Travel Sport & Soft Power
คลองแปดริ้วสัตว์น้ำ'หอย ปู ปลา'ฟื้นตัว หลังชาวบ้านลดใช้สารเคมีที่มีราคาแพง
ฉะเชิงเทรา-หาจับหอย ธรรมชาติกลับฟื้นคืนชีพอีกครั้ง หลังจากยาปราบสัตว์ตรูพืชมีราคาพุ่งกระฉูด ทำชาวบ้านลดการใช้จ่ายในนาข้าว ทำให้สัตว์น้ำดั้งเดิมในพื้นถิ่นหวนกลับคืนมาเกิดขึ้นใหม่อีกครั้ง ขณะหลายรายแห่จับขาย บางรายออกดักหาเพื่อทำกับข้าวเลี้ยงชีพ ขณะปิงในแหล่งน้ำลำคลองได้กลับมาเกิดขึ้นใหม่ด้วยอย่างชุกชุม
วันที่ 28 มี.ค.65 เวลา 11.30 น. ที่คลองแขวงกลั่น พื้นที่ ม.7 ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีชาวบ้านหลายรายต่างพากันมาวางยอ และลงทุ่นล้อยางรถจักรยานยนต์ เพื่อดักจับหอยขม หรือ “หอยจุ๊บ” กันเป็นจำนวนมาก หลังจากภายในลำคลองเกือบทุกสายในพื้นที่นั้น เริ่มมีหอยขมกลับมาเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติอีกครั้ง ทั้งที่ช่วงก่อนหน้านี้เป็นเวลานานหลายปีแล้ว หอยขมได้เคยสูญหายไปจากลำคลอง หรืออาจจะมีเกิดขึ้นมาบ้างในบางปี แต่ถือว่ามีน้อยมากแบบประปราย
สอบถาม นายชูเกียรติ มีเจริญ อายุ 57 ปี ซึ่งได้ออกมาวางทุ่นดักจับหอยขมเช่นเดียวกันกับชาวบ้านรายอื่น กล่าวว่า ขณะนี้ตามลำคลองในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา หลายแห่งได้มีหอบขม ซึ่งเป็นหอยน้ำจืดประจำท้องถิ่นที่เคยมีอยู่ตามธรรมชาติภายในลำคลองทั่วไป ได้กลับมาเกิดขึ้นเองเป็นจำนวนมากอีกครั้ง หลังจากที่ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพทำนาส่วนใหญ่ได้งดการใช้ยากำจัดศัตรูพืช และยากำจัดหอยในนาข้าวกันแล้ว
เนื่องจากขณะนี้ยากำจัดศัตรูพืชและหอย ซึ่งเป็นศัตรูที่มากัดกินต้นข้าวนั้น มีราคาขยับแพงสูงขึ้นมาก จนชาวนาไม่มีเงินที่จะซื้อมาใช้ในแปลงนาของตนเอง จึงได้ส่งผลดีต่อสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศทางธรรมชาติตามแหล่งน้ำลำคลองให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์ขึ้นมาอีกครั้ง และได้ทำให้หอยขมที่เคยสูญหายไปจากตามแหล่งน้ำและลำคลองในพื้นที่เป็นเวลานานหลายปี เริ่มกลับมามีเกิดขึ้นอีกครั้ง
ทำให้ชาวบ้านได้มีอาชีพ และแหล่งอาหารตามธรรมชาติกลับคืนมาใหม่ และพากันมาจับเพื่อนำไปบริโภคภายในครัวเรือน และหากจับได้ในปริมาณมาก จนทำให้มีเหลือแล้วจึงได้นำออกไปขายสร้างรายได้เสริมเข้ามาสู๋ครอบครัวอีกทางหนึ่งด้วย
สำหรับวิธีการจับหอยขมของชาวบ้านในปัจจุบันนั้น ได้ใช้วิธีการวางยอ และยกยอเป็นระยะในช่วง 2-3 วันต่อครั้ง และยังมีอีกวิธีคือการทำทุ่นจากขวดน้ำพลาสติก ผูกเชือกกับล้อยางรถยนต์ หรือยางรถจักรยานยนต์ แล้วหย่อนลงไปวางไว้ที่ใต้น้ำเพื่อให้หอยขมเข้ามาเกาะ โดยทิ้งไว้ประมาณ 1-2 วัน จึงจะกลับมาเก็บหอยนำกลับไปบริโภค โดยบางรายนั้นอาจใช้เพียงท่อนไม้ปักลงไปในน้ำและทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ก็จะมีหอยเข้ามาเกาะติดอยู่เช่นเดียวกัน โดยที่ไม่ต้องลงไปงมควานหาที่หน้าดินเหมือนกับในสมัยก่อน
อีกทั้งชาวบ้านยังเกรงกลัวปิง ที่ได้กลับมาเกิดขึ้นใหม่เช่นเดียวกัน และมีจำนวนมากขึ้นตามมาด้วย หากลงไปงมหอยด้วยตนเองก็อาจจะถูกปิงกัดและแอบมาเกาะดูดเลือดจากตามร่างกายโดยที่เราไม่รู้ตัวได้ โดยที่การจับหอยขมนั้นชาวบ้านจะงดเว้นการจับหอยเป็นเวลา 1 วัน คือวันโกน หรือช่วงก่อนถึงวันพระ 1 วัน เนื่องจากหอยจะมีตัวอ่อนเกิดขึ้นในทุกๆ วันโกน ซึ่งจะทำให้นำไปบริโภคยากเพราะจะมีลูกหอยขนาดเล็กๆ อยู่ภายในตัวหอยจำนวนมากด้วย
โดยราคาหอยขมในขณะนี้ตามท้องตลาดนั้นขายกันอยู่ที่ราคา กก.ละ 70 บาท ซึ่งหากมีการตัดปลายก้นหอยแล้วจะมีราคาที่สูงขึ้นไปอีก จากในอดีตหอยขมมีราคาแค่เพียง กก.ละ 10-20 บาทเท่านั้น โดยเมนูที่มักนิยมนำไปปรุงเป็นอาหารค คือ แกงคั่วใบชะอม แกงใบชะพลู ผัดใบโหระพา และหอยขมลวกจิ้ม ซึ่งเป็นเมนูที่อร่อยมากด้วย นายชูเกียรติ กล่าว
สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา