In Thailand
พม.สุราษฎร์ฯเสริมแกร่งครอบครัวชุมชน ฝึกทีมอปท.137แห่งช่วยสังคมตำบล
สุราษฏร์ธานี-พม.สุราษฎร์ธานีเสริมสร้างความเข้มแข็งศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนและพัฒนาทีมวิทยากรด้านครอบครัวในพื้นที่ อปท. 137 แห่ง มุ่งหวังยกระดับสู่การเป็น "ศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบล"
นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เกียรติเป็นประธานเปิดและบรรยายพิเศษให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนและพัฒนาทีมวิทยากรด้านครอบครัว จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดขึ้น ณ โรงแรมเคพาร์ค อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี กลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วม ประกอบด้วย ผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะกรรมการ ศพค. (ต้นแบบ) ทีมวิทยากรด้านครอบครัวระดับจังหวัด วิทยากร และเจ้าหน้าที่ รวมจำนวน 140 คน
โดยนายสุชาติ แสงพรม พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการจัดตั้งศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน (ศพค.) ในพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 137 แห่ง เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนงานครอบครัวในระดับชุมชน ผ่านการดำเนินงานตามกรอบกิจกรรมที่กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวกำหนด เพื่อพัฒนาศักยภาพครอบครัว รวมทั้งพัฒนาทักษะการป้องกันและแก้ไขปัญหาครอบครัว เพื่อให้สามารถหลีกเสี่ยงภาวะเสี่ยง และปรับตัวได้ในสถานการณ์ปัญหาได้อย่างเหมาะสม ซึ่งการทำงานนั้นคณะกรรมการ ศพค. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีเป้าหมายให้ ศพค. สามารถแก้ไขปัญหาครอบครัวในชุมชนได้อย่างเป็นรูปธรรม มีความเข้มแข็ง และเป็นศูนย์กลางในการคุ้มครอง ฟื้นฟู เยี่ยวยา และส่งเสริมความเข้มแข็งของครอบครัวอย่างเป็นระบบ
สำหรับการจัดประชุมในวันนี้ ถือเป็นก้าวหนึ่งของการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาครอบครัว อันจะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายกิจกรรมต่างๆ หลักสูตรการประชุมมุ่งเน้นการให้ความรู้แนวทางการขับเคลื่อนงานศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนเพื่อยกระดับสู่การเป็น "ศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบล" การแลกเปลี่ยนประสนการณ์ และส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคประชาชน โดยเฉพาะกลไกในระดับท้องถิ่นที่ทำงานใกล้ชิดกับครอบครัว ผ่านการนำเสนอผลงานจากการทำงานในพื้นที่ รวมทั้งพัฒนาศักยภาพให้แก่ผู้ปฏิบัติงานด้านครอบครัว ให้ได้เรียนรู้จากประสบการณ์การทำงานของพื้นที่ตัวอย่าง นำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของตัวเอง ตลอดจนสร้างเครือข่ายการทำงานด้านครอบครัว ให้ขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ ต่อไป.