Travel Sport & Soft Power

สุดทน!โขลงช้างป่าฤาไนบุกทำลายพืชผล ผู้ช่วยฯเศร้าใจมันย่ำทุกอย่างที่ขวางหน้า



ปราจีนบุรี-ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเขาไม้แก้ววิ่งหนีตาย!!พบช้างป่ายกฝูงใหญ่บุกหมู่บ้านกว่า 50 ตัว ย่ำทุกอย่างที่ขวางหน้า ไร่มัน นาข้าว มะละกอเละตุมเป๊ะ

วันนี้ 21 พ.ย.63 ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรี รายงานว่า   ได้รับร้องทุกข์จากนายอำนวย เงินโสม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่  8   บ้านโปร่งศรีเจริญ ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี  เมื่อช่วงเช้า เวลา 06.00 น.ได้มีช้างป่าจากเขาอ่างฤาไนกว่า 50 ตัว  พากันยกฝูงมาหากินพืชไร่ในหมู่บ้านตลอดทั้งคืนสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนในหมู่บ้าน   จึงแจ้งหน้าที่อนุรักษ์เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา  ป่าราบต่ำผืนสุดท้ายของไทยในป่ารอบต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก ( จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.ชลบุรี,จ.จันทบุรี และ จ.ระยอง)  ขอให้เข้ามาผลักดันกลับแปดริ้ว หรือ จ.ฉะเชิงเทราถิ่นที่อยู่เมื่อคืนที่ผ่านมากระทั่งรุ่งสางรับแจ้งจาก นายจำนงค์ คำนวน  ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.8 บ้านโปร่งศรีเจริญ ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี  ว่าวิ่งหนีตายช้างป่าตัวใหญ่ 2 ตัว   ล้มลุกคลุกคลาน  จนเกือบถูกช้างป่าทำร้ายหวุดหวิด

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่   เดินทางไปยังบ้านโปร่งศรีเจริญ    เพื่อพบกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว โดยนายจำนงค์ คำนวน ได้พาไปดูที่เกิดเหตุ   พร้อมกับเล่าถึงวินาทีความเป็นความตายเกิดเหตุที่เผชิญหน้ากับช้างป่าอย่างจัง โดยในนาทีระทึกขวัญ  ต่างคนต่างตกใจ   ทั้งช้างป่าและตนเองได้ผละหนีกัน นายจำนงเล่าต่อไป  ในช่วงว่าเวลาประมาณ 06.00 น.  ตื่นนอนอยู่ที่บ้าน   ได้ยินเสียงไม้ไผ่ที่ห่างจากบ้านประมาณ 80 เมตร   เสียงดังโครมครามๆๆ ในใจคิดว่าอาจจะเป็นช้างป่าหรือไม่?  จึงหยิบปืนลูกซอง 5 นัด   ก้าวลงจากบ้าน   เดินไปยังสวนมันของลูกบ้าน   ขณะที่เดินลัดมาในป่ายางพารา   สายตาได้พบอะไรตะคุ่มตะคุ่มอยู่ตรงหน้า   ห่างกัน 10 เมตร   จึงค่อยๆย่องไปดู   เพื่อให้แน่ใจ!ทันใดนั้นขนลุกทั้งตัว   แต่ด้วยความกลัวจึงส่งเสียงร้องว่า "ช้างๆๆ"   ทันใดนั้นช้างป่า 2 ตัว   ที่กำลังยืนอยู่ข้างกอมันสำปะหลัง  หลังตกใจเสียงร้องของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน   ช้างป่าส่งเสียงร้อง  และ  ได้วิ่งหนีไป

นายจำนงค์ได้รีบวิ่งหนีเอาตัวรอดจากจุดดังกล่าวมาประมาณ 10 เมตร   จนสะดุดขาตัวเองล้มลง   และพยายามลุกขึ้นวิ่งหนีต่อออกจากจุดดังกล่าว   และได้ล้มลงอีกครั้งหนึ่งตอนนั้นด้วยความกลัวตายรีบคว้าปืนลูกซองยาว 5 นัดได้แล้วรีบวิ่งกลับมาที่บ้าน     ส่งเสียงให้ภรรยาและเพื่อนบ้านได้รู้ว่ามีช้างป่าอยู่ที่ท้ายไร่มันสำปะหลัง   กำลังเดินออกไปทางป่าอ้อยในเวลาต่อมาแน่ใจแล้วว่าช้างป่าออกจากจุดนั้นไปแล้ว    จึงแอบเข้าไปดูพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง   พบร่องรอยช้างป่าเหยียบย่ำมันสำปะหลังเป็นทางยาวราบเป็นหน้ากลอง

