Authority & Harm

พ่อผัวเครียดป่วยมะเร็งชักปืนยิงลูกสะไภ้ เขียนจม.ลาตาย-จ่อระเบิดขมับตายตาม



นครปฐม-พ่อผัวเครียดจัดทรมานป่วยเป็นมะเร็ง คว้าปืนยิงใส่ลูกสะใภ้ขณะกำลังเก็บกระชายหลังบ้านเตรียมเอาไปขาย หลังก่อเหตุเสร็จกลับไปเขียนจดหมายลาตายก่อนยิงตัวตายหนีความผิด โดนคนในบ้านและเพื่อนบ้านไม่มีใครให้ข้อมูลใดใด

วันนี้ 20 พ.ย.63 เวลา 09.30 น. พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรศรีนวล ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครปฐม ไดรับรับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันตาย 2 ศพที่บ้านเลขที่ 78/5 ม.5 ต.ทัพหลวง อ.เมืองนครปฐม จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.ปิยพงษ์ กล้วยไม้ รองผู้กำกับการสืบสวน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน แพทย์เวร รพ.ศูนย์นครปฐม เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม

ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้นที่หน้าบ้านข้างโรงจอดรถ พบศพ นายสุวรรณ เจกบุตร อายุ 64 ปี นอนเสียชีวิตบนแปลผ้า สภาพศพนอนหงายหัวตกลงมาจากเปล มีบาดแผลถูกยิงที่หัวมันสมองตกกระจายอยู่ที่พื้นที่ ใกล้มือขวา พบอาวุธปืน ขนาด 9 มม. ตกอยู่ 1 กระบอก  เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน 

ตรวจสอบที่หลังบ้านซึ่งเป็นโรงไม้ที่เก็บผักสด พบศพ นางสาวบุญรัตน์ แสงชัญ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 ม.8 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.กำแพงเพชร นอนเสียชีวิตสภาพนอนหงายแต่ก้นยังนั่งทับเก้าอี้ไม้แบบนั่งกับพื้น โดยชูมือ 2 ข้าง มีบาดแผลถูกยิงที่ปลายคาง 1 นัด มีปลอกกระสุนตกหลายปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยที่มีทั้ง 2 ข้างยังสวมถุงมือยาง ติดกันยังมีตระกร้าพลาสติกที่มีผักกระชาย อยู่ภายในและในพื้นที่หลังบ้านยังมีกระชายที่เก็บมารอการเก้บไปจำหน่ายอยูหลายถุง และในบ้านพบจดหมายที่นายสุวรรณ ได้เขียนระบายเอาไว้ตกอยู่ 1 ฉบับ มีข้อความระบุทำนอง ว่าไม่ต้องเสียใจที่ตนต้องตายเพราะมีความเจ้บปวดทรมาน ลงท้ายถึง คนชื่อนุ้ยผู้เป็นลูก

โดยเบื้องต้นสอบถาม ทราบว่า นายสุวรรณ เป็นพ่อสามีของนางสาวบุญรัตน์ ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน โดยบ้านนี้มีอาชีพขายผักสวนครัว คาดว่าแรงจูงใจน่าจะเกิดจาก ความเครียดที่นายสุวรรณ ป่วยเป็นโรคมะเร็งที่กำลังรักษาตัวอยู่ ประกอบกับอาจจะมีความขัดแย้งกับนางสาวบุญรัตน์ ลูกสะใภ้มานาน เมื่อคิดว่าตนเองจะต้องตายจึงได้คว้าอาวุธปืนไปยิงขณะลูกสะใภ้กำลังบรรจุกระชาย เพื่อเตรียมนำไปขายจนเสียชีวิต ก่อนจะมานอนที่เปลผ้าแล้วยิงหัวตัวเองเพื่อจบปัญหาที่คาใจและความทรมาณที่กำลังเป็นอยู่ 

ซึ่งในขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังจะสอบถามข้อมูลสามีของนางสาวบุญรัตน์ ได้พยามยามไม่ให้มีการเก็บข้อมูลและเมื่อไปสอบถามเพื่อนบ้านต่างก็ไม่ยอมมีใครให้ข้อมูล ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บข้อมูลเชิงลึกและส่งศพทั้งคู่ไปผ่าชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดต่อไป