In Thailand
กมธ.แก้ปัญหาความยากจนของวุฒิสภา บุกแพร่ดูปัญหาความยากจน-แหล่งน้ำ
แพร่-คณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา ลงพื้นที่จังหวัดแพร่ดูการแก้ปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ และการบริหารจัดการแหล่งน้ำขนาดเล็ก
วันนี้(5เม.ย.65) เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมจดหมายเหตุ ศาลากลางจังหวัดแพร่ นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ได้ให้การต้อนรับและประชุมร่วมกับ นายสังสิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา และคณะ ซึ่งเดินทางศึกษาดูงานเกี่ยวกับการกำหนดนโยบายเชิงพื้นที่ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการกำหนดนโยบายเชิงพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำด้วยการบริหารจัดการแหล่งน้ำขนาดเล็กเพื่อท้องถิ่น พึ่งพาตนเอง ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
จากนั้นภาคบ่าย เวลา 13.00 น. คณะเดินทางศึกษาดูงานในพื้นที่เกี่ยวกับนวัตกรรมการทำฝายชะลอน้ำแกนดินซีเมนต์ รูปแบบการบริหารจัดการน้ำเพื่อท้องถิ่น พึ่งพาตนเอง โครงการก่อสร้างฝายแกนดินซีเมนต์ลำน้ำแม่หล่าย บ้านบุญเจริญหมู่ 1 ตำบลแม่หล่าย อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ซึ่งมีขนาดสันฝายกว้าง 4 เมตร สูง 2 เมตร ยาว 60 เมตร งบประมาณ 462,300 บาท ซึ่งดำเนินการโดยองค์บริหารส่วนจังหวัดแพร่
สำหรับฝายแกนซอยซิเมนต์ (Soil Cement) เป็นการผสมดินกับซีเมนต์ ทำเป็นแกนฝาย เพื่อชะลอน้ำ เป็นโครงการที่จังหวัดแพร่ โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่นำมาใช้ในการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณเพื่อสร้างงานในระดับพื้นที่ ภายใต้ “โครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก” ตามมติคณะรัฐมนตรี โดยจัดสรรงบประมาณผ่านองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ในฐานะหน่วยรับงบประมาณเป็นโครงการก่อสร้างฝายชะลอน้ำดินซีเมนต์ จำนวน 5 โครงการ งบประมาณรวม 19,359,400 บาท
เวลา 15.00 น. ประชุมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับนายอนุวัธ วงศ์วรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ และผู้เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ และการบริหารจัดการแหล่งน้ำขนาดเล็กเพื่อท้องถิ่น พึ่งพาตนเอง ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่
นายสังสิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา กล่าวว่า จังหวัดแพร่ได้ดำเนินการสร้างฝายแกนซอยซีเมนต์เป็นแห่งแรกของภาคเหนือ ซึ่งถือว่าประสบผลสำเร็จ ประชาชนได้ประโยชน์อย่างแท้จริง สามารถแก้ไขปัญหาน้ำอุปโภค-บริโภคได้ อันจะทำให้ปัญหาปากท้องลดลง ในอนาคตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะนำไปปรับใช้ในพื้นที่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี /.