Authority & Harm
สภ.เมืองราชบุรีจัดซักซ้อมแผนเสมือนจริง ตั้งโจทย์2โจรบุกเข้าจี้ธนาคาร
ราชบุรี-สภ.เมืองราชบุรี ซักซ้อมแผนเสมือนจริง เหตุคนร้ายบุกจี้ธนาคาร เพื่อพร้อมรับมือในสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ให้จนท.ตำรวจมีความตื่นตัวและหมั่นฝึกฝนยุทธวิธีให้คล่อง พร้อมรับมือทุกสถานการณ์
เมื่อ 27 ม.ค. ที่ริมเขื่อนรัฐประชาพัฒนา ถนนวรเดช อ.เมือง จ.ราชบุรี สภ.เมืองราชบุรี ได้จัดซักซ้อมแผนเสมือนจริง เหตุสองคนร้ายบุกจี้ธนาคาร โดยมี พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผบก.ภ.จว.ราชบุรี ค่อยสังเกตุการณ์ซักซ้อมแผนเสมือนจริง พ.ต.อ.จุมพล สิกเสน ผกก.สภ.เมืองราชบุรี, พ.ต.ท.อำนวย เด่นเวหา รอง ผกก.ป.สภ.เมืองราชบุรี, พ.ต.ต.กฤษฏิ์ชัช โพธิ์ไพบูลย์ สวป.สภ.เมืองราชบุรี เป็นผู้บัญชาการณ์ซักซ้อมแผน และมีจนท.ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี เข้าร่วมในการซ้อมแผนเสมือนจริงในครั้งนี้
สำหรับการซักซ้อมแผนดังกล่าว ได้ใช้หลักการปฏิบัติตามลำดับขั้นตอนอย่างรวดเร็วและปลอดภัย ตั้งแต่จนท.ตำรวจได้รับแจ้งเหตุ และส่งต่อให้จนท.สายตรวจรถจยย.ซึ่งรับผิดชอบในเขตที่เกิดเหตุจะดำเนินการเข้าสู่ที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว และปฏิบัติตามหลักของ จนท.ผู้เผชิญเหตุคนแรก(First responder) ในการสอบถามข้อมูลเบื้องต้น เพื่อเป็นรายละเอียดในการแจ้งให้จนท.ตำรวจ ที่ติดตามหรือวางแผนการสกัดจับ
ซึ่งการซักซ้อมแผน ได้สมมติสถานการณ์กรณีที่มีคนร้ายจำนวน 2 คน ก่อเหตุใช้อาวุธปืนเข้าไปชิงทรัพย์ในธนาคาร ธอส.ถนนคฑาธร ต.หน้าเมือง อ.เมือง หลังจากก่อเหตุได้ขับขี่รถยนต์ หลบหนีไปตามเส้นทางในพื้นที่เขตรับผิดชอบของสภ. เมืองราชบุรี เมื่อรถยนต์ของผู้ต้องสงสัยมาถึงบริเวณจุดสกัด คนร้ายที่อยู่ภายในรถซึ่งเป็นผู้โดยสาร ได้เปิดประตูออกมาและใช้อาวุธปืน ยิงใส่จนท.ตำรวจ จำนวน 1 นัด และวิ่งหลบหนีเข้าไปภายในบริเวณบ้านร้างในป่าละเมาะข้างทาง จนท.ตำรวจสายตรวจรถจยย. ได้วิ่งติดตามไปอย่างกระชั้นชิด เพื่อสังเกตคนร้ายที่หลบหนี
จากนั้นจนท.ตำรวจ จุดสกัด เข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องสงสัยหรือคนร้ายจากยานพาหนะ โดยยึดหลัก vsoc คือการออกคำสั่ง ให้คนร้ายถอยออกมาให้อยู่ห่างจากบริเวณยานพาหนะ เพื่อคนร้ายปฏิบัติตามคำสั่ง และอยู่ในตำแหน่งที่จนท.สามารถตรวจการณ์และมองเห็นตัวคนร้ายได้ แล้วเคลื่อนที่แบบผู้ตรวจไปในลักษณะของ Cover contact โดยให้คู่ตรวจจำนวน 1 คู่ ทำหน้าที่ตรวจค้นผู้ต้องสงสัย ตามที่ได้ฝึกอบรม ส่วนคู่ตรวจคู่ที่ 2 จะดำเนินการระวังป้องกันภัยคุกคามซึ่งอาจจะอยู่ที่รถ เมื่อตรวจค้นเรียบร้อยแล้วจนท.สายตรวจจะดำเนินการพันธนาการคนร้าย และดำเนินการควบคุมตัวคนร้าย
