Authority & Harm
ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ร่วมงานประดับยศว่าที่รตต. ให้แก่ข้าราชการตำรวจภูธรในจังหวัด
กาฬสินธุ์-ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ และที่ปรึกษาคณะกรรมการตรวจสอบติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) ร่วมกันประดับยศว่าที่ ร.ต.ต แก่ข้าราชการตำรวจชั้นประทวนยศดาบตำรวจ อายุ 53 ปีขึ้นไป เป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565
ที่ห้องประชุมชัยสุนทร ตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานในพิธีประดับเครื่องหมายยศให้แก่ข้าราชการตำรวจ ผู้สำเร็จการฝึกอบรมหลักสูตรฝึกอบรมหลักสูตร การฝึกอบรมข้าราชการตำรวจชั้นประทวนยศดาบตำรวจ อายุ 53 ปีขึ้นไป เพื่อเลื่อนตำแหน่งและเลื่อนยศแบบเลื่อนไหลเป็นสัญญาบัตร ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรยศ ร.ต.ต. ประจำปี 2565 โดยมี พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ นายจารุวัฒน์ บุญเพิ่ม นายกเทศมนตรีเมืองกาฬสินธุ์ นายสิทธิศักดิ์ ยนต์ตระกูล ที่ปรึกษาผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ และคณะกรรมการตรวจสอบติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) ร่วมเป็นเกียรติในพิธี
ด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้อนุมัติให้ดำเนินการฝึกอบรมหลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจชั้นประทวนยศ ด.ต.อายุ 53 ปีขึ้นไป เพื่อเลื่อนตำแหน่งและเลื่อนยศแบบเลื่อนไหล เป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรถึงยศ ร.ต.อ. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 โดยกำหนดฝึกอบรมตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 10 มีนาคม 2565 และตำรวจภูธรภาค 4 ได้มีคำสั่ง ที่ 393/2565 ลงวันที่ 31 มีนาคม 2565 แต่งตั้งว่าที่ยศและแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งรองสารวัตรในสายงานต่างๆ ในสังกัด จำนวน 982 ราย ทั้งนี้ ตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ มีข้าราชการตำรวจสำเร็จการฝึกอบรมหลักสูตรดังกล่าว จำนวน 125 ราย และเข้าร่วมในพิธีประดับยศ ในวันนี้ จำนวน 114 ราย
นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ ได้กล่าวแสดงความยินดีกับข้าราชการตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ถือเป็นความภาคภูมิใจของตนเองและวงศ์ตระกูล ที่มีความเจริญก้าวหน้าในอาชีพตำรวจ ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรับใช้พี่น้องประชาชน มาเป็นระยะเวลายาวนาน ขอให้นายตำรวจทุกนายมีความมุ่งมั่น เสียสละ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้แก่ประชาชนให้สมเกียรติและศักดิ์ศรี ในฐานะที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง และขอให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด สมกับที่ได้รับการเลื่อนยศสูงขึ้นในครั้งนี้