Authority & Harm

เหยียบแล้วหนี!พ่วง22ล้อขยี้จักรยานดับ เส้นทางคอขวดมีงานก่อสร้่างรถคับคั่ง



ฉะเชิงเทรา-เหยียบแล้วหนี พ่วง 22 ล้อขยี้จักรยานเละคาท้องถนน ในเส้นทางคอขวดสายคับคั่ง ที่มีทั้งรถยนต์ขนาดใหญ่ และรถเล็ก ต่างเร่งรีบต้องการเบียดแทรกแกร่งแย่งกันแหวกหาเส้นทางเพื่อที่จะไปให้หลุดพ้น อย่างไม่สนใจผู้ร่วมใช้เส้นทาง ที่มียานพาหนะขนาดที่เล็กกว่า ทำหนุ่มน้อยเคราะห์ร้ายวัยเพียง 14-15 ปีปั่นจักรยานร่วมทางอยู่ด้วย ถูกเฉี่ยวล้มลงจนร่างกระเด็นเข้าไปยังที่ใต้กงล้อรถบรรทุกถูกบดขยี้ดับคาที่

วันที่ 9 มี.ค.65 เวลา 11.20 น. ร.ต.ท.ธนวัฒน์ ทองเจริญ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์บรรทุกพ่วง เหยียบรถจักรยานทำให้มีผู้เสียชีวิตคาที่เป็นชาย 1 ราย ที่บริเวณเส้นทางคอขวดบนถนนสาย 314 จากทางสามแยกเทศบาล 2 ไปยังทางสามแยกบางพระ ซึ่งกำลังมีโครงการก่อสร้างทางยกระดับข้ามแยก พื้นที่ ม.3 ต.โสธร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุตรงบริเวณปากทางเข้าปั้มน้ำมันพีที (PT) พบร่างของชายหนุ่มวัยรุ่นผู้เคราะห์ร้าย อายุประมาณ 14-15 ปี นอนจมกองเลือดและเศษชิ้นส่วนมันสมองอยู่ที่พื้นถนน โดยมีรถจักรยานปั่นคันสีเหลืองนอนล้มตะแคงข้างอยู่ใกล้กัน แต่ไม่พบรถยนต์คู่กรณีคันที่ก่อเหตุพุ่งชนและเหยียบทับซ้ำดังกล่าว สอบถามนายนนทกร อรุณนพรัตน์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/96 ม.7 ต.บางตีนเป็ด อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา พนักงานเติมน้ำมันภายในปั้มน้ำมันดังกล่าวเล่าว่า

ขณะเกิดเหตุนั้นตนไม่เห็นว่ารถอะไรเหยียบคนปั่นจักรยาน แต่ได้ยินเสียงคนร้องเสียงดังจึงได้หันไปดู และพบว่ามีน้องที่ปั่นจักรยานมากำลังดิ้นอยู่กับพื้นและมีอาการกระอักก่อนที่จะสิ้นใจเสียชีวิตลงในทันที ตนจึงได้วิ่งออกไปดู และได้เห็นคนขับรถยนต์บรรทุกพ่วงที่ขับตามหลังมา ได้ชี้มือบอกว่ารถบรรทุกพ่วงคันข้างหน้าเป็นคันที่ก่อเหตุพุ่งชน ตนจึงได้พยายามวิ่งไล่ตามไปแต่ไม่ทัน จึงจำหมายเลขทะเบียนรถไม่ได้ นายนนทกร กล่าว

และกล่าวต่อว่า สำหรับที่บริเวณจุดเกิดเหตุแห่งนี้ มักจะเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งมาก เนื่องจากมีการวางแท่งแบริเออร์ขวางบีบเส้นทางจนเป็นคอขวด จากทั้งหมด 4 ช่องจราจรเหลือแค่เพียง 2 ช่องจราจร เพื่อทำการก่อสร้างทางยกระดับข้ามทางแยกบางพระ จึงทำให้รถที่ขับมาทั้งหมดใน 4 ช่องจราจร ต่างพยายามที่จะเบียดแย่งกันเข้ามาใช้เส้นทางใน 2 ช่องจราจรทางด้านซ้าย จึงทำให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง

อีกทั้งบนเส้นทางสายนี้ ยังมีรถเข้ามาใช้ในปริมาณมากในแต่ละวัน โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วนนั้นจะมีรถจนเต็มแน่นและแออัดไปทั่วทั้งเส้นทาง จนถึงกระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น. จึงจะเริ่มคลี่คลาย ทำให้เกิดการพุ่งชนแบบเรียงแถวต่อๆ กันอยู่บ่อยครั้ง นายนนทกร กล่าว

ขณะที่ชาวบ้านหลายรายที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐ สังกัดกระทรวงยุติธรรมที่มีสำนักงานอยู่ริมถนนสายนี้ ตรงบริเวณใกล้กับจุดเกิดเหตุ ยังบอกข้อมูลเพิ่มเติมที่ตรงกันอีกด้วยว่า บริเวณถนนสายนี้มักมีรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ค่อนข้างใช้ความเร็วสูง เพื่อที่พยายามที่จะเบี่ยงเข้ามาทางเลนช่องทางด้านซ้าย จนมีการเบียดแย่งเส้นทางกันอยู่เป็นประจำกับรถเล็ก เพื่อมุ่งหน้าไปโดยที่ไม่สนใจผู้ใช้เส้นทางรายอื่นๆ เลย 

อีกทั้งการจราจรตรงบริเวณนี้ยังคับคั่งมาก จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยจัดเจ้าหน้าที่จราจรมาประจำอยู่ตรงบริเวณนี้ตลอดเวลาอย่างน้อย 1 นาย เพื่อแก้ไขปัญหา หรือทำให้ผู้ใช้เส้นทางโดยเฉพาะรถบรรทุกขับชะลอความเร็วลงมาบ้าง จนท.สังกัดหน่วยงานยุติธรรม รายดังกล่าวระบุ

ส่วน ร.ต.ท.ธนวัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร เนื่องจากไม่มีเอกสารใดๆ ติดตัวมา แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นเด็กแถวนี้ เนื่องจากมีคนพบเห็นออกมาปั่นจักรยานอยู่แถบย่านนี้อยู่บ่อยครั้ง ส่วนรถยนต์บรรทุกพ่วงคันที่ก่อเหตุนั้น ยังไม่มีพยานที่พบเห็นขณะเกิดเหตุออกมาระบุได้อย่างชัดเจน ว่าเป็นรถคันใดที่ทำการเฉี่ยวชน จึงจะต้องทำการค้นหาภาพกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงก่อนว่า จะมีกล้องตรงจุดใดที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้หรือไม่ ร.ต.ท.ธนวัฒน์ กล่าว

สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา