ้านเดี่ยว 8,246 ล้านบาท (43.9%) รองลงมาคือ ทาวน์เฮ้าส์ 4,700 ล้านบาท (25.0%) ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านแฝด 4,420  ล้านบาท (23.6%) ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมดตามลำดับ

ดังนั้นภาพรวมที่อยู่อาศัยที่เข้าสู่ตลาดในเดือนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นระดับราคาปานกลางค่อนข้างสูงเป็นสำคัญ โดยบ้านเดี่ยว และบ้านแฝดอยู่ที่ระดับราคา 5-10 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์จะเน้นราคา 3-5 ล้านบาท ส่วนอาคารชุดจะเน้นที่ราคา 1-2 ล้านบาท ในเดือนนี้ไม่มีที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่าล้านเข้าสู่ตลาดเลย  จึงทำให้ราคาเฉลี่ยต่อหน่วยของที่อยู่อาศัยในเดือนนี้สูงกว่าเดือนที่ผ่านมา ซึ่งราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยของเดือนนี้มีราคาเฉลี่ยที่ประมาณ 5.069 ล้านบาท แต่เดือนที่ผ่านมามีราคาขายเฉลี่ยที่ 3.993 ล้านบาท

สัดส่วนจำนวนหน่วยและมูลค่าการพัฒนาโครงการแบ่งตามระดับราคาขาย

ระดับราคา จำนวนหน่วย % มูลค่าโครงการ (ล้านบาท) %
1-2 ล้านบาท 717 19.40% 1,101 5.90%
2-3 ล้านบาท 465 12.60% 1,101 5.90%
3-5 ล้านบาท 984 26.60% 3,692 19.70%
5 ล้านบาทขึ้นไป 1,536 41.50% 12,873 68.60%
รวมทั้งหมด 3,702 100.00% 18,767 100.00%

 ในด้านทำเลที่ตั้ง (โปรดดูแผนที่) จะพบว่าโครงการเปิดตัวใหม่เดือนนี้ไม่มีโครงการไหนตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพชั้นในเลย ส่วนเขตเมืองชั้นกลางและส่วนต่อขยายของเมือง (intermediate area) มีจำนวน 17 โครงการ เช่น ถนนสายไหม ถนนรามอินทรา ถนนลาดพร้าว ถนนบางนา  ถนนเทพารักษ์  ถนนสุขสวัสดิ์ ถนนปิ่นเก้า-นครชัยศรี ถนนนครอินทร์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอีก 4 โครงการที่อยู่ในพื้นที่รอบนอกซึ่งใกล้แหล่งงาน เช่น ย่าน รังสิต คลองหลวง เป็นต้น      ดร.โสภณกล่าวสรุป เดือนนี้โครงการส่วนใหญ่อยู่รอบนอกเมืองทำให้มีโครงการอาคารชุดเปิดตัวน้อย แต่มีบ้านแนวราบเปิดตัวมากขึ้น โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวกลุ่มใหญ่อยู่ที่ราคาปานกลางค่อนข้างสูงคือ 5-10 ล้านบาท เพราะแม้จะไม่ได้อยู่ในเมืองแต่ก็ในทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวก

เมื่อพิจารณาถึงผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) มีจำนวน 10 บริษัทคือ บริษัท พฤกษาเรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท ธนาสิริกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน)  บริษัท เมเจอร์ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท ออริจิ้นพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้  จำกัด (มหาชน) บริษัท เอพี(ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัทในเครือและบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง หากเปรียบเทียบการพัฒนาระหว่างบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทในเครือ และบริษัททั่วไป