โดยในการทำงานของจนท.และการปฏิบัติการนั้น ให้มุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยและการระวังป้องกัน ซึ่งหากคนร้ายภายในรถต่อสู้จนท.หรือมีการโจมตี จนท.สามารถใช้อาวุธ ในการตอบโต้หรือเพื่อป้องกันตนเองได้ โดยเฉพาะเรื่องการตรวจค้นรถยนต์ทั้งส่วนที่ 1 ส่วนที่ 2 และส่วนที่ 3 ตามลำดับเมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้ว ให้จนท.สายตรวจที่ควบคุมตัวผู้ต้องหานำตัวผู้ต้องหามานั่งดูจนท.การตรวจค้นเมื่อการตรวจค้นเสร็จสิ้นแล้วดำเนินการส่งมอบพื้นที่ให้จนท.ที่พิสูจน์หลักฐานและพนง.สอบสวนดำเนินเก็บพยานหลักฐานต่อไป
ส่วนกรณีคนร้ายที่ได้วิ่งหลบหนีไปนั้นมีจนท.สายตรวจรถจยย.วิ่งติดตามไปและทราบว่าคนร้ายได้หลบเข้าไปอยู่ภายในบริเวณบ้านร้าง จนท.สายตรวจต้องรายงานให้ศูนย์สั่งการทราบ เมื่อศูนย์สั่งการทราบและผู้บังคับบัญชา ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ออกคำสั่งให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า เพื่อแก้ไขสถานการณ์โดยเริ่มจากมาตรการจากเบาไปหาหนัก เบื้องต้นจนท.สายตรวจ จะดำเนินการปิดล้อมที่เกิดเหตุ และจัดชุดเจรจาต่อรอง เพื่อเข้าพูดคุยกับคนร้ายและเกลี้ยกล่อมคนร้ายและควบคุมพื้นที่ โดยการประสานจนท.จราจร เพื่อไม่ให้ชาวบ้านหรือผู้บริสุทธิ์เข้ามาอยู่ในพื้นที่ปฏิบัติการและประสานหน่วยข้างเคียงเช่น ปพ. หรือหน่วยสนับสนุนทางการแพทย์ เพื่อเตรียมรองรับกับสถานการณ์
เมื่อเข้าควบคุมสถานการณ์เสร็จแล้ว กำลังชุดปฏิบัติการพิเศษได้นำตัวประกันและผู้บริสุทธิ์ ซึ่งถูกคนร้ายจับไป ส่งมอบให้จนท.สายตรวจ ซึ่งเป็นชุดรับตัวประกันออกมา เพื่อควบคุมและเพื่อสอบสวนหรือเก็บพยานหลักฐานอื่น เมื่อสถานการณ์ความรุนแรงดังกล่าวยุติลงแล้ว จึงแจ้งรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และส่งมอบพื้นที่ให้กับ จนท.ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี พนักงานสอบสวน และ จนท.พิสูจน์หลักฐาน เพื่อดำเนินการ จัดเก็บพยานหลักฐาน ในที่เกิดเหตุและแจ้งจนท.แพทย์เวร เพื่อเข้าร่วมชันสูตรศพของคนร้ายที่เสียชีวิต ในกรณีที่มีการวิสามัญเกิดขึ้น
สุจินต์ นฤภัย(เต้) จ.ราชบุรี