In Thailand

ร้อยเอ็ดถกคกก.โรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด ยกระดับHIและCIรับผู้ป่วยให้เพียงพอ



ร้อยเอ็ด ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด ครั้งที่ 12  ยกระดับประสิทธิภาพ Home Isolation และ Community Isolation เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าสู่กระบวนการกักตัวและรักษาอาการได้อย่างเพียงพอตามปริมาณยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น โดยให้มี Call Center ที่สามารถตอบสนองได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

วันพุธที่ 20 เมษายน 2565 เวลา 09.30 น. นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด คณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัดร้อยเอ็ด ครั้งที่ 12/2565 ที่ห้องประชุมพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นายชนาส ชัชวาลวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ,นายสนอง ดลประสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ,นางสาวสุดาทิพย์ มูลอ้าย หัวหน้าสำนักงานจังหวัดร้อยเอ็ด ,นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด คณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัดร้อยเอ็ด เข้าร่วมประชุม

โดยในที่ประชุมมีการนำเสนอสถานการณ์โรคโควิด-19 ซึ่งในวันที่ 20 เมษายน 2565 จังหวัดร้อยเอ็ดมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 565 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด 547 เป็นผู้ติดเชื้อมาจากต่างจังหวัด 18 ราย หายป่วยกลับบ้าน 443 ราย และเสียชีวิต 2 ราย ซึ่งวาระสำคัญ คือ การให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ Antige Test Kit (ATK) ครอบคลุมทุกพื้นที่ อีกทั้งยกระดับประสิทธิภาพ Home Isolation และ Community Isolation เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าสู่กระบวนการกักตัวและรักษาอาการได้อย่างเพียงพอตามปริมาณยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น โดยให้มี Call Center ที่สามารถตอบสนองได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว พร้อมทั้งติดตามอาการ ให้ข้อแนะนำเพิ่มเติมแก่ผู้ติดเชื้อจนกว่าจะหายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้ประชาชนได้เข้าใจการดำเนินงานของภาครัฐยิ่งขึ้น ในส่วนของประเพณีบุญบั้งไฟ ต่องมีการประชุมหารือกันต่อไป ในเบื้องต้นสามารถจัดได้แต่ต้องอยู่ใน มาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิค-19 อย่างเคร่งครัด 

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานมีการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 แบบครอบจักรวาล (Universal Prevention For COVID-19) และให้ทุกภาคส่วน รวมถึงประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการสถานการณ์การร่วมกัน ปฏิบัติตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร และขอให้ผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด และผู้ที่ครบกำหนดฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้น เข้ารับการฉีดวัคซีน พร้อมทั้งให้ป้องกันตนเอง โดยการสวมหน้ากาก ล้างมือ รักษาระยะห่างที่ปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