In Thailand

'ดราม่าคาเฟ่'คุ้งกระถินร้านแจง'ขอโทษ' สื่อสารกันผิดจนถูกสื่อออนไลน์ทุบยับ



ราชบุรี - จากกรณีสาว โพสต์รีวิวคาเฟ่เปิดใหม่แห่งหนึ่ง แถวคุ้งกระถิน ที่เจ้าตัวขอทางร้านนำเก้าอี้มาถ่ายรูป แต่เกิดพลาดหักต้องจ่ายค่าเสียหาย 500 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้เธอได้ถามทางพนักงานแล้ว และได้รับอนุญาตแล้ว แต่หลังจากเกิดเรื่องขึ้นก็ต้องถามพนักงานว่าทำไมไม่ติดป้ายเตือน แต่ผู้จัดการร้านกลับตอบว่า ติดเตือนแล้ว แต่ไม่ได้ติดทุกตัว

ล่าสุดวันนี้ (8 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ น.ส.วชิราภรณ์ ทรัพย์อร่าม อายุ 31 ปี เจ้าของโพสต์ โดยเปิดเผยว่า ปกติเธอเป็นคนที่ชอบถ่ายรูปตามคาเฟ่ จนเมื่อวันเสารที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 09.30 น. เธอได้เดินทางไปร้านดังกล่าว และสั่งกาแฟ 1 แก้ว แล้วเดินลงไปรอที่โซนริมน้ำด้านล่าง เพื่อจะไปถ่ายรูป ซึ่งในขณะนั้นทางร้านยังไม่ได้กางโต๊ะและเก้าอี้ไว้รองรับลูกค้า เธอจึงเดินไปหยิบโต๊ะมา แล้วถามพนักงานว่า หยิบโต๊ะไปนั่งถ่ายรูปได้ไหม พนง.บอกว่าได้ เธอจึงนำโต๊ะออกไปกางที่ท่าน้ำด้านนอก พอตนนั่งลงไปเหล็กของโต๊ะก็ยุบหักพังลงมา ทำให้ตนก้นกระแทกลงไปกับพื้นไม้อย่างแรง เธอจึงเรียกน้องพนง.ว่าโต๊ะหัก และน้องมาถ่ายรูปโต๊ะที่หักไป 

เธอยังถามน้องว่า เก้าอี้มันนั่งได้จริงๆใช่ไหม น้องยังตอบว่าได้ ลูกค้านั่งหักไปหลายคนแล้ว ซึ่งตอนนั้นตนยอมรับว่าเจ็บไม่เท่าไร แต่อายมากกว่า ซึ่งเธอไม่ได้คิดอะไรและไม่คิดว่าเขาจะมาเก็บค่าเก้าอี้ด้วย จนผจก.ร้านมาแจ้งว่า ต้องเก็บค่าเก้าอี้ที่เสียหายไป 500 บาท ซึ่งตนก็อึ้ง ทำไมเธอต้องจ่าย เราสอบถามแล้วว่านั่งได้ ผจก.ก็ยิ้มๆ แต่ไม่ได้เรียกพนง.มาสอบถามใดๆ แต่เธอก็ยอมจ่ายไปเพราะอยากให้เรื่องจบๆ ไม่อยากมีปัญหา ซึ่งเธอมาที่ร้านนี้ ถึง 3 ครั้งแล้ว 

น.ส.วชิราภรณ์ เล่าอีกว่า เหตุผลที่เธอนำเรื่องราวไปโพสต์ เพราะคิดว่ามันไม่แฟร์กับลูกค้า คุณต้องมีไว้บริการลูกค้า ซึ่งก่อนจะหยิบเธอก็สอบถามแล้วน่ะ เธอไม่อยากให้ใครโดนแบบนี้ หลังจากที่เธอโพสต์ไป ผจก.ได้เข้ามาคอมเม้นท์ และขอเลขบัญชีเธอ เพื่อจะโอนเงินคืน แต่เธอคิดว่า เธอรอเขามานานพอสมควรแล้ว ทำไมไม่ติดต่อมา พอเป็นข่าวถึงจะติดต่อมา ซึ่งการขอเลขบัญชีมันไม่ได้แสดงถึงการขอโทษจากใจจริง เหมือนจะทำให้มันจบๆไปเท่านั้นเอง เธอไม่ได้ต้องการอะไรมากขอเพียงแค่คำขอโทษที่จริงใจเท่านั้นเอง เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องทางร้านไม่เคยโทรมาหาเธอเลยสักครั้งเดียว

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังร้าน POUR OVER LAB สาขาราชบุรี เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับทางพนักงานร้าน และผู้จัดการร้าน ตลอดจนเจ้าของร้าน โดยได้เปิดใจกับทีมข่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้น เกิดจากการเข้าใจผิดในการสื่อสารระหว่างน้องพนักงานและลูกค้า ซึ่งทางร้านก็พยายามติดต่อไปยังลูกค้า เพื่อทำความเข้าใจและจะคืนเงินให้ เพื่อให้เรื่องราวทุกอย่างจบลงด้วยดี แต่ทางลูกค้าไม่รับฟังพร้อมอ้างกับทางร้านว่า "ข่าวออกไปแล้ว และมีสื่อหลายช่องรอขอสัมภาษณ์อยู่" ซึ่งทางร้านก็งง ทำไมสื่อที่เอาข่าวไปลง ถึงไม่มาติดต่อสอบถามกับทางร้าน ทั้งที่ทางร้านมีทั้งคลิปจากกล้องวงจรปิด และพนักงานกว่า 11 ชีวิต ยืนยันเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งเหมือนเป็นการเสนอข่าวด้านเดียว

โดยเรื่องราวในครั้งนี้ ทำให้ทางร้านได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก เพราะสื่อต่างๆลงข่าวทำนองว่า "ทางร้านไปหลอกลวงลูกค้า ให้นำโต๊ะไปนั่ง เพื่อคิดเงินกับทางลูกค้า" ทำให้ทางร้านเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก หลังมีการเสนอข่าวทำให้ทางร้านเสียชื่อเสียงไปแล้ว ถึงจะมาขอข้อมูลกับทางร้าน ซึ่งทางร้านคิดว่าไม่ใช่ ทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง มีแค่เพียงสื่อหัวเขียวเท่านั้น ที่ติดต่อเข้ามาสอบถามเรื่องราวความเป็นจริงทั้งหมด ซึ่งทางร้านได้ปรึกษากับทางทนายแล้ว ในการฟ้องดำเนินคดีกับสื่อและผู้เกี่ยวข้องที่ทำให้ทางร้านเสียหายเสียชื่อเสียง

น.ส.สริตา อมิตาไชยกุล พนง.ที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้เล่าเรื่องราวให้ฟังว่า วันเกิดเหตุ เธอได้ถูพื้นเพื่อรีดน้ำอยู่ที่ท่าน้ำด้านล่าง เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในก่อนหน้านี้ และร้านยังไม่จัดโต๊ะบริการรองรับลูกค้า ซึ่งลูกค้าคนดังกล่าว ได้เดินลงมาที่กองโต๊ะกับเก้าอี้ แล้วถามตนว่า เก้าอี้ เอาไปนั่งได้ไหม เธอตอบว่า นั่งได้ ซึ่งเธอไม่ได้หันไปมอง เพราะคิดว่าลูกค้าคงจะหยิบเก้าอี้ไปไม่ใช่โต๊ะ จากนั้นเธอก็ขึ้นมาด้านบน แต่เมื่อกลับไปที่ด้านล่างเพื่อตั้งโต๊ะ เธอก็เห็นขาเหล็กโต๊ะหักวางกองอยู่ เธอจึงหยิบไปถามลูกค้าว่า "พี่ทำขาโต๊ะหักใช่ไหมค่ะ" ลูกค้าบอกว่า "ใช่ แต่แผ่นไม้โต๊ะหล่นไปในน้ำ" เธอจึงไปแจ้งที่หน้าร้าน แล้วกลับมาถ่ายรูปขาเหล็กที่ได้รับความเสียหายไว้ จนผู้จัดการร้านกลับมา เธอก็ไม่ได้รู้เรื่องที่ทางผู้จัดการร้านกับลูกค้าตกลงกันอย่างไร

ขณะที่ น.ส.เอื้ออารีย์ พยัคฆ์ ผู้จัดการร้านเปิดเผยว่า หลังจากที่เธอได้รับเรื่อง เธอจึงรีบไปเชคดูเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิด แล้วแจ้งกับลูกค้าต้องขอเก็บค่าเสียหาย 500 บาท ซึ่งลูกค้าได้ทำโต๊ะหัก ซึ่งทางลูกค้าแย้งว่า "มาหลายครั้งแล้ว ถ้านั่งไม่ได้ทำไมไม่ติดป้ายว่าห้ามนั่ง" แล้วลูกค้าก็ยอมจ่ายแบบไม่เต็มใจและกลับออกไป ซึ่งที่เธอไม่อธิบายมาก เพราะเราเห็นว่าลูกค้าบอกว่า"มาหลายครั้งแล้ว ก็ต้องทราบอยู่แล้วว่า โต๊ะเซทนี้ ตัวไหนคือโต๊ะ ตัวไหนคือเก้าอี้" 

ซึ่งโต๊ะเป็นยี่ห้อ อินเด็กซ์ ราคาของโต๊ะเซทนี้จะอยู่ที่ราคากว่า 2,000 บาท ซึ่งถ้าซื้อแยกเป็นตัวๆราคาจะแพงกว่าซื้อเป็นชุด แต่ทางเราเก็บเงินกับทางลูกค้าแค่ 500 บาทเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมา เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ จนโต๊ะของทางร้านเสียหายไปหลายตัวแล้ว ทางร้านจึงนำป้ายมาติดว่าห้ามนั่ง ซึ่งโต๊ะที่ทางลูกค้าทำหักไป ก็ยังมีคราบเทปกาวที่ติดไว้และหลุดออกไป ซึ่งทางร้านยืนยันได้ติดป้ายห้ามนั่งบนโต๊ะทุกตัว แต่จะมีบางตัวที่ป้ายอาจจะหลุดหายไปบ้าง 

ผู้จัดการร้าน ยังเปิดเผยอีกว่า จากคลิปกล้องวงจรปิด หลังจากที่ลูกค้านั่งโต๊ะหักแล้ว ตัวพื้นโต๊ะได้ตกลงไปในแม่น้ำ ลูกค้าก็ถือแค่เหล็กมาวางที่เดิม ทางร้านก็ต้องไปงมพื้นโต๊ะเอาเอง และลูกค้าก็ไม่ได้ถือเหล็กโต๊ะที่หักมาแจ้งทางร้าน แต่พนักงานของทางร้านถือเหล็กโต๊ะที่หัก ไปสอบถามกับทางลูกค้าเอง ซึ่งทางร้านมีคลิปกล้องวงจรปิดยืนยันเรื่องราวทั้งหมด แต่เพจและสำนักข่าวบางสื่อ ได้เสนอข่าวว่าทางร้านเรา "หลอกให้ลูกค้ามานั่งเก้าอี้ที่หัก เพื่อจะเรียกเก็บเงิน 500 บาท ทำให้ทางร้านเราได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก" ทำไมไม่มาติดต่อสอบถามข้อเท็จจริง ว่าเป็นอย่างไร มีเพียงสื่อหัวเขียวเท่านั้่น ที่ติดต่อเข้ามาสอบถามเรื่องราวทั้งหมดตอนบ่าย 2 โมงเท่านั้น 

เธอไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของลูกค้า ที่นำไปโพสต์ต้องการอะไร และอยากรู้ว่าจะทำไปทำไม ซึ่งหลังจากมีกระแสข่าวออกไป ทางเจ้าของร้านให้เธอติดต่อขอทำความเข้าใจ และขอเลขบัญชีลูกค้า เพื่อทำการโอนเงินคืนลูกค้า เพื่อความสบายใจของทั้ง 2 ฝ่าย แต่ลูกค้าอ้างว่า ข่าวออกไปแล้ว จะให้ทำอย่างไร และลูกค้ายังไม่สะดวกที่ติดต่อ เพราะมีสื่อหลายช่องรอขอสัมภาษณ์อยู่ แล้วจะให้ทางร้านทำอย่างไร เธออยากถามทางสังคมว่า "ทางร้านทำผิดอะไรหรือค่ะ ถึงมาเสนอข่าว ประจานร้านของเธอให้เสียหายขนาดนี้" 

ด้าน น.ส.ปาณิสรา เอี่ยมโหมด เจ้าของร้านเปิดใจว่า ตอนนี้ทางร้านได้รับความเสียหายมาก เนื่องจากมีหลายเพจและสำนักข่าว เอาโพสต์ดังกล่าวไปเสนอข่าวข้างเดียว โดยไม่ได้มาสอบถามข้อเท็จจริงกับทางร้านเลย ทำให้ลูกค้าเข้าใจผิดเกี่ยวกับทางร้านเรา ซึ่งทางเพจของเราก็ได้ชี้แจงผ่านหน้าเพจของเรา และเข้าไปแสดงความเห็นชี้แจงในเบื้องต้น แต่กลับไม่มีสื่อใดติดต่อสอบถามข้อมูลข้อเท็จจริงจากทางร้านของเราเลย แต่กลับเสนอข่าวให้ทางร้านผิด หลอกลวงลูกค้า จนทางร้านเราเสียหายไปแล้ว ถึงจะมาขอติดต่อสอบถามกับทางร้าน แบบนี้ถูกต้องแล้วหรือ ซึ่งตอนนี้ทางเรากำลังปรึกษาฝ่ายกฏหมาย ว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปอย่างไรดี และได้ลงตัดสินใจจะฟ้องเอาผิดกับทางเพจและสำนักข่าวและบุคคลที่ทำให้ร้านเกิดคาวมเสียหาย

ทางร้านของเรายืนยันได้ว่า ได้ติดป้ายคำว่า "ห้ามนั่งโต๊ะทุกตัว" แต่เนื่องด้วยเวลาลูกค้ามาจะถ่ายรูปแล้วกลัวไม่สวย จึงได้แกะออกไปเองบาง หรือบางตัวก็โดนน้ำแล้วเกิดหลุดไป จริงๆแล้วช่วงเปิดร้านใหม่ๆ ได้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาแล้ว ซึ่งทางเราก็ยอมไม่ได้เก็บเงินลูกค้าแต่อย่างใด จนทางร้านต้องเสียเงินซื้อโต๊ะมาใหม่ จึงพยายามหาทางแก้ไขปัญหา ไม่ให้ลูกค้าเข้าใจผิดว่า โต๊ะเป็นเก้าอี้ แล้วนำไปนั่งจนเกิดอุบัติเหตุและเสียหาย

ซึ่งถ้าทางร้านเราผิด เรายินดีขอโทษ และอยากจะขอโทษลูกค้า ที่อาจจะมีการสื่อสารกันผิดระหว่างลูกค้ากับทางพนักงาน แต่อยากจะฝากเป็นอุทาหรณ์สำหรับเพจข่าว หรือสำนักข่าวต่างๆ ก่อนจะโพสต์หรือเสนอข่าวอะไร อยากให้ฟังความทั้ง 2 ข้างด้วย เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน ในการเสนอข่าวที่ถูกต้องทั้งสองด้าน 

สุจินต์ นฤภัย(เต้) จ.ราชบุรี