In Thailand
ความเผอเรอ!หนุ่มขายลอตเตอรี่เตือนภัย เกือบสูญเงินครึ่งแสน
ฉะเชิงเทรา-ความเผอเรอเป็นเหตุ หนุ่มขายลอตเตอรี่เตือนภัยหลังเกือบสูญเสียทรัพย์สินมูลค่าเฉียดครึ่งแสน ขณะขับรถเร่ขายย้ายสถานที่จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเมื่อช่วงเช้า แต่โชคดีที่มีพลเมืองดีเก็บกระเป๋าเงินสดพร้อมลอตเตอรี่อีก 78 ใบมาส่งคืนให้ผ่านทาง จนท.ตำรวจ ทั้งที่ครอบครัวยังลำบากหากไม่ได้คืน
เมื่อวันที่ 1 ก.พ.65 เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยสอบถามถึงสาเหตุที่ทำให้กระเป๋าสะพายใส่ลอตเตอรี่และเงินสดกว่า 3.7 หมื่นบาทของนายชัยกร สุวรรณสน อายุ 52 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 204 ม.7 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ที่ทำหล่นหายระหว่างทางขณะกำลังขับรถจักรยานยนต์ บรรทุกแผงขายลอตเตอรี่ขนาดใหญ่จำนวน 2 แผง เพื่อย้ายจุดขายจากบริเวณด้านหน้าร้านสะดวกซื้อปากซอยเข้าวัดนาคู ต.บางพระ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ไปเร่ขายยังในเขต อ.บ้านโพธิ์ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
โดยนายชัยกร ระบุว่า หลังจากได้นำแผงลอตเตอรี่ ออกมากางขายที่บริเวณหน้าร้านค้าสะดวกซื้อดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว จากนั้นในเวลาประมาณ 10.30 น. จึงได้ทำการเก็บแผงเพื่อที่จะย้ายจุดขายไปยังในเขตพื้นที่ อ.บ้านโพธิ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกัน ซึ่งระหว่างที่จะเคลื่อนย้ายได้พับเก็บแผงและใช้สายรัดแผงลอตเตอรี่ทั้ง 2 แผงติดกับตะกร้าใส่ของไว้ที่ด้านท้ายของเบาะรถจักรยานยนต์ จากนั้นได้หยิบเสื้อคลุมจากหน้ารถที่วางพาดทับไว้อยู่บนกระจกมองข้างมาสวมใส่
ระหว่างสวมเสื้อคลุมได้ทำการถอดกระเป๋าที่สะพายอยู่ออกมาวางไว้ที่ด้านบนแผงขายลอตเตอรี่ที่มัดติดกับตะกร้าท้ายรถเอาไว้แล้ว แต่หลังจากสวมเสื้อคลุมเสร็จ และหยิบหมวกกันน็อกขึ้นมาสวม ได้รีบขับรถออกมาจากบริเวณด้านหน้าร้านค้าสะดวกซื้อไปในทันที โดยที่ไม่ได้หยิบกระเป๋าใส่เงินและลอตเตอรี่มาสวมสะพายทับเสื้อคลุมติดตัวเอาไว้ตามเดิม ก่อนที่จะมารู้ตัวว่าได้ลืมหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมาสะพายไว้ ที่บริเวณเลยหน้าปั้มน้ำมันคาลเท็กซ์ ริมเส้นทางถนนสาย 314 ด้านฝั่งขาออกมาเพียงเล็กน้อย
จึงได้หันกลับไปดู แต่ไม่พบกระเป๋าแล้ว จึงรู้สึกใจหายและขาสั่น ก่อนที่จะรีบขับรถย้อนกลับมาตามเส้นทางเดิมที่ขับรถมาประมาณ 800 เมตร จนย้อนศรกลับมาถึงบริเวณทางสามแยกเข้าวัดนาคูตามเดิม แต่ไม่พบกระเป๋าที่หายไป จึงได้เข้าไปสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่อยู่ภายในป้อมควบคุมสัญญาณไฟเพื่อขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในป้อมได้บอกว่าไม่สามารถดูได้ พร้อมได้แนะนำให้เข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ตนจึงได้เดินทางเข้าไปนั่งรอคิวเพื่อเข้าแจ้งความกับร้อยเวร