ต่อมาได้รับรายงานว่านาข้าวของลูกบ้าน   ซึ่งอยู่ห่างจากจุดนี้ไปประมาณ 800 เมตร   พบว่าฝูงช้างป่าลงเหยียบย่ำนาข้าว   ที่กำลังจะเก็บเกี่ยวในอีก 2 วันนี้ เสียหายเกือบทั้งหมด 5 ไร่    และได้รับแจ้งว่าช้างป่าได้บุกไร่มะละกอของลูกบ้านที่ปลูกไว้บนเนื้อที่ 20 ไร่    เจ้าของได้เก็บมะละกอดิบออกจากสวนราว 2 ตัน  ขายส่งพ่อค้าแม่ค้าในตลาด

นอกจากนี้ยังพบว่าฝูงช้างป่าได้อาศัยอยู่ในป่าอ้อย   ห่างจากป่ามะละกอไปประมาณ 300 เมตร   ทำให้ป่าอ้อยเสียหายราบเป็นหน้ากลองอีก 1 จุด   ราว 1 ไร่ ขณะนี้ยังไม่พบตัวช้างว่าอยู่จุดใดแน่ชาวบ้านได้พากันเฝ้าระวังกันอยู่

นางเลื่อน งามสวย อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 328 ม.8 บ้านโปร่งศรีเจริญ เจ้าของนาข้าวกล่าวว่า    ตอนแรกได้ยินเสียงดังอยู่สวนหลังบ้าน   และได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนบ้านว่ามีช้างเข้ามาอยู่ในหมู่บ้าน   จึงอยู่แต่ในบ้าน จนกระทั่งรุ่งเช้าออกมาดูหลังบ้าน เมื่อมองออกไปยังทุ่งนาที่อยู่หลังบ้านเห็นรอยช้างหลายตัวเดินผ่านรั้วบ้านไปจึงเดินออกไปดูที่นาข้าว   พบว่ารอยช้างกัดกินเหยียบย่ำนาข้าวเสียหายเกือบ 5 ไร่   พูดไม่ออกและไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้คิดอย่างเดียว "ปลง"   ทำอะไรไม่ได้แล้ว   ทำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาข้างหมู่บ้านมีช้างป่าเข้ามาแทบทุกปีแต่ไม่คิดว่าช้างป่าจะมาเหยียบย่ำนาข้าวเสียหายเช่นในวันนี้ จากนี้ไปไม่รู้ว่าช้างป่าจะมาอีกหรือไม่ได้แต่คอยเฝ้าระวังตัวเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานเพิ่มเติม  สำหรับโขลงช้างป่าจากเขาอ่างฤาไน  ชาวบ้านแปดริ้วพยายามผลักดันออกจากพื้นที่ตนเอง และ  มักเข้ามาพื้นที่ จ.ปราจีนบุรีที่ติดต่อกัน  ล่าสุดคาดเป็นโขลงเดียวกันกับที่เหยียบนายบุญเหลี่ยม ทองวัน อายุ 63 ปี อยู่บ้านมาบสมบูรณ์ ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา  พื้นที่ติดต่อกับ จ.ปราจีนบุรี     จนได้รับบาดเจ็บจากถูกช้างเหยียบเข้าที่บริเวณชายโครงด้านหน้า และมีอาการปวดสะโพกขวา ไม่สามารถลุกขึ้นเดินได้   โดยนายบุญเลี่ยม ถูกช้างป่า ใช้เท้าหน้าเหยียบที่บริเวณชายโครง และจะกระทืบซ้ำ เมื่อตั้งสติได้จึงยกมือไหว้ ร้องขอชีวิต บอกกับช้างว่า ‘อย่าทำผมเลย’ ช้างจึงยืนมองหน้าจ้องมาที่ตาของตนประมาณ 2 นาที ก่อนยกขาออกจากลำตัว หันหลังเดินกลับเข้าป่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 พ.ย.63

มานิตย์   สนับบุญ/ปราจีนบุรี