In Thailand

ชาวราชบุรี4อำเภอบุกถามปศุสัตว์จังหวัด ฟาร์มขนหมูตายเอาไปชำแหละ 



ราชบุรี-ชาวบ้าน  5 ตำบล 4 อำเภอ ถือรูปรถบรรทุกหมูตาย บุกถาม ปศุสัตว์ จ.ราชบุรี ชี้แจงพร้อมให้ตรวจสอบฟาร์มเลี้ยงหมู และโรงชำแล่ะเนื้อหมูในพื้นที่ หลังพบมีการเคลื่อนย้ายหมูตายออกนอกฟาร์มเข้าโรงชำแล่ะ หวั่นหมูเป็นโรคนำมาชำแล่ะ ออกขายให้ประชาชนกิน 

วันนี้(22 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานปศุสัตว์ จังหวัดราชบุรี หลังได้รับรายงานว่า มีตัวแทนชาวบ้านจำนวนกว่า 50 คน จาก 4 อำเภอ 5 ตำบล คือ อ.เมืองราชบุรี  ต.ห้วยไผ่, ต.น้ำพุ, อ.จอมบึง ต.รางบัว, อ.วัดเพลง ต.วัดเพลง และอ.ปากท่อ ต.ทุ่งหลวง ได้รวมตัวกันเพื่อขอพบ ปศุสัตว์ จ.ราชบุรี เพื่อให้ชี้แจงและตรวจสอบฟาร์มเลี้ยงสุกร และโรงชำแล่ะ ในพื้นที่ หลังมีชาวบ้านนำภาพและข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายสุกรตาย โดยไม่ทราบสาเหตุเป็นจำนวนมาก และมีการเคลื่อนย้ายเกือบทุกวัน เพื่อนำไปเข้าโรงชำแล่ะ เพราะชาวบ้านหวั่นจะเอาเข้าโรงชำแล่ะและนำเนื้อสุกรออกขายให้ประชาชนมาบริโภค 

จึงร้องเรียนให้ทาง ปศุสัตว์ จ.ราชบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงสาเหตุการตายของสุกร และเมื่อตายแล้วนำไปไหน เอาไปทำอะไร และไถ่ถามถึงการระงับการสร้างฟาร์มสุกรในต.รางบัว หลังมีข้อพิพาทยังไม่ให้มีการดำเนินการในฟาร์มสุกร แต่ทางปศุสัตว์ ได้เซนต์อนุมัติให้ทางฟาร์มสุกร นำลูกสุกรเข้าไปภายในฟาร์มได้ โดยชาวบ้านอ้างว่า มีทั้งรูปภาพและคลิปวีดีโอเป็นหลักฐาน 

ซึ่งภายหลังชาวบ้านได้ให้ทาง ปศุสัตว์ จ.ราชบุรี ออกมารับเรื่องและชี้แจง แต่ทางปศุสัตว์ จ.ราชบุรี ได้ส่งตัวแทนมารับเรื่องกับทางชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านเกิดความไม่พอใจ จึงได้รวมตัวเดินทางไปยัง ศาลากลางจ.ราชบุรี เพื่อขอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดออกมาชี้แจงกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยชาวบ้านทั้งหมดยืนยันว่า หากไม่มีการดำเนินการตรวจสอบและชี้แจงให้ชาวบ้านทราบ จะมีการยกระดับการชุมนุม เพื่อให้มีการตรวจสอบการเคลื่อนย้ายสุกรที่ตายแล้ว ออกจากฟาร์มสุกร

ต่อมา นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผวจ.ราชบุรี พร้อม น.ส.ประภารัตน์ นาคผจญ ผอ.การกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจ.ราชบุรี และน.ส.สุชาดา สุสุทธิ นายสัตว์แพทย์ชำนาญการ สนง.ปศุสัตว์จ.ราชบุรี เข้ารับเรื่องเรียกร้องจากชาวบ้าน เพื่อที่จะประสานงานดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป  

น.ส.เอ (นามสมมุติ) ชาวบ้านต.รางบัว เปิดเผยว่า พวกตนได้มาร้องทาง ปศุสัตว์ ให้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบฟาร์มหมู ในกรณีพบฟาร์มหมูมีการเคลื่อนย้ายหมูตาย ใส่รถกระบะและรถบรรทุกออกมาจากฟาร์ม ซึ่งไม่รู้ว่านำเอาหมูตายออกไปที่ไหน ซึ่งพวกตนกลัวว่า จะนำหมูตายทั้งหมดไปโรงชำแล่ะ แล้วนำออกมาขายให้กับชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ หรือไม่ก็เอาเข้าห้องเย็นเพื่อรอเวลาเอาออกมาจำหน่ายให้กับประชาชน ซึ่งหมูที่ตายทั้งหมดไม่รู้ว่าตายเพราะด้วยโรคอะไร หรือตายเพราะโรคระบาดอยู่ในขณะนี้หรือเปล่า อยากให้ปศุสัตว์ลงไปตรวจสอบให้ชาวบ้านคลายความสงสัยด้วย 

ขณะที่ นายเทียนชัย เทพวาส ชาวบ้านต.รางบัว เปิดเผยว่า ตนเป็นตัวแทนต.รางบัว มาร้องเรื่องการขนย้ายหมูตาย และไถ่ถามถึงการสร้างฟาร์มแห่งใหม่ในต.รางบัว ซึ่งพวกตนได้คัดค้านการสร้างมานานถึง 2 ปีแล้ว ล่าสุดตนได้ข่าวมาว่า ทางฟาร์มได้นำลูกหมูมาลงในฟาร์มแล้ว ทั้งๆที่ยังไม่ได้ผ่านการประชาคมของชาวบ้านเลย ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านได้รวมตัวร้องเรียนทุกหน่วยงานเพื่อไม่ให้มีการสร้างฟาร์มมาโดยตลอด แต่เรื่องทุกอย่างกับนิ่งเฉย ทางจังหวัดก็โยนไปให้ทางปศุสัตว์ แต่พอมาทวงถามทางปศุสัตว์ ก็โยนไปให้ทางจังหวัด เหมือนหลอกลวงชาวบ้านไปวันๆ

ส่วน น.ส.กปนัท ชาติไทย อายุ 48 ปี ชาวบ้านต.ทุ่งหลวง กล่าวว่า พวกตนและชาวบ้านในต.ทุ่งหลวง เห็นการขนหมูตายออกมาจากฟาร์มเป็นประจำ ยิ่งช่วงนี้จะเห็นบ่อยและเยอะมาก ตนอยากจะถามว่า ทางปศุสัตว์ไม่รู้เลยหรือว่า มีการขนหมูตายออกมาจากฟาร์มเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ชาวบ้านยังสามารถถ่ายภาพไว้ได้เลย แต่ทางปศุสัตว์กับประกาศว่า จ.ราชบุรี ไม่มีหมูตายเพราะโรคระบาด AFS ซึ่งการขนย้ายหมูตาย จะต้องแจ้งจนท.ปศุสัตว์ แต่นี้ชาวบ้านเห็นบันทึกภาพได้ แต่ปศุสัตว์กลับบอกไม่มีได้รับแจ้ง แล้วที่ขนหมูตายออกจากฟาร์มเกือบทุกวันคืออะไร 

ซึ่งที่ผ่านมา ในพื้นที่ม.6 ต.ทุ่งหลวง กว่า 2 ปี ที่ชาวบ้านเคยเห็นการขนหมูตายออกมาจากฟาร์ม แต่ไม่เคยใส่ใจเพราะคิดว่าหมูคงตายธรรมดา แต่ทุกวันนี้มีการขนหมูตายออกมาเยอะผิดปกติ จึงให้ทีมงานเฝ้าสังเกตุดู ซึ่งทางฟาร์มอ้างว่า เอาไปฝังหลังโรงเชือดในพื้นที่ แต่ทางปศุสัตว์ไม่รู้หรือ ถึงกล้าประกาศไม่มีโรคระบาด AFS ในพื้นที่จ.ราชบุรี เอาหลักฐานอะไรมาประกาศ ว่าไม่มีหมูติดโรคตาย ตนและชาวบ้านอยากให้ทางปศุสัตว์ชี้ชัดว่า หมูตายที่ขนออกมาเอาไปฝังไว้ตรงไหน ช่วยพาไปชี้ให้ดู 

น.ส.กปนัท กล่าวอีกว่า อยากฝากถึงรมต.ที่อนุมัติงบประมาณมาช่วยเรื่องหมู ในจ.ราชบุรี ไม่ต้องอนุมัติมาให้ทางจ.ราชบุรี ทางจังหวัดไม่ต้องการ เอาไปช่วยคนจ.นครปฐม ที่เขากล้ายอมรับความจริงว่า มีโรคระบาด AFS ในพื้นที่ เพราะทางปศุสัตว์จ.ราชบุรี เขาก็ออกหนังสือมาเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วว่า จ.ราชบุรี ไม่มีโรคระบาดในหมู ปลอดโรค แล้วจะเอาเงินภาษีประชาชนมาช่วยฟาร์มหมูจ.ราชบุรีทำไม และตนอยากถามทางปศุสัตว์ อีกว่า ผู้มีอิทธิพลในจ.ราชบุรี มีมากใช่ไหม ถึงได้กล้าปิดหูปิดตาประชาชน ปิดบังข้อมูลความจริง และเอื้อประโยชน์ให้กับฟาร์มหมู 

"คนที่เลี้ยงหมูในจ.ราชบุรี ส่วนใหญ่จะเป็นนักการเมือง ตั้งแต่ระดับเล็กจนถึงระดับชาติ ทำให้จนท.ทำงาน แบบเห็นเครื่องหมายลบ เป็นเครื่องหมายบวก ตราบใดที่จ.ราชบุรี ยังมีอิทธิของนักการเมือง หรืออิทธิพลนักลงทุน จ.ราชบุรีก็ยังคงเจอปัญหาแบบนี้ เพราะจนท.ของรัฐไม่กล้าออกมาทำอะไร ก็คงเห็นเครื่องหมายลบ เป็นเครื่องบวกอยู่อย่างนั้น ไม่มีใครกล้าออกมาทำอะไรเพราะกลัวไม่มีที่อยู่ และฝาก นายกตู่ ด้วย ลงมาปราบอิทธิพลในจ.ราชบุรี ชาวบ้านจะได้อยู่อย่างสงบสุขสักที"