แต่ระหว่างที่กำลังรอคิวอยู่นั้น ได้รับการประสานกลับมาผ่านทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้มีคนนำกระเป๋าเงินของตนเองที่หายไป เดินทางเข้าไปส่งมอบและลงบันทึกประจำวันเอาไว้ยังที่ สภ.แสนภูดาษ ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อกันระหว่าง 2 โรงพัก ตนจึงได้รีบเดินทางออกจาก สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ในทันทีโดยที่ยังไม่ได้ทำการเข้าพบร้อยเวร และได้รับกระเป๋าใส่ลอตเตอรี่และเงินสดรวมมูลค่าทั้งสิ้นเกือบ 5 หมื่นบาทคืนจากพลเมืองดี ซึ่งตนเองรู้สึกดีใจมากจนบอกไม่ถูก นายชัยกร กล่าว
ด้าน นางชุติกาญน์ สุวรรณสน อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98/97 ม.2 ต.สนามจันทร์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพี่สาวของนายชัยกร และเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ทั้งหมด ได้เดินทางมากล่าวขอบคุณต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แสนภูดาษ และพลเมืองดีที่เก็บกระเป๋ามาส่งคืน พร้อมกล่าวว่า ตนเองเป็นคนลงทุนซื้อลอตเตอรี่มาให้ผู้เป็นน้องชายขายเป็นรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยเฉพาะหลานสาวฝาแฝดที่ยังเล็กอยู่ เนื่องจากน้องชายไม่มีงานทำหลังจากเลิกอาชีพจากช่างซ่อมแอร์
เมื่อทราบว่าน้องชายทำกระเป๋าเงินและลอตเตอรี่หาย ก็ได้แต่ทำใจไว้แล้ว และเป็นห่วงความรู้สึกของน้องชายมาก เพราะเขาเป็นคนที่คิดมาก จึงได้ยกมือพนมขอต่อหลวงพอโสธรว่า “ขอให้มีคนใจดีมาพบเจอกระเป๋าที่หายไป” สุดท้ายจึงได้มีพลเมืองดีมาพบกระเป๋าที่ตกหายไปจริงๆ ก่อนที่จะได้ทรัพย์สินภายในคืนทั้งหมดอย่างครบถ้วน จากนั้นนางชุติกาญน์ จึงได้นำลอตเตอรี่ที่สูญหาย และได้กลับคืนมา แบบที่มีการจัดชุดละ 5 ใบในส่วนที่เหลือจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบนโรงพัก สภ.แสนภูดาษ ได้ช่วยกันซื้อไว้บ้างแล้วบางส่วน
นำมามอบให้แก่ทาง นายนพพร กุสุมายุทธ อายุ 56 ปี พร้อมนางปาลิกา กุสุมายุทธ อายุ 50 ปี ภรรยาผู้ที่เก็บกระเป๋าได้เพิ่มเติมอีก 1 ชุด จากที่นายชัยกร ได้มอบเป็นการตอบแทนไว้ให้ก่อนหน้าแล้ว 1 ชุด และนำมาแบ่งแจกจ่ายให้แก่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบนโรงพักอีกประมาณ 5-6 ชุดจนหมด โดยนำเพียงเงินสดจำนวน 37,825 บาท ที่เพิ่งได้คืนมากลับไปเท่านั้น
ขณะที่นายนพพร ผู้ที่เก็บกระเป๋าเงินได้ เปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากเก็บกระเป๋าลอตเตอรี่และเงินสดได้นั้น ได้ขับรถสวนทางกันกับนายชัยกร ที่ขับรถย้อนศรกลับมาหากระเป๋าด้วย แต่ตนเองไม่มั่นใจว่า นายชัยกร จะเป็นเจ้าของกระเป๋าตัวจริงหรือไม่ จึงได้นำมาส่งมอบคืนผ่านทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังที่ สภ.แสนภูดาษ ซึ่งเป็นโรงพักใกล้บ้าน เพื่อให้ผู้เป็นเจ้าของตัวจริงได้รับคืนกลับไป นายนพพร กล่าว
สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา