Authority & Harm
จับได้แล้วผู้จ้างวานมือปืนพิจิตรฆ่าเสี่ยโต เบื้องต้นผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ปราจีนบุรี-ตร.ศรีมหาโพธิ ปราจีนฯตามจับได้แล้ว คนจ้างวานมือปืนพิจิตร เตรียมยิงสังหารเสี่ยโต
เมื่อเวลา 18.00 น.วันนี้ 5 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า จากกรณี ตำรวจ สภ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรีนำโดย พ.ต.อ. วิวัฒน์พิสิษฐ์ศักดิ์ ผกก.สภ.ศรีมหาโพธิ ได้เข้าทำการจับกุมบุคคลคือนายสิฐิโชค จันทร์นิล หรือ หมู อายุ 44 ปี ภูมิลำเนา เลขที่ 12 หมู่ 7 ต.ท่าเสา อ. โพทะเล จ.พิจิตร หลังสืบทราบว่า นายสิฐิโชค กำลังจะก่อเหตุสังหารนายรณภศ หรือเสี่ยโต วิสุทธิเหม นักธุรกิจเจ้าของบริษัทใน พื้นที่ ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี จับกุมตัวได้ ในห้องเช่าแห่งหนึ่ง หมู่ 4 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืนลูกซองยาว พร้อมกระสุน 3 นัด ,ปืนพก รีวอลเว่อร์ ขนาด .38 หนึ่งกระบอกพร้อมกระสุน 6 นัด ,รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิ้ก สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหนึ่งคัน จากนั้นได้นำตัวมาสอบสวน
สาเหตุการจับกุมเนื่องจาก ก่อนหน้านั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการประสานขอความคุ้มครองจากนาย รณภศ หรือ เสี่ยโต วิสุทธิเหม ว่า มีคนปองร้าย เนื่องจากการขัดแย้งเรื่องธุรกิจ จาก เพื่อนรุ่นร้องที่ตนเป็นคนสนับสนุนให้มาร่วมทำธุรกิจ ชื่อย่อ ป. แต่นาย ป.กลับโลภพยายามฮุบธุรกิจและบริษัท จนมีเรื่องฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล
โดยที่ วันที่ 11 ก.พ. 2565 ศาลนัด และทราบว่าจะเป็นวันที่ นายสิฐิโชค จะลงมือ แต่เกิดคลาดเคลื่อนผิดพลาดไม่สามารถสังหารเสี่ยโตได้ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ความเคลื่อนไหวจึงเข้าทำการจับกุมได้ก่อนที่จะเกิดเหตุร้ายกับ เสี่ยโต เหยื่อเพื่อนรุ่นน้อง
หลังการจับกุมและนำตัวมาสอบสวนนานหลายชั่วโมง นายสิฐิโชค จันทร์นิล หรือ หนู มือปืน รับสารภาพว่า ได้รับการติดต่อให้มาทำงานนี้จากนายน้อย และ นายมาตร ในราคา 100.000 บาท ซึ่งได้รับเป็นค่าล่วงหน้ามา 20.000 บาท ได้นำไปซื่อรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมาในราคาคันละ 3000 บาท จาก จ.พิจิตร มีคนนำมาส่งให้ถึงปราจีนบุรี แล้วนำไปจอดซุกไว้ที่ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน พื้นที่ นิคม 304
นายสิฐิโชค เปิดเผยว่า ตนไม่รู้จัก เสี่ย ป.แค่รับงานจากนายมาตรกับนายน้อย ที่เอารูปมาให้ดู โดยที่ความจริงตนไม่อยากทำงานนี้ แต่โดนบังคับจึงจำเป็นต้องรับ ทั้งที่พยายามปฏิเสธมาหลายครั้ง
เมื่อเวลาประมาณ 4 ทุ่ม นายมาตร ซึ่งเป็นคนติดต่อได้โทรเข้ามาหาโดยไม่รู้ว่า ทนายสิฐิโชค โดนตำรวจจับแล้ว เพื่อสอบถามว่างานที่ทำเป็นอย่างไร นายสิฐิโชค ตอบกลับไปว่างานสำเร็จแล้ว ขอเบิกเงินที่เหลือ
แต่ผ่านไปได้ไม่นานเหมือนนายมาตรจะรู้จึงวางสายแล้วไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวนายสิฐิโชค หรือ หนู จันทร์นิล สอบสวนเพิ่มเติมเพื่อขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดว่ามีใครบ้าง
พร้อมกับเตรียมติดตามตัว นาย มาตร และนายน้อย มาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป โดยรายละเอียดผู้ว่าจ้าง นายอำนาจ งามขำ (นาจหรือมาตร) บ้านเลขที่ 110/1 หมู่5 บ้านห้วยร่วม อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ และนายวศิน อินตะ (น้อย)บ้านเลขที่ 5/1 หมู่ 10 ต.ทะนง อ.โพนทะเล จ.พิจิตร ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
คืบหน้าล่าสุด ชุดสืบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ ได้ดำเนินการสอบสวนจนทราบว่า นายอำนาจ งามขำ (นาจหรือมาตร) ได้หลบไปอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส จึงประสาน ตำรวจในพื้นที่ออกติดตามจนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุดเมื่อวาน (วันที่ 4 มี.ค.) ที่ผ่านมา ส่วนนายวศิน อินตะ (น้อย) นั้นทาวงตำรวจสามารถตามจับตัวได้ที่บ้านเลขที่ 5/1 หมู่ 10 ต.ทะนง อ.โพนทะเล จ.พิจิตร และ นำตัวมาสอบสวนเพื่อขยายผลถึงผลจ้างวานต่อไป
ช่วงเวลา 14:00 น.วันนี้ (5มี.ค.) ทางตำรวจ สภ.ศรีมหาโพธิ ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมรถโตโยต้า รุ่น แลนด์ครูเซอร์ สีดำ ทะเบียน 2 กพ 353 กทม ที่ใช้ในการหลบหนี มาที่ สภ.ศรีมหาโพธิ
แต่จากการสอบสวนนายอำนาจ งามขำ (นาจหรือมาตร) เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ แต่ทางตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีเพียงพอสามารถดำเนินคดีนี้ได้อย่างแน่นอน ส่วนตัวผู้บงการจ้างวานเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานคาดว่าจะสามารถขอหมายศาลเพื่อออกหมายจับในเร็วๆนี้
มานิตย์ สนับบุญ/ปราจีนบุรี