Authority & Harm
หนุ่มเมียทิ้งหนีตามชายอื่นซดสุราทั้งคืน ปีนต้นไม้สูงใช้เสื้อผูกคอผ้าขาดหวิดดับ
ปราจีนบุรี-หนุ่มใหญ่เมียมีชู้-หนีไปกับชายอื่นมาหาลูกสาวที่ห้องพักพนักงานด้านหลังโรงปูนเคซี. ให้ลูกสาวไปตามหาแม่แต่ไม่เจอเมียหนีไปกับชายอื่นแล้ว เครียดจัดดื่มเหล้าเมาทั้งคืนจรดเช้าแม่-พี่สาวมาตาม ได้ไล่ให้กลับพร้อมวิ่งหนีออกไปกลางทุ่งริมของสระน้ำก่อนปีนต้นไม้ใหญ่สูงกว่า20 เมตร พร้อมใช้เสื้อแขนยาวทำเป็นเชือกผูกคอหวังฆ่าตัวตายแต่เผอิญเสื้อเลื่อนขาดหลุดจากคอที่ผูก จึงร่วงไหลลื่นตกลงมาใส่กิ่งง่ามซอกไม้ติดคากลางต้นหมดแรงแน่นิ่งหน่วยกู้ภัยฯ-รถกระเช้าเทศบาลเมืองมาช่วยเหลือได้ทันเวลารอดตัวหวุดหวิด
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ 14 มี.ค.65 ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถาน จ.ปราจีนบุรีได้รับแจ้งจากน.ส.สุภาพร เจดีย์ อายุ 18 ปี แจ้งว่า บิดาตนเองชื่อนายสมใจ เจดีย์ อายุ 50 ปี ได้ปีนขึ้นบนปลายยอดต้นไม้ (ต้นถ่อน) ขนาดความสูงจากพื้นกว่า 20เมตร อยู่บริเวณด้านหลังห้องพักของพนักงานโรงปูนเคซี. ถนนปราจีนตคาม (ปราจีนบุรี –ประจันตคาม) หมู่ 3 ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมืองปราจีนบุรี ผูกคอฆ่าตัวตาย แต่เสื้อแขนยาวที่ใช้ผูกคอตัวเอง ได้ขาดหลุดออกจากคอแล้วร่างหลุดร่วงลงมาร่างค้างติดคาอยู่บนซอกง่ามกิ่งไม้กลางต้นขอให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยเหลือด่วน จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และแจ้ง ดต.ภาณุสรณ์ ภาคะ ผบ.หมู่สายตรวจโนนห้อม สภ.เมืองปราจีนบุรี และแจ้งให้นายศุภณัฐ หรือช่างเอก คงใจอายุ49 ปี อาสาสมัครกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานนามเรียกขานเมือง124 และ อาสาฯเปิล ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุที่สุดรีบมาที่เกิดเหตุพร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือเป็นบันได,เชือก,ห่วงรัดตัว
จากริมถนนสายปราจีนตคาม (ปราจีนบุรี –ประจันตคาม) ผ่านเข้าไปในโรงปูนเคซี.ประมาณ 500เมตรเศษอยู่ด้านห้องพักของพนักงานโรงปูน ต่อไปอีก 200 เมตรเป็นทุ่งนา อยู่ริมขอบสระน้ำขนาดกว้างกว่า50เมตร ยาว 80 เมตรเป็นต้นไม้ (ต้นถ่อน) ขนาด 1คนโอบความสูงกว่า 20เมตร ที่คนซอกคาคบเกือบปลายต้นกิ่งที่แยกออกจากลำต้นสูงกว่า15เมตร ท่ามกลางพนักงานโรงปูนพร้อมญาติกว่า 20 คน คอยลุ้นให้กำลังใจไม้ให้ร่างตกลงมา
พบร่างชายผู้ผูกคอตนเองทราบชื่อต่อมาคือ นายสมใจ เจดีย์ดี อายุ50ปี เลขที่ 85 บ้านดงคุย หมู่ 1 ต.โนนห้อม อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี กำลังค้างติดอยู่คากิ่งง่ามซอกไม้ติดคากลางคาคบต้น สภาพไม่สมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ เมาสุราอย่างหนัก ลักษณะศรีษะห้อย,แขนทั้ง 2 –ขาทั้ง 2ห้อยลงพื้น ลำตัวยังติดคาอยู่ระหว่างกิ่งกับต้นไม้ หรือคาคบหมดแรงแน่นิ่งตรวจสอบยังคงหายใจอยู่ หน่วยกู้ภัยฯได้ใช้บันได้ยาวกว่า 15 เมตร พาดปีนขึ้นไปพร้อมเชือก วนิลาไปช่วยเหลือโดยเร่งด้วน ไม่ให้ร่างผู้ผูกคอฯตกลงมาที่พื้นได้รับอันตราย บาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต พร้อมประสานรถกระเช้าจากเทศบาลเมืองปราจีนบุรีและรถกู้ชีพ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รีบมาช่วยเหลือนำร่างชายดังกล่าวลงมา โดยรถกระเช้า-หน่วยกู้ภัยฯได้ช่วยเหลือร่างผู้ก่อเหตุอย่างทุลักทุเลใช้เวลานานประมาณ 1 ชั่วโมงนำลงมาด้านล่างอย่างปลอดภัยก่อนนำส่งห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศรต่อไป
น.ส.สุภาพร เจดีย์ อายุ 18 ปี กล่าวว่า “เป็นลูกสาวของนายสมใจ (ผู้ก่อเหตุ)ก่อนเกิดเหตุช่วง เมื่อวานนี้(13มี.ค.) พ่อให้มารับแม่ นางสาวจารุดา จำรักษา อายุ 40 ปี แม่ ตำแหน่งพนักงานฯ ทำงานโรงปูนเคซี. ตอน 17:00 น แล้วหาแม่ไม่เจอ แม่เขาไปกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง พ่อรู้เรื่องเขาก็คิดมากแล้วบวกกับทีพ่อป่วยด้วยประจำตัว ห้าโรค(เบาหวาน ความดัน หัวใจ เก๊าท์ ไขมัน) มีอาการเครียดจัดแล้วดื่มสุรา ไม่ได้กินข้าวทั้งคืนจรดถึงตอนเช้าวันนี้ (14มี.ค.ญาติพี่น้องได้ติดตามมามีพี่สาวมาจากประจันตคามแล้วก็แม่มาจากสถานีรถไฟบ้านโคกมะกอก อ.เมืองปราจีนบุรี พ่อเห็นพี่สาวกับแม่(ย่า)ก็ไล่ให้พี่สาวกับแม่(ย่า)ออกไป ส่วนตัวของเองก็วิ่งมาทางทุ่งนาด้านหลังห้องพักโรงงานกกลางทุ่งริมสระน้ำ
บนต้นไม้ (ต้นถ่อน) สูงเกือบ 20เมตร เห็นพ่อใช้เสื้อแขนยาวตัวเองทำเป็นเชือกผูกบนกิ่งยอดไม้แล้ว แต่เชือกหรือเสื้อมันหลุดมันหลุดออกจากคอ ร่างของพ่อก็เลยตกตกตั้งแต่ปลายยอดกิ่งต้นไม้ ลงมาติดคาซอกระหว่างคนคบไม้คือกิ่งที่ออกจากต้น ตรงนี้ห่างจากที่ผูกคอเกือบ5เมตร สภาพแน่นิ่งจึงรีบแจ้งหน่วยกู้ภัยฯขอให้มาช่วยเหลือได้ทันดังกล่าว
ด้านนางมาลี ยิ้มแย้ม อายุ 72 ปี กล่าวว่า “ตนเองเป็นแม่ของนายสมใจ เจดีย์ดี อายุ50ปี ปกติลูกชายอยู่บ้านหาปลา ก่อนหน้านี้เคยทำงานที่โรงงาน KC ส่วนภรรยาทำงานเป็น พนักงาน เป็นคนโหลดปูนอยู่ที่ แทงค์ปูน นางมาลีกล่าว
และ กล่าวต่อไปว่า ก่อนเกิดเหตุบอกแม่ว่า จะมาตามเมีย เมียเขาไปกับคนอื่น แม่เองไม่รู้ โดยลูกชายออกจากบ้านมาตั้งแต่เมื่อวานนี้(13มี.ค.) มาที่ห้องพักด้านหลังบริษัท KC ของลูกสาว ส่วนทางพี่สาวของนายสมชาย มาจาก อ.ประจันตคาม ได้มารับแม่ เพื่อมาหาน้องชายที่บ้านพักของหลานสาวที่บริษัทเคซีและ มาเจอเหตุการณ์ ดังกล่าว
มานิตย์ สนับบุญ/ปราจีนบุรี