In Thailand

เร่งพัฒนา'เมืองจะนะ'ฐานเศรษฐกิจใหม่ เพิ่มความมั่นคงให้จังหวัดสงขลา



สงขลา-แม้ว่า”จะนะ” จะไม่เคย”ห่างหาย” จากการก่อการร้ายนับตั้งแต่ปี 2536 ที่เคยมีคดี”4 โต๊ะครู” เกิดขึ้น จากการ “ก่อวินาศกรรม”ทางรถไฟ และ ผลจากการ สืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ได้มีการจับกุม 4 โต๊ะครู” เป็นผู้ต้องหา ซึ่งนั้นคือ”ปฐมบท” ที่ทำให้คนทั่วไปรู้จัก อำเภอจะนะ ว่าเป็นพื้นที่ที่มีการ”เคลื่อนไหว”ของขบวนการแบ่งแยกดินแดน และมีความ”เชื่อมโยง”ทุกครั้งกับการ”ก่อการร้าย” ใน อ.หาดใหญ่ และเป็นที่สังเกตุว่าในทุกปี “แนวร่วม” ขบวนการแบ่งแยกดินแดน จะมีการ”ก่อเหตุ” ในพื้นที่ อ.จะนะ ในเขต ต.บ้านนา” อย่างน้อย 2 ครั้ง ต่อไปเหมือนกับเป็นการบอกอย่างเป็น”นัยยะ” ว่า “จะนะ” คือหนึ่งในพื้นที่”อิทธิพล”ของขบวนการแบ่งแยกดินแดน

แต่...การปิดล้อมตรวจค้น โรงเรียนสอนศาสนา และ มัสยิด ในบ้าน”โคกเค็ด” ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟจะนะมากนัก เมื่อวันที่ 3 กพ.ที่ผ่านมา โดยหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และสามารถ”วิสามัญ” สมาชิกของขบวนการแบ่งแยกดินแดน ได้ 3 ราย และ”จับเป็น” ได้ 1 ราย ซึ่งเกือบทั้งหมดมี”ถิ่นฐาน” บ้านเกิดในพื้นที่ ถือว่าเป็น ปฏิบัติการครั้งแรกที่”ชัดเจน” แบบที่ ไม่มีใครกล้าที่จะ”ปฏิเสธ” ว่า “จะนะ” ไม่มี กองกำลังติดอาวุธของ บีอาร์เอ็น ไม่มีการ”ส้องสุม” กำลังใน”จะนะ” เพื่อเตรียมปฏิบัติการ ก่อการร้าย ในพื้นที่ อื่นๆ โดยเฉพาะ อ.หาดใหญ่ อ.สะเดา และ อำเภอเมือง ซึ่งเป็นเมือง”เศรษฐกิจ”ของ จ.สงขลาความปลอดภัยใน”อนาคต”ของ พื้นที่”เศรษฐกิจ” เหล่านี้ คือต้องทำให้ พื้นที่ อ.จะนะ เป็นพื้นที่”สีเขียว” หมายถึง ไม่มีกองกำลังติดอาวุธของขบวนการแบ่งแยกดินแดนเข้ามา เคลื่อนไหว ไม่เป็นที่”บ่มเพาะ” และไม่เป็นที่ “ส้องสุม” กำลัง เพื่อเตรียมการก่อการร้ายในพื้นที่อื่นๆ ของ จ.สงขลา  “จะนะ” ต้องสร้างให้เป็นพื้นที่”กันชน” เพื่อความปลอดภัยของ เมือง”เศรษฐกิจ” อื่นๆ เช่น หาดใหญ่ เมือง หรือ สะเดา

การพัฒนาให้ อ.จะนะ เป็น”เมืองอุตสาหกรรม” คือ”หนทาง” ของการแก้ปัญหา เพราะการเกิดขึ้นของ”อุตสาหกรรม” จะทำให้ คนมีงานทำ คนมีความรู้ พื้นที่ทั้งหมดจะมีความเจริญเติบโต เพราะมี”เทคโนโลยี” ที่ทันสมัยเข้าไปในพื้นที่ เป็นการติดอาวุธทางปัญญา”ทางอ้อม” ให้กับคนในพื้นที่ 

วันนี้คนใน อ.จะนะ ไม่มีงานทำ ต้องเดินทางไป ทำงาน ในประเทศมาเลเซียเป็นจำนวนมาก ล้วนเป็น”บ่อเกิด” ของการที่ถูก”ชักจูง” เข้าสู่ขบวนการแบ่งแยกดินแดนได้ง่าย รวมทั้งการ”ว่างงาน” ของคนในพื้นที่ ก็กลายเป็น”จุดอ่อน” ให้ถูก ชักจูง เข้าไปเป็นสมาชิกขบวนการได้ง่ายขึ้น

วันนี้ รัฐบาล รวมทั้ง กองทัพ ต้องเร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ อ.จะนะ ด้วยการ ผลักดัน ให้ “เมืองต้นแบบที่ 4 “ หรือ “เมืองอุตสาหกรรมแห่งอนาคต” เกิดขึ้นโดยเร็วที่ อ.จะนะ เพื่อที่จะให้ การ”พัฒนา” ที่เกิดขึ้น เป็นการทำให้ อ.จะนะ ไม่เป็นที่”บ่มเพาะ” ไม่เป็นที่”ส่องสุม” และ ไม่เป็นที่ วางแผน ปฏิบัติการ ของขบวนการ แบ่งแยกดินแดนอีกต่อไป

เพราะหากไม่แก้ด้วยการ”พัฒนา” ด้วยการ สร้างความเจริญจากการเกิดขึ้นของ”อุตสาหกรรม” พื้นที่ อ.จะนะ ก็จะเป็นพื้นที่ “เคลื่อนไหว”ของ แนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดนต่อไป และอาจจะเติบโต เช่นเดียวกับพื้นที่ อื่นๆใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่าคิดว่า “วิสามัญ” แนวร่วมไปแล้ว 3 ราย และ จับเป็นได้ 1 ราย เป็นการ จบปัญหาของ ขบวนการแบ่งแยกดินแดนที่ อ.จะนะ เพราะสิ่งที่เป็นจริงคือ “จะนะ” ไม่ได้มี”แนวร่วม” เพียง 4 คน ที่เห็นชัดเจนคือ หลังการ”วิสามัญ”เกิดขึ้น เพียงไม่กี่ชั่วโมง” แนวร่วม” ในพื้นที่ก็มีการ”เอาคืน” ด้วยการ วางระเบิดแสวงเครื่อง ที่สร้างความสูญเสียให้กับ ประชาชน ที่โดน”ลูกหลง” และ เจ้าหน้าที่ ชุดเก็บกู้ระเบิด ที่ต้องกลายเป็นคน”พิการ”ไปตลอดชีวิต

คนในจะนะ ส่วนใหญ่ พร้อมแล้วที่จะร่วมกัน “ผลักดัน” ให้ เมืองต้นแบบที่ 4 เดินไปข้างหน้า และ กลุ่มทุนก็พร้อมแล้ว ที่จะเข้ามาเพื่อ พัฒนา อ.จะนะ เหลือเพียง รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ยัง “เงื้อง่าราคาแพง” เพราะยัง”เกรงอกเกรงใจ” กลุ่มผู้เห็นต่าง” ที่เป็น”เอ็นจีโอ” และ ชาวประมงพื้นที่ที่เห็นด้วยกับ “เอ็นจีโอ” เพียง 200 คน ซึ่งเทียบกันไม่ได้กับประชาชนผู้สนับสนุนเป็นหลายหมื่นคน

ถ้าต้องการให้ พื้นที่เมืองเศรษฐกิจของ จ.สงขลา ปลอดภัย รัฐบาล ต้องเร่ง พัฒนาพื้นที่ อ.จะนะ ให้เป็น เมืองอุตสาหกรรมให้เร็วที่สุด เพราะการที่จะเปลี่ยนพื้นที่จากการก่อการร้ายให้เป็นพื้นที่แห่งความสงบ มีทางเดียวเท่านั้นคือการ พัฒนาพื้นที่ พัฒนาคน และ สร้างงาน สร้างเงิน ให้คนในพื้นที่ได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนา

ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา