In Thailand

เครือข่ายอาชีวะบุกสภาฯยื่นให้สอบสอศ. ส่อขัดระเบียบ-กม.-หลักธรรมาภิบาล



กรุงเทพฯ-"เครือข่ายอาชีวะ ลุยสภาผู้แทนราษฎร ยื่นตรวจสอบการบริหารงานอาชีวะส่อขัดต่อระเบียบกฎหมายและหลักธรรมาภิบาล"

นายเศรษฐศิษฎ์ ณุวงค์ศรี ประธานเครือข่ายคนรักษ์อาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย (ค.ร.อ.ท.) ได้ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวว่าวันนี้ตนได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายนพคุณ รัฐผไท ประธานกรรมาธิการการศึกษาสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับหนังสือแทน  

โดยนายเศรษฐศิษฎ์ ได้กล่าวว่า การมายื่นเรื่องในวันนี้ตนมาในฐานะของภาคประชาชน และเป็นตัวแทนผู้ที่ได้รับผลกระทบให้ทางรัฐสภา ดำเนินการตรวจสอบการบริหารงานของเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ กรณีการทุจริตสอบครูผู้ช่วย เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2565 ที่สนามสอบวิทยาลัยเทคนิคบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ และที่สอบสนามสอบอื่นๆทั่วประเทศ  กรณีมีกระแสข่าวการทุจริตสอบครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ซึ่งทางเครือข่ายคนรักษ์อาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย (ค.ร.อ.ท.)ได้รับการร้องเรียนและทราบจากสื่อมวลชนตามที่ นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในฐานะเป็นผู้ที่กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) ได้ออกมาให้ข่าวต่อสื่อมวลชนนั้น ว่ามีการทุจริตการสอบครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ว่ากรณีการสอบแข่งขัน ครูผู้ช่วย เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2565 ทางสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ดำเนินการไม่เป็นไปตามระเบียบกฎหมายและมาตรฐานการสอบอย่างเคร่งครัด ซึ่งที่ตนทราบมามีทั้งเรื่องการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้าสอบซึ่งไม่ได้ตรวจสอบคุณสมบัติตามมาตรา 30 แห่ง พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 โดยเคร่งครัด การออกข้อสอบมีข้อบกพร่องหลายประการ รวมถึงปรากฎข่าวว่าในหลายพื้นที่โดยเฉพาะที่พื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ นั้นมีการจับผู้เข้าสอบได้พร้อมหลักฐานที่เกี่ยวข้องซึ่งน่าจะมีการทุจริตและทำการทุจริตเป็นขบวนการ คือมีการทำเครื่องหมายที่ดินสอที่ผู้เข้าสอบนำเข้าไปใช้ฝนทำข้อสอบ แต่ทางสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ยังนิ่งเงียบเฉยไม่ได้สั่งการแจ้งความเอาผิดหรือสอบสวนวินัยผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้เข้าสอบ และถ้าหากมีผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดก็จะต้องสั่งลงโทษทั้งทางวินัยและทางอาญาต่อไป 

และตนอยากฝากไปถึงนายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ว่าการรายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการว่าการสอบนั้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อยบริสุทธิ์ยุติธรรมทุกสนามสอบนั้น  ขอให้ได้ตรวจสอบ รายละเอียดข้อมูลให้ชัดเจนทุกสนามสอบเสียก่อน หากกรรมการสนามสอบหรือผู้เข้าสอบมีการยื่นเรื่องร้องเรียนก็ขอให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาด้วยความเป็นธรรม ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากกว่าการปกปิดข่าว

และในวันนี้ตนได้มาติดตามเรื่องการสอบการรับสมัครคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ตามประกาศ ลงวันที่ 6 มกราคม 2565 จำนวน 51 ตำแหน่ง และเรื่องของการแต่งตั้งกรรมการสภาสถาบันการอาชีวศึกษาตามมาตรา 23(3) ตามหนังสือสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาที่ ศธ 0614/239 ลงวันที่ 14 มกราคม 2565 พร้อมทั้งได้ยื่นเอกสารหลักฐานสำคัญ เพื่อให้ฝ่ายนิติบัญญัติได้ดำเนินการตรวจสอบ ตามกระบวนการของรัฐสภาต่อไป