Authority & Harm

สาวเจ้าของเต้นท์เช่ารถยนต์สุดช้ำใจ!! ต้องเสียเงิน1.87แสนไถ่รถตัวเองคืน



ราชบุรี-สาวเจ้าของเต้นท์เช่ารถ สุดช้ำใจโดนหลอกเช่ารถไปขายข้ามชายแดน ซ้ำยังต้องควักเงินไถ่รถตัวเองกลับ พร้อมเผยงานนี้สัญญาณ GPS ช่วยไว้ได้  จากกรณีที่มีผู้ใช้บัญชี TIK TOK ชื่อ @ annnatcha 111986 โพสต์คลิปวีดีโอเนื้อหา การติดตามไถ่รถจากเขตชายแดนพม่า ที่ต้องเสียเงินถึง1.8แสนบาท 

วันนี้(19 ม.ค.) ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 109 หมู่ 5 ต.เขาชะงุ้ม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เพื่อไปพบกับน.ส.แอน นัชชา (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าของโพสต์เปิดเผยว่า ตนได้เปิดบริการให้เช่ารถยนต์ ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจ.ราชบุรี ต่อมาในวันที่ 8 ม.ค.มีลูกค้าที่อ้างว่าเป็นทหาร ยศสิบเอก ติดต่อเข้ามาขอเช่ารถยนต์กระบะ 4 ประตูยี่ห้อโตโยต้ารีโว่ สีดำ มูลค่า 890,000 บาท หมายเลขทะเบียน 7 กอ 6009 กทม. เป็นเวลา 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 9 - 12 ม.ค.วันละ 1,800 บาท และวันที่ 9 ม.ค. ได้เข้ามาทำสัญญา จ่ายเงินมัดจำและค่าเช่ารถ 3 วันรวมเป็นเงิน 10,400 บาท และรับรถไป

ต่อมาในวันที่ 11 ม.ค. สิบเอก ผู้เช่ารถได้ติดต่อเข้ามาถามว่าที่รถมีสัญญาณ GPS หรือไม่ เพราะลูกน้องนำรถไป ตนตอบว่าไม่มี เพราะตนคิดว่าผิดปกติแล้วจึงตอบไปแบบนั้น ตนจึงรีบติดตามสัญญาณ GPS  ซึ่งสัญญาณขึ้นที่ ศาลายา จ.นครปฐม ซึ่งเป็นสัญญาณจุดสุดท้ายและไม่ขยับ จนช่วงเวลา 17.00 น. ตนติดต่อไปยัง สิบเอก แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ตนจึงโทรหาครอบครัวของเขาซึ่งเป็นบุคคลอ้างอิงในสัญญา และแจ้งว่าให้ สิบเอก นำรถกลับมาคืนในวันที่ 12 ตามสัญญาหรือติดต่อกลับมาที่ตนโดยด่วน 

จนเช้าวันที่ 12 นายทหารจึงติดต่อกลับมา ตนจึงไถ่ถามว่ารถอยู่ที่ไหนกลับใคร แต่ สิบเอก กลับบ่ายเบี่ยงและขอเช่าต่ออีก 1 วัน  ตนเริ่มรับรู้แล้วว่ารถของตนต้องไม่ได้อยู่กับผู้เช่าแล้ว ตนจึงเช็คสัญญาณ GPS อีกพบว่าสัญาณไปขึ้นที่ ต.หนองตากยา จ.กาญจนบุรี และ ต.ศาลายา จ.นครปฐมซึ่งเป็นสัญญาณสุดท้ายที่ตนจับพิกัดได้ ตนจึงรีบโทรไปหาสิบเอกอีกครั้ง และเค้นถามความจริง ซึ่งเขาสารภาพว่านำรถไปส่งให้กับสาวทอม ซึ่งเคยติดต่อจำนำรถกันมาก่อน แต่ไม่รู้สาวทอมเอารถไปไหน ซึ่งสิบเอกและสาวทอมโยนเรื่องกันไปมา  ตนคิดว่าตนคงต้องติดตามรถคืนเองแล้ว จึงรีบประสานงานไปตามด่านชายแดนต่างๆ 

