Biz news
'พลัส พร็อพเพอร์ตี้'เปิดแผนธุรกิจปี2565 จัดทัพรุกธุรกิจบริหารจัดการอาคาร
กรุงเทพฯ พลัสฯ เผยแผนปี 2565จับโอกาสผลงานเด่นดูแลโครงการที่อยู่อาศัยให้ปลอดภัยฝ่าโควิดหลายระลอก มุ่งโฟกัสธุรกิจบริหารจัดการอาคาร เพิ่มสัดส่วนโครงการลักซ์ชัวรี่เดินหน้าคว้างานใหม่อย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้ากวาด 300 โครงการเข้าพอร์ตดันรายได้เติบโต 15% คิดเป็น 1,200 ล้านบาทชูจุดแข็งบริษัทไทยที่มาตรฐานเดียวกับสากลพร้อมลุยสร้างจุดเด่นที่เหนือกว่ามาตรฐานทั่วไปในตลาดบริการอสังหาฯยกระดับการดำเนินงานสู่ Global Standard ที่ครบและครอบคลุมทุกด้านโดยล่าสุดได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 41001:2018ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เน้นด้านบริหารทรัพยากรกายภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการตอบโจทย์ความต้องการที่สนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีให้ลูกค้า
นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้จำกัด ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมตอบโจทย์ทุกบริการด้านอสังหาริมทรัพย์เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานปี 2565 ของพลัสฯยังคงเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งในทุกกลุ่มธุรกิจทั้งกลุ่มงานบริหารสินทรัพย์ (Asset Management)
และงานบริหารจัดการอาคาร (Property Management) อย่างไรก็ตามปีที่ผ่านมาพลัสฯประสบความสำเร็จในกลุ่มธุรกิจบริหารจัดการโครงการที่พักอาศัยเป็นอย่างมาก แม้มีสถานการณ์โควิดที่กระทบต่อสภาพเศรษฐกิจในภาพรวมและยังได้รับเสียงชื่นชมและการตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่พลัสฯมีมาตรการดูแลพิเศษในทุกช่วงวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโควิดสามารถอำนวยความสะดวกและรับมือดูแลลูกบ้านและผู้พักอาศัยกว่า80,000 ครอบครัวให้อยู่อาศัยร่วมกันอย่างปลอดภัยในทุกระลอกซึ่งจากจุดแข็งของพลัสฯ ที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้มากกว่า 25 ปีมีประสบการณ์ดูแลโครงการในทุกระดับราคาตั้งแต่โครงการทั่วไปจนถึงระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ปีนี้พลัสฯจึงมีแผนการดำเนินธุรกิจที่เน้นการสร้างรายได้ในกลุ่มธุรกิจนี้เป็นหลักสำหรับโครงการที่อยู่อาศัยจะเพิ่มสัดส่วนโครงการระดับลักซ์ชัวรี่มากขึ้นโดย โดยชูจุดแข็งเรื่องของGLOBAL STANDARD และ CUSTOMISE SERVICEวางใจได้ในการดูแลจากทีมบริหารนิติบุคคลมาตรฐานระดับสากลและมีบริการพิเศษที่ออกแบบมาเฉพาะโครงการนั้นๆให้ตอบโจทย์ความต้องการที่เหนือความคาดหมายในแต่ละโครงการ
นอกจากนี้ยังมีการบริหารจัดการอาคารในโครงการเพื่อการพาณิชย์ที่เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่โดดเด่นของพลัสฯ เช่นกันทั้งอาคารขนาดใหญ่ของธุรกิจธนาคารและการลงทุน ธุรกิจโรงพยาบาลสถานศึกษา รวมถึงคอมมูนิตี้มอล ที่พลัสฯดูแลอย่างมืออาชีพที่เป็นพาร์ทเนอร์เคียงข้างเจ้าของอาคาร
ยกระดับมาตรฐานอาคารโดยมุ่งไปสู่เป้าหมายร่วมกันสำหรับกลยุทธ์ในการรุกธุรกิจบริหารจัดการอาคารของพลัสฯ ชู 6ความเชี่ยวชาญ ได้แก่ 1. เชี่ยวชาญด้านระบบการทำงานแบบ GlobalStandard มาตรฐานครบและครอบคลุมทุกมิติ ทั้งมาตรฐาน FITWELระดับ 3 ดาวซึ่งให้ความสำคัญกับการบริหารอาคารเพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้งาน ISO9001 : 2015 ระบบบริหารคุณภาพ เพื่อการันตีคุณภาพงานบริการและล่าสุด ISO 41000 : 2018ระบบบริหารทรัพยากรกายภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการเพื่อให้อาคารได้รับการดูแลและใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ทั้งนี้แผนปีนี้ของพลัสฯยังคงเดินหน้ายกระดับมาตรฐานการทำงานในสาขาอื่นๆให้ได้รับการการันตีคุณภาพระดับสากลเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยและลูกค้าผู้ใช้บริการวางใจถึงความเชี่ยวชาญที่ครบทุกด้าน และได้รับการดูแลที่ตอบโจทย์ทุกมิติรวมถึงช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้ใช้อาคารนั้นๆ 2.เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย
นอกจากการพาร์ทเนอร์กับพันธมิตรในการอบรมและคัดกรองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่มีคุณภาพแล้วยังเสริมความปลอดภัยอีกขั้นด้วยการควบคุมโดยทีม Sansiri SecurityInspection (SSI) ครูฝึกจากส่วนกลาง ที่เข้าตรวจสอบการทำงานและอบรมความรู้ด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมให้แก่เจ้าหน้าที่รปภ.ประจำโครงการ เพื่อควบคุมมาตรฐานการดูแลความปลอดภัย 3.เชี่ยวชาญด้านงานบริการ โดย PLUS Eduplexสถาบันภายในที่จัดอบรมอัพสกิลและรีสกิลบุคลากรให้มีทักษะความสามารถที่พร้อมให้บริการได้อย่างมืออาชีพและตรงตามมาตรฐานที่บริษัทกำหนดและออกแบบหลักสูตรพิเศษทรานส์ฟอร์มพนักงานให้มีทักษะอื่นข้ามสายงานเพิ่มเติม เพื่อสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างไม่มีขีดจำกัดและมีทีมตรวจสอบคุณภาพภายใน (Internal Audit)ที่มีการลงพื้นที่แต่ละอาคารเพื่อตรวจเช็คการทำงานอยู่สม่ำเสมอ 4.เชี่ยวชาญด้านกายภาพและระบบวิศวกรรมอาคารมีทีมวิศวกรและช่างสนับสนุนจากส่วนกลางที่มีความเชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบระบบวิศวกรรม และทีมดูแลอาคารที่ประจำในโครงการ มีแผนPreventive Maintenance ยืดอายุเครื่องจักร Corrective
แก้ไขระบบที่ขัดข้องอย่างทันท่วงที และ Improvementปรับปรุงทั้งงานวิศวกรรมและกายภาพ ให้สวยงาม คงมูลค่าและควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ 5.เชี่ยวชาญการสร้างคอมมูนิตี้ที่ดีและน่าอยู่ ควบคุมกฎระเบียบมีมาตรการการดูแล ช่วยอำนวยความสะดวก ประสานงานดูแลทุกเรื่องการใช้ชีวิตในโครงการ การจัดการตามสถาณการณ์ต่างๆเช่นมาตรการการรับมือ COVID-19 อย่างรัดกุม มาตรการดูแล HomeIsolationรวมถึงมีการจัดกิจกรรมให้กับลูกบ้านและผู้อยู่อาศัยในโครงการเพื่อสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดี 6. เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี มี
LIV-24 ศูนย์ควบคุมจากส่วนกลางที่ผสาน AI และ IoT Technologyพร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญดูแลความปลอดภัยในโครงการที่อยู่อาศัยได้แบบเรียลไทม์ตลอด 24ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชั่นด้านการอยู่อาศัยเพื่อเป็นช่องทางการติดต่อและอำนวยความสะดวกให้ลูกบ้านในโครงการ
“โครงการที่อยู่อาศัยทั้งคอนโดมิเนียมและโครงการหมู่บ้านยังคงมีการเติบโตและมีโครงการเปิดใหม่อย่างต่อเนื่อง พลัสฯมองเห็นโอกาสในธุรกิจนี้ ปี 2565 จึงเป็นปีที่พลัสฯจะเน้นสัดส่วนการเพิ่มรายได้ในกลุ่มธุรกิจบริหารจัดการอาคารซึ่งเป็นธุรกิจที่พลัสฯ มีความเชี่ยวชาญจากประสบการณ์การบริหารโครงการที่พักอาศัยในทุกระดับราคาเป็นบริษัท TOP3 ของไทยที่มีมาตรฐานระดับสากลและความพร้อมในการดูแลบริหารโครงการที่สามารถปรับตัวรับมือได้ในทุกสถานการณ์ โดยที่ผ่านมาแม้จะเกิดวิกฤตโควิดแต่พลัสฯยังคงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในการต่อสัญญารวมถึงได้รับการติดต่อจากโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง พลัสฯจึงมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายเติบโต 15% ได้”นายอนุกูลกล่าว
ปัจจุบัน พลัส พร็อพเพอร์ตี้ บริหารโครงการที่พักอาศัยกว่า 270 โครงการโดยคิดเป็นพื้นที่กว่า 13 ล้าน ตารางเมตรผู้ที่สนใจบริการสามารถดูข้อมูลได้ทางhttps://www.plus.co.th/service/living-management หรือโทร. 02-688-7555 ข้อมูลจากภาพ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (จากซ้ายไปขวา)
1. คุณชาญ ศิริรัตน์รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารทรัพยากรอาคารและวิศวกรรม
2. คุณสุวรรณี มหณรงค์ชัย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส
3. คุณอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ
4. คุณนฤมล อาภรณ์ธนกุลผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารอาคารที่พักอาศัย