In Thailand
'ธนากร'นำทีมบุกร้อยเอ็ดเปิดจัดกิจกรรม ปราศรัย'ขอคนละชื่อปลดล็อกท้องถิ่น'
ร้อยเอ็ด- 'ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ' แกนนำคณะก้าวหน้าได้จัดกิจกรรมแถลง “ขอคนละชื่อปลดล็อกท้องถิ่น” จัดตั้งโดยนายเทพพร จำปานวนตัวแทนท้องถิ่นอำเภออาจสามารถ ในนามคณะก้าวหน้าได้ร่วมด้วยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อม นายชำนาญ จันทร์เรืองเป็นผู้ปราศรัย โดยมีผู้ร่วมรับฟัง 100 คน
วันที่ 7 เมษายน 2565 เวลา 09.30น. ณ สวนน้ำอาจนคร เวอเตอร์ปาร์ค อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด คณะก้าวหน้าได้จัดกิจกรรมแถลง “ขอคนละชื่อปลดล็อกท้องถิ่น” จัดตั้งโดยนายเทพพร จำปานวนตัวแทนท้องถิ่นอำเภออาจสามารถ ในนามคณะก้าวหน้าได้ร่วมด้วยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อม นายชำนาญ จันทร์เรืองเป็นผู้ปราศรัย โดยมีผู้ร่วมรับฟัง 100 คน
นายชำนาญ จันทร์เรือง ได้ขึ้นปราศรัยให้ความรู้เกี่ยวกับการเสนอแนวคิดของนักการเมืองต่างประเทศการกระจายอำนาจคืนสู่ท้องถิ่น เพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งปัญหาการกระจายอำนาจปัจจุบัน กฎหมายเขียนให้อำนาจอย่างจำกัดภารกิจส่วนใหญ่ผูกกับส่วนกลาง ถ่ายโอนภารกิจล่าช้า ไม่มีสภาพบังคับ องค์กรตรวจสอบทั้งหลาย มักตีความกฎหมายเพื่อ “จำกัด/กำจัด” อำนาจของท้องถิ่น ส่วนแบ่งรายได้ไม่เท่าเทียมส่วนกลางได้ 65% ท้องถิ่นได้ 35% ท้องถิ่นไม่มีอิสระในการใช้เป็นเพียง “ท่อผ่านงบ” มีแหล่งรายรับน้อย ได้ส่วนแบ่งภาษีน้อย เก็บได้แต่ภาษีตัวเล็ก มีข้อจำกัดในการกู้เงินยาก ออกพันธบัตรยาก แบกรับรายจ่ายประจำไว้มากจนไม่มีงบลงทุนในการจัดการภารกิจต่างๆ
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ขึ้นกล่าวถึงความเหลื่อมล้ำของประเทศไทย ซึ่งนำไปสู่การให้ความรู้หลักการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นในการจัดการบริหารการกระจายงบประมาณซึ่งมีความล่าช้าในการจัดสรรกระจายสู่ท้องถิ่นจากส่วนกลาง โดยหากเปลี่ยนการแบ่งภาษีรายได้กันแบบ 50:50 จะช่วยให้การจัดงบประมาณได้ หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นผ่านจะสามารถแก้ปัญการเข้าถึงปัญหาต่างๆในท้องถิ่นได้รวดเร็วท้องถิ่นสามารถจัดการด้วยตัวเองได้อย่างทันท่วงทีโดยไม่ต้องรอส่วนกลาง
เมื่อเวลา 15.00น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมคณะก้าวหน้า ได้เดินทางมา ณ องค์กราบริหารส่วนตำบลหนองพอก เพื่อพบปะสมาชิกและเจ้าหน้าที่ข้าราชการอำเภอหนองพอก นายทักษิณ พลเยี่ยม โดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้กล่าวถึงโครงการน้ำประปาและขยะ ให้แก่เทศบาลหนองพอก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ชื่นชมทาง อบต.หนองพอกมีความริเริ่มจัดการน้ำประปาได้ดีทั้งจัดการพัฒนาด้วยตนเอง
นายธนาธรได้เสนอการจัดการ โดยให้ทางเทศบาลหนองพอกจัดการซื้อเครื่องตรวจวัดน้ำ ประกอบด้วย เครื่องวัดความขุ่น เครื่องวัดความด่าง เครื่องวัดคอรีนในน้ำ ในการพัฒนาระบบนำ้โดยรวมงบประมาณอยู่ที่ 45,000 บาทต่อมาได้พูดถึงโครงการจัดการขยะโดยเน้นไปที่เรื่องสิ่งแวดล้อมในการลดปริมาณคาร์บอน ซึ่งได้รับการความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ในการสนับสนุนโครงการนี้ โดยการเสนอโมเดลจัดการขยะซึ่งมีการสำรวจการเก็บขยะ พบว่ามีการหมักหมมของบ่อขยะทำให้เกิดมลพิษ จึงได้จัดหางบประมาณจัดการปิดบ่อขยะอย่างถาวรเพื่อลดมลพิษจากคาร์บอน เมื่อเวลา 15.00น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมคณะก้าวหน้า ได้เดินทางมา ณ องค์กราบริหารส่วนตำบลหนองพอก เพื่อพบนางสาวนิระมล ชื่นตา นายกเทศมนตรีตำบลหนองพอก กับ นายสมชัย หกพันธ์นา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองพอกพร้อมสมาชิกและเจ้าหน้าที่ข้าราชการอำเภอหนองพอก นายทักษิณ พลเยี่ยม
โดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้กล่าวถึงโครงการน้ำประปาและขยะ ให้แก่เทศบาลหนองพอก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ชื่นชมทาง อบต.หนองพอกมีความริเริ่มจัดการน้ำประปาได้ดีทั้งจัดการพัฒนาด้วยตนเอง
นายธนาธรได้เสนอการจัดการ โดยให้ทางเทศบาลหนองพอกจัดการซื้อเครื่องตรวจวัดน้ำ ประกอบด้วย เครื่องวัดความขุ่น เครื่องวัดความด่าง เครื่องวัดคอรีนในน้ำ ในการพัฒนาระบบนำ้โดยรวมงบประมาณอยู่ที่ 45,000 บาทต่อมาได้พูดถึงโครงการจัดการขยะโดยเน้นไปที่เรื่องสิ่งแวดล้อมในการลดปริมาณคาร์บอน ซึ่งได้รับการความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ในการสนับสนุนโครงการนี้ โดยการเสนอโมเดลจัดการขยะซึ่งมีการสำรวจการเก็บขยะ พบว่ามีการหมักหมมของบ่อขยะทำให้เกิดมลพิษ จึงได้จัดหางบประมาณจัดการปิดบ่อขยะอย่างถาวรเพื่อลดมลพิษจากคาร์บอน หลังจากนั้น เวลา 17.30น. ที่ร้านอาหาร จังจัง ยำนม ตำบลหนองพอก อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมคณะก้าวไกล โดยมีผู้เข้าร่วม 50 คน ได้มารับฟังการจัดปราศรัยรณรงค์เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด14 ว่าด้วยเรื่องให้องค์กรท้องถิ่นมีการกระจายอำนาจบริหารจัดการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ด้วยตนเอง พูดถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำในประเทศไทยเกิดขึ้นจากอำนาจในการจัดสรรงบประมาณของรัฐ ซึ่งมีความล่าช้าในการจัดแบ่งงบประมาณคืน มีการจัดสรรจากส่วนกลางได้65%แบ่งสู่ท้องถิ่นได้เพียง 35% เป็นการจัดสรรงบประมาณอย่างไม่เป็นธรรม