จนช่วงดึกวันที่ 13 พบว่ารถไปอยู่ที่ห้วยยางอุ จ.ตากแล้ว แต่พอช่วงเช้าวันที่ 14 สัญญาณ GPS เด้งพิกัดว่ารถอยู่ที่อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ตนจึงรีบประสานงานไปที่จนท.ตชด.พื้นที่นั้นให้ช่วยติดต่อประสานงาน ซึ่งช่วงเวลา 19.00 น. ก็พบว่ารถของตนถูกนำข้ามฝั่งไปอยู่เขตพม่าแล้ว ถ้าจะเอารถคืนต้องจ่ายเงินจำนวน 1 แสนบาทในเวลา 2 ทุ่มตามจุดนัดหมาย  ตนจึงรีบกดเงินเตรียมไปแต่เมื่อไปถึงตามเวลากลุ่มคนที่จะเอารถมาคืน กลับผลัดขอเจรจาใหม่ในวันที่ 15 ม.ค. จนช่วงเวลา 15.00 น. กลุ่มคนจำนวนหนึ่งได้มาที่จุดนัดหมายนั่งรถกระบะมา 3 คัน 1 ใน 3 คันนั้นเป็นรถของตนด้วย ทำการเจรจาว่าขอเรียกเงิน 4.3 แสนบาท เป็นค่าไถ่รถคืน 

ซึ่งตนไม่มีเงินเยอะขนาดนั้น ตนใช้เวลาในการต่อรองจึงขอต่อรองนานถึง 5 ชม. จนมาจบที่จำนวนเงิน1.8 แสนบาท ดังกล่าวตามในคลิป  สภาพรถที่ได้กลับมายังอยู่ในสภาพสมบูรณ์มีเพียงรอยเฉี่ยวชนนิดหน่อย หลังจากเกิดเหตุเมื่อวานตนได้ติดต่อไปยัง สิบเอก และสาวทอม ก็ยังยอมรับว่านำรถไปส่งต่อให้นายทุนจริง แต่วันนี้สาวทอมกลับพูดไม่ตรงกับเมื่อวานแล้ว ซึ่งตรงนี้ตนจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของจนท.ตำรวจต่อไป และเรื่องคดีตนได้แจ้งความไว้ที่สภ.เมืองราชบุรี ตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค.แล้วนั้นและได้รวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมดส่งให้กับทางจนท.ตำรวจดำเนินคดีต่อไป ตามขั้นตอนของกฏหมายให้ดำเนินคดีกับ สิบเอกผู้เช่ารถกับสาวทอม โดยเบื้องต้นทางจนท.ตำรวจสภ.เมืองราชบุรี ได้ออกหมายเรียกทั้งคู่มาสอบปากคำแล้ว 

น.ส.แอนยังฝากเตือนผู้ประกอบการว่าให้ระมัดระวังในการปล่อยเช่ารถของลูกค้า ขนาดตนระมัดระวังแล้วยังเจอเหตุการณ์แบบนี้ รถเราราคาเป็นแสนแต่คุณเอาหลักพันมาแลก มันเป็นธุรกิจที่เสี่ยงมากๆ อยากให้ทุกๆคนไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการหรือประชาชนทั่วไป ติดตัวสัญญาณ GPS เถอะราคาไม่แพงเพื่อความปลอดภัยในทรัพย์สินของเรา และอยากให้หยุดขายตัวบล๊อคสัญญาณGPS เพราะมันเป็นช่องทางให้พวกโจรมาขโมยรถเราและให้ติดตามรถไม่ได้ และตนคาดว่าคนที่ได้รถไปคงคิดว่าตัวบล๊อคสัญญาณไปตัวGPS และถอดออกไป จึงทำให้ตนสามารถจับสัญญาณได้อีกครั้งและนำมาสู่การติดตามรถคืนได้ 

น.ส.แอนยังฝากทิ้งท้ายไว้อีกว่าที่ตนช้ำใจที่สุดคือ รถของเราแท้ๆ แต่ยังต้องเอาเงินเราเองมาไถ่รถของเรากลับเอง อยากวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาปราบปรามขบวนการพวกนี้ให้หมดสิ้นสักที มันเยอะมากจริงๆ 

สุจินต์ นฤภัย(เต้) จ.ราชบุรี