In Thailand

'จุรีพร'แจงคลิปฉาวขอโควต้าสลากแรมโบ้ ท้านายกิ๊กพิสูจน์มือถือ-เอารองเท้าคืน



ร้อยเอ็ด-หลังเกิดคลิปเสียงฉาวการเจรจาโควตาหวย ระหว่างนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กับ น.ส.จุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมือง ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แม้มีเสียงเรียกร้องให้ปลดนายเสกสกลพ้นจากตำแหน่ง แต่ก็มีความพยายามจะยื้ออยู่ต่อ ล่าสุดนายเสกสกล ประกาศยอมลาออกจากทุกตำแหน่งแล้ว

จากกรณีเมื่อเวลา 15.35 น. วันที่ 18 เม.ย. ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ฉายา “แรมโบ้” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินกว่าราคาที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล อ่านแถลงการณ์ลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว มีผลวันที่ 19 เม.ย. เหตุที่ตัดสินใจลาออกเพราะสำนึกรับผิดชอบต่อความรู้สึกของประชาชน จากที่ปรากฏคลิปเสียงพูดโทรศัพท์กับ น.ส.จุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมือง เป็นเหตุให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ และมีการตั้งข้อกล่าวหาเป็นประเด็นทางการเมือง ควรพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้เป็นที่ประจักษ์ ให้เป็นตัวอย่างและบรรทัดฐานจริยธรรมทางการเมือง เมื่อมีข่าวอาจกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อถือของทีมงานนายกฯ จึงคิดว่าไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล และไม่ประสงค์จะเป็นฟันเฟืองที่ชำรุด เพื่อไปพิสูจน์ความจริงตามกระบวนการยุติธรรม

ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 เม.ย.65 เวลา 12.30 น. น.ส.จุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมือง ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยข้อมูลว่า จากกรณีที่มีการปล่อยคลิปเสียงเจรจาขอโควต้าหวยจากที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ 

ความเป็นมาของการรู้จักกับ นายกิ๊ก เรื่องจาก วันที่ 13 มีนาคม มีนางน็อตเป็นผู้หญิง ได้ขอประสานขอเข้าพบ เพื่อที่เข้ามาพบที่สำนักงาน พร้อมกับผู้ชาย ได้ทราบชื่อภายหลังว่าชื่อ นายกิ๊ก หรือสุดสยาม มากแก้ว และได้ขอถ่ายรูปโดยคุณน็อตได้บอกว่ามีโรงงานทำเสื้ออยู่อำเภออาจสามารถ จะมาขอโควต้าทำเสื้อ โดยคุณน็อตได้อ้างว่ามีโควต้าทำปุ๋ยทั่วประเทศ และยังอ้างอีกว่าสนิทกับรองปะหลัดกระทรวงคะมนาคม อ้างว่าจะเอางานถนนราดยางมาลงตามท้องถิ่นต่างๆในจังหวัดร้อยเอ็ดจึงให้อดีตรองประธานสภา อบต รอบเมือง และอดีตนายกไปนั่งฟัง การทำถนนราดยางและสืบทราบอ้างว่าสนิทกับรองปะลัดกระทรวงคมนาคม ไม่ขอเอ่ยชื่อ ว่าจะเป็นคนนำถนนลาดยางมาสู่ท้องถิ่นและยังกล่าวอ้างว่า สส.ในร้อยเอ็ดได้ลงมาแล้ว แต่เมื่อสอบถาม สส.ในร้อยเอ็ดแล้วไม่มีใครได้แม้แต่คนเดียว พอสอบถามไปภายหลังเกิดเหตุ ไม่มีสส.ท่านใดได้รับงบประมาณจากส่วนนี้เลย จึงประมาณการไว้ว่าเป็นเพียงข้ออ้าง ด้านที่นายกิ๊กกล่าวอ้างว่ามีโรงงานผลิตเสื้อใน อ.อาจสามารถนั้น สืบทราบภายหลังทราบว่าโรงงานดังกล่าวปิดกิจการไปแล้ว 

หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2565 นายกิ๊ก ได้เดินทางเข้าไปพบคุณจุรีพร ที่บ้าน กรุงเทพมหานคร เพื่อเข้ารับออเด้อ หลังจากที่เข้าพบได้รับออเด้อเสร็จแล้ว นายกิ๊กได้ยินคุณจุรีพร ว่าจะเข้าพบแรมโบ้ เพื่อคุยเรื่องการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด นายกิ๊กจึงขอติดตามไปด้วย หลังจากนั้นเมื่อไปถึงคุณจุรีพร สินธุไพร พร้อมด้วย สามี ได้เข้าไปพบแรมโบ้ ประมาณ 2-3 นาที 

เนื่องจาก คุณแรมโบ้มีงานเยอะจึงนัดคุยกันวันหลัง ในขณะที่ระหว่างคุยกัน 3 คนนั้น คุณกิ๊กรออยู่ข้างนอกไม่ได้พบคุณแรมโบ้แต่อย่างใด หลังจากเสร็จจากพบคุณแรมโบ้ คุณจุรีพร สินธุไพรได้มานั้งกินข้าวด้วยกันบนโต๊ะจำนวน 5 คน ขณะเดียวกันคุณแรมโบ้ ได้โทรเข้ามาและคุณจุรีพร สินธุไพร ได้เปิดโฟนรับสาย ซึ่งคุณกิ๊กนั่งอยู่ติดกับคุณจุรีพร ได้มีพฤติกรรมแปลกๆแต่คุณจุรีพร ไม่ได้เฉลียวใจแต่อย่างใด 

โดยตนได้ตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมนายกิ๊กเข้ามาติดต่อทำธุรกิจเรื่องเสนอแบบเสื้อ แต่ไม่มารับออเดอร์ ขาดการติดต่อไป และระหว่างการร่วมรับประทานในวงอาหารก็ผุดลุกผุดนั่ง เหมือนจะมีการลุกไปคุยโทรศัพท์บ่อยๆ นอกจากนี้ยังมีการซื้อรองเท้าแบรนแนมด์มาฝากตน ซึ่งตนอยากให้มารับคืนไป เพราะตนไม่เอาและไม่เคยจะหยิบขึ้นมาดูด้วยซ้ำ ส่วนเรื่องการเปิดโฟนโทรศัพท์นั้น ตนมีปัญหาเรื่องน้ำในหูไม่เท่ากัน จึงต้องเปิดลำโพงคุยโทรศัพท์ โดยยืนยันว่าไม่เคยมีความลับกับใคร ยินดีให้นำโทรศัพท์ของตนไปปทำการตรวจสอบได้ ว่าใครที่ปปล่อยคลิปกันแน่ 

ส่วนนายกิ๊กหากบริสุทธิใจก็ให้นำโทรศัพท์ที่มีอยู่ทุกเครื่องไปให้ตำรวจตรวจสอบได้ สุดท้ายตนอยากบอกว่า การนำเสนอข่าวอยากให้สอบถามข้อมูลกับตนบ้าง ไม่ใช่ฟังความแต่ข้างเดียว แล้วนำเสนอให้เกิดความเสียหายต่อตน ซึ่งมีข้อมูลหลายส่วนที่ไม่เป็นความจริง

สอบถามนายเฉลิมพล ระดาพัฒน์ (ทนายเสือ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย น.ส.จุรีพร สินธุไพร) คดีนี้ตนคิดว่าไม่น่ายาก เพราะเป็นเพียงการสนทนาโทรศัพท์ของคนสองคน ก็ให้เรียกคนที่ปล่อยคลิปปมาสอบสวนว่าได้คลิปมาจากใคร เช็คข้อมูลในโทรศัพท์ย้อนหลังว่าใครเป็นคนบันทึกคลิปดังกล่าว เพื่อนำไปรวบรวมเป็นหลักฐานดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนกรณีที่มีผู้กล่าวโทษทำให้ คุณจุรีพร เสียหาย ตนในฐานะที่ปปรึกษาทางกฎหมายก็จะรวบรวบพยานหลักฐาน ดำเนินการตามกฎหมายเช่นกัน