ส่วน นางเมตตา เอี่ยมโฉม อายุ 60 ปี ชาวบ้าน อ.วัดเพลง เปิดเผยว่า ตนและชาวบ้านเห็นพฤติกรรมของฟาร์มหมูมาโดยตลอดว่า มีการเคลื่อนย้ายหมูตายเป็นประจำ แต่ตนก็ไม่รู้หรอกว่าเขาขนไปไหนไปทำอะไร ทำให้พวกตนกลัวว่าหมูตายที่ขนออกมา จะนำเอาไปเข้าโรงชำแล่ะ ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ก็รู้ว่าไปเข้าโรงชำแล่ะ แต่ที่กลัวมากที่สุดคือการเอาเนื้อหมูมาขายให้พวกตนกิน ซึ่งหมูพวกนั้นไม่รู้ว่าเป็นหมูตายจากโรคหรือไม่ 

ทางปศุสัตว์ ก็มีแต่อ้างว่า จ.ราชบุรี ไม่มีหมูตายเพราะโรคระบาด แต่ทำไมทางฟาร์มมีหมูตายเป็นจำนวนมาก ออกมาจากฟาร์มทุกวัน จนชาวบ้านเห็นเป็นเรื่องปกติ อยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาช่วยตรวจสอบให้ชาวบ้าน และชี้ชัดว่าหมูตายที่ทางฟาร์มขนออกจากฟาร์มเป็นจำนวนมากคืออะไร เพื่อชาวบ้านจะได้สบายใจ 

ขณะที่ นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง กล่าวว่า จากกรณีที่ชาวบ้าน มาร้องเรียนขอให้ทางปศุสัตว์ลงตรวจสอบการเคลื่อนย้ายหมูตายตามรูปภาพที่ปรากฏ ทางจังหวัดต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ซึ่งทางจังหวัดจะขอพิกัดของรูปภาพที่ชาวบ้านถ่ายได้ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่พิสูจน์ก่อนว่า ภาพถ่ายที่ชาวบ้านนำมาเป็นภาพถ่ายตั้งแต่เมื่อไร ของจังหวัดอื่นหรือเปล่า แต่ในวันนี้จะให้ทางปศุสัตว์รับเรื่องดำเนินการตามพิกัดที่ชาวบ้านร้องมา ซึ่งเมื่อวันที่ 8 ที่ผ่านมาได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบฟาร์มหมูไปแล้ว ซึ่งผลเป็น negative ไม่พบการติดเชื้อ เพราะถ้ามีโรค AFS อยู่จริงเชื้อจะอยู่เป็นปีไม่สลายไปง่ายๆ  

ซึ่งเราจะตรวจหาเชื้อ AFS ในฟาร์มให้อีกครั้ง ส่วนเรื่องจำนวนหมู เรามีสถิติของจำนวนหมูในแต่ละฟาร์มอยู่แล้ว สามารถเช็กยอดได้ตลอด ซึ่งผู้บริโภคจะต้องได้รับทราบข้อมูลอย่างแท้จริง ตามที่ท่านอธิบดีปศุสัตว์บอกว่า เชื้อAFS จะอยู่เป็นปี ถ้ามีการติดเชื้อตรวจยังไงก็ต้องเจอ ส่วนเรื่องโรงชำแล่ะตามที่ชาวบ้านชี้เป้ามา ขอให้มีพิกัดที่ชัดเจน ทางปศุสัตว์จะลงตรวจสอบว่าถูกกฏหมายหรือผิดกฏหมาย ถ้าทำผิดก็จะดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป 

ด้านชาวบ้านที่มาร้องเรียน หลังได้รับการชี้แจงจากรอง ผวจ.ราชบุรี ได้พอใจในระดับหนึ่ง แต่ได้ตั้งข้อสังเกตุว่า ถ้าจ.ราชบุรี ไม่มีการแพร่ระบาดของโรค AFS ทางฟาร์มจะขนหมูตายออกจากฟาร์มเพื่ออะไร และขนไปไหน ซึ่งชาวบ้านรู้ดีอยู่แล้วว่า ขนไปโรงชำแล่ะในแต่ละพื้นที่ และถ้าไม่มีโรคระบาด AFS ในจ.ราชบุรี ชาวบ้านที่ถ่ายภาพมาทั้งหมดนี้ จะเอาภาพการขนหมูตายมาจากไหน แต่เมื่อทางจังหวัดชี้แจงออกมาอย่างนี้ ชาวบ้านก็จะให้เวลาทางจังหวัดและปศุสัตว์ได้ทำงานก่อน  

/////////////////////////////////////////////////