Authority & Harm
คืบ!รุ่นพี่ปี2ยอมรับแล้วต่อยน้องเปรมตาย ขอโทษสังคมสำนึกผิดตร.ข้อหารุ่นพี่แล้ว
นครราชสีมา-คืบ!รุ่นพี่ ปี2 ยอมรับต่อยน้องเปรมตาย ขอโทษสังคมสำนึกผิด ด้านตำรวจแจ้ง ข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย
จากกรณี ผู้ใช้ facebook ในโลกโซเชียล มีการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับการรับน้อง ที่มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ในตัวเมืองจังหวัดนครราชสีมา จนทำให้เกิดการเสียชีวิต ทราบชื่อภายหลังคือ นายพัสยศ หรือน้องเปรม ชลภักดี อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 แผนกช่างกลโรงงาน มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก ล่าสุดวันนี้ 15 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้ลวพื้นที่ สภ.มะเริง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบว่า พ.ต.อ. คณัสนันท์ สุวรรณทร์พย์ ผกก.สภ.มะเริง ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน สอบปากคำรุ่นพี่ชั้นปีที่ 2 ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตทั้งหมดจำนวน 7 คน โดยทั้งหมดได้มีการตรวจโควิดแล้วเพื่อความปลอดภัย ซึ่งสีหน้าแววตาของรุ่นพี่รวมไปถึงผู้ปกครอง ตามอีกทีน่าเศร้าสลดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
น้องเอ็กซ์ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี รุ่นพี่ที่ก่อเหตุชั้นปีที่ 2 เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม โดยช่วงเวลาประมาณ 21:00 น ได้มีการเตรียมเพื่อที่จะรับน้อง นอกสถานที่ของมหาวิทยาลัย โดยใช้พื้นที่ในเขตคลองตำบลมะเริง ซึ่งจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่นา โดยได้มีการร่วมกิจกรรมหลายอย่าง ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผู้ตายได้ซื้อมาดื่มกลับเพื่อน ยอมรับว่าในช่วงหนึ่งได้มีการต่อยหมัดเข้าใส่บริเวณลิ้นปี่ของน้องเปรมไป 1 ที ก่อนที่จะหมดสติล้มลง ตนพร้อมเพื่อนจึงรีบทำการปฐมพยาบาลปั๊มหัวใจและรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที และมาทราบภายหลังว่าน้องเปรม เคยรถล้มมาก่อน อีกครั้งน้องก็มีภาวะติดเชื้อโควิด ซึ่งอาจจะทำให้ร่างกายอ่อนแอ จนเป็นเหตุถึงกับเสียชีวิต ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดตนไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายน้องจนถึงชีวิต และรู้สึกเสียใจ โดยได้มีการกราบขอขมาพ่อแม่ๆไปแล้ว และขอรับผิดทุกอย่างให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย
ด้าน นายเอกชัย ชลภักดี อายุ 53 ปี พ่อน้องเปรม ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าวว่าลูกชายเสียชีวิต พอดีเดินทางจากจังหวัดนครศรีธรรมราชซึ่งตนไปทำงานอยุ่ มาที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อมาดูศพลูกชายและสอบถามถึงสาเหตุของการเสียชีวิต หลังจากทราบว่ารุ่นพี่ได้มีการแอบพารุ่นน้องมารับน้องกันนอกสถานที่จนทำให้เสียชีวิต ทำให้หัวใจนะตกลงถึงตาตุ่ม และไม่คิดไม่ฝันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของตัวเอง ซึ่งตนก็ตั้งคำถามกลับไปว่าการรับน้องนั้นทำไมถึงมีการรับน้องที่รุนแรงขนาดนี้ โดยได้มีการสอบถามไปทางรุ่นพี่แล้วทุกคนก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วไม่คิดไม่ฝันว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดทำให้เสียชีวิต ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่พร้อมที่จะให้อภัยจะเป็นรุ่นที่ดังกล่าว อีกทั้งยังทราบว่าลูกชายของตนติดโควิด จึงทำให้การผ่าชันสูตรศพ เพื่อหาสาเหตุนั้นยากลำบากขึ้นไปอีก จะต้องพึ่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีเครื่องไม้เครื่องมือในการตรวจสอบ เลยอยากให้ทางมหาวิทยาลัยมีการตรวจสอบคุมเข้มเกี่ยวกับการรับน้องให้มากกว่านี้ และอยากให้เคสนี้เป็นเคสสุดท้ายของประเทศไทย
พ.ต.อ.คณัสนันท์ สุวรรณทร์พย์ ผู้กำกับการ สภ.มะเริง เปิดเผยว่า วันนี้ได้มีการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องรุ่นพี่ มาสอบปากคำทั้งหมด 7 ปาก เพื่อสอบถามสาเหตุที่แท้จริง โดยทั้งหมดก็ยอมรับว่ามีการรับน้องนอกสถานที่จริง โดยไม่เกี่ยวข้องกับทางมหาวิทยาลัย โดยทุกคนก็มีความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยอมรับผิด ส่วนศพของน้องเปรมนั้น ทางพ่อและแม่ได้ส่งตัวไปชันสูตรศพที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ แล้ววันนี้ เนื่องจากว่าน้องติดโควิด การผ่าพิสูจน์ศพ จะต้องผ่าในห้องความดันลบ เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อกระจาย ในส่วนของรุ่นพี่ทั้ง 7 คน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้น คือร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ส่วนเรื่องของการเยียวยาจะต้องมีการนัดผู้ปกครองพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง
ภาพ/ข่าว ประสิทธิ์ วนะชกิจ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดนครราชสีมา