Travel Sport & Soft Power
นอภ.ตะกั่วป่าพาชมรูปปั่นเขาพระเหนอ แหล่งโบราณคดีสำคัญอายุกว่า1.2พันปี
พังงา-นายอำเภอตะกั่วป่าพาชมเขาพระเหนอ แหล่งโบราณคดีเขาพระเหนออายุไม่ต่ำกว่า 1200 ปีที่ประดิษฐานพระนารายณ์
นายไตรทิพย์ สกุลประดิษฐ์ นายอำเภอตะกั่วป่า พร้อมด้วย นายภานุวัฒน์ สองเมือง ปลัดฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า นายเสน่ห์ ชูราษฎร์ กำนันตำบลเกาะคอเขา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อบต.เกาะคอเขา (เกาะ – คอ – เขา )ได้เดินทางลงเรือหัวโทงเพื่อเดินทางไปเขาพระเหนอ หมู่ที่ 7 ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระเหนอ รูปปั่น หรือพระนารายณ์เขาพระเหนอ เป็นประติมากรรมลอยตัวเป็น ศิลปปัลลวะ (ศิลปะของอินเดียตอนใต้) สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 12 – 13 ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 1,200 – 1,300 ปี สูงประมาณ 202 เซนติเมตร โดยขณะนี้องค์จริงทางสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพให้นำไปเก็บรักษาไว้ที่กรุงเทพ เมื่อปี 2470 ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถาน พระนคร
สำหรับเขาพระเหนอเป็นภูเขาขนาดเล็กเตี้ย ตั้งอยู่ตรงปากแม่น้ำตะกั่วป่า บนเขาด้านทิศเหนือมีบ่อน้ำจืดมีน้ำตลอดทั้งปี บนยอดเขาพระเหนอตรงกลางเนินพบฐานโบราณสถานซึ่งก่อสร้างด้วยก้อนหินขนาดใหญ่และเล็กมาวางเรียงซ้อนกันแล้วปูทับด้วยอิฐแผ่นใหญ่เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาด ยาวด้านละ 9 – 10 เมตร เขาพระเหนอเป็นภูเขาลูกเล็กๆตั้งอยู่ตรงข้ามแหล่งโบราณคดีทุ่งตึก ซึ่งเป็นแหล่งโบราณคดีและโบราณสถานที่ตั้งอยู่ตามเส้นทางข้ามคาบสมุทร รัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เคยเสด็จประพาสเมื่อครั้งเสด็จ ฯ ประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ ร.ศ.128 พบเทวรูปพระนารายณ์ทำด้วยศิลาทราย หักเป็นสองท่อน ไม่ประดับอาภรณ์ วิจิตร ฝีมือทำกล้ามเนื้อ เหมือนคน เทวรูปยืนอยู่กลางฐานใหญ่ก่อด้วยอิฐ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพโปรด ฯ ให้นำเทวรูปพระนารายณ์ ไปเก็บรักษาไว้ที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่สมัยก่อนเปลี่ยนแปลง การ ปกครอง พ.ศ.2475 ปัจจุบันเทวรูปพระนารายณ์ได้ตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร
ทางกรมศิลปากรเข้าตรวจสอบพื้นที่อีกครั้ง และพบร่องรอยของเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ ประดิษฐานเทวรูปพระนารายณ์บริเวณยอดเขาพระเหนอ สำหรับที่บริเวณเชิงเขายังพบพลับพลาที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้เมื่อประมาณ 100 ปีที่ผ่านมา นอกจากนั้น ใต้พื้นดินบริเวณดังกล่าว ยังพบชิ้นส่วนภาชนะถ้วยชามเครื่องปั้นดินเผาสมัยราชวงศ์ถังและราชวงศ์ชิง รวมทั้งเศษลูกปัดที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงกับแหล่งโบราณคดีบ้านทุ่งตึกเมืองท่าการค้าที่รุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยศรีวิชัย
นอกจากนี้ทางนายอำเภอตะกั่วป่า ยังได้พาชมเกาะหาดทรายเล็กที่ตั้งอยู่ระหว่างบ้านน้ำเค็ม – เกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า เกิดจากสันทรายที่ถูกคลื่นซัดหายช่วงสึนามิ เมื่อปี 2547 จนกลายเป็นเกาะเล็กๆโผ่ขึ้นมาและบริเวณรอบข้างเกาะพบว่ามีน้ำทะเลที่ใส่น่าลงไปเล่นน้ำ และเป็นจุดที่ชมพระอาทิตย์ตกในช่วงเย็นโดยพร้อมที่จะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกจุดหนึ่งของ อำเภอตะกั่วป่า ต่อไป และนักท่องเที่ยวสนใจจะเดินทางไปเขาพระเหนอสามารถเดินทางได้โดยทางเรือจากท่าเรือบ้านน้ำเค็มไปยังเขาพระเหนอ และเกาะหาดทรายเล็กๆที่สวยงาม