Authority & Harm

ใครใหญ่?พ่วงฝ่ากฎเลี้ยวเหยียบจยย.ดับ ตร.แปดริ้วยันสอบพ่วงแล้วไม่แจ้งข้อหา



ฉะเชิงเทรา-ใครผิด พ่วงฝ่าทางบังคับเลี้ยวจุดตัดทางแยกเหยียบ จยย.ดับคาถนน ขณะเส้นเครื่องหมายบ่งชี้กำกับการใช้ทางลบเลือน ทำ จยย.ผู้ใช้ทางร่วมตัดสินใจผิดพลาดประกอบความประมาทไม่ดูรถในทางก่อนเลี้ยวออกสู่ถนนใหญ่ ท่ามกลางโครงการก่อสร้างที่มีการบีบลดช่องทางการสัญจร จนเกิดความคับคั่งแก่งแย่งที่จะพากันมุ่งตรงไปข้างหน้า

วันที่ 21 เม.ย.65 เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ กรณีมีสื่อโซเชียลในท้องถิ่น นำคลิปภาพวงจรปิด ที่บริเวณทางสามแยกสัญญาณไฟไรงเรียนเทศบาล 2 ซึ่งเป็นจุดตัดทางแยกระหว่างถนนสาย 314 ฉะเชิงเทรา-บางปะกง (สิริโสธร) และถนนเทพคุณากร ทางเข้าวัดโสธรฯ ในนาทีขณะที่รถบรรทุกพุ่งเหยียบทับรถจักรยานยนต์ จนทำให้มีหญิงสาวผู้ขับขี่ถูกล้อหลังของรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อทับ จนเสียชีวิตเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้

จากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ บนถนนสาย 314 พบว่าช่องทางที่รถบรรทุกซึ่งขับมาในช่องทางด้านซ้ายสุดของถนนด้านฝั่งขาออกจากตัวเมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งมีทั้งหมด 4 ช่องจราจรนั้น เป็นช่องทางบังคับเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเทพคุณากร หรือเป็นช่องทางสำหรับรถเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด ที่เดิมเคยมีเครื่องหมายเป็นเส้นตีกำกับการใช้ทางไว้เป็นเส้นสีขาว เพื่อบังคับให้รถผู้ใช้ช่องทางนี้จะต้องเลี้ยวซ้ายเท่านั้น 

แต่เส้นเครื่องหมายสีขาวดังกล่าวได้ลบเลือนจนมองไม่เห็น และเกือบจางหายไปจากพื้นผิวการจราจรจนหมดสิ้น และแม้รถยนต์ของผู้ใช้ทางที่เข้ามาในช่องนี้ จะได้รับสัญญาณไฟเขียวจากทางแยกให้ตรงไปก็ตาม แต่รถบรรทุกคันดังกล่าวนั้นย่อมไม่มีสิทธิ์ที่จะตรงไปข้างหน้าได้ และหากขับตรงไปข้างหน้าจึงเป็นการฝ่าฝืนเครื่องหมายบังคับการจราจรบนเส้นทาง 

ขณะที่รถจักรยานยนต์ที่ขับออกมาจากทางแยกนั้น แม้จะอยู่ในช่องทางเลี้ยวซ้ายผ่านตลอดเพื่อขับออกจากถนนเทพคุณากร ซึ่งเป็นทางสายรองเข้าสู่ถนนสายหลักนั้น กลับไม่ได้ดูเส้นทางให้ปลอดภัยก่อนที่จะเลี้ยวออกไปตามภาพที่ปรากฏจากกล้องวงจรปิด ที่มีการเผยแพร่ผ่านทางสื่อโซเชียล จึงเป็นเหตุให้รถบรรทุกพ่วงคู่กรณี ยี่ห้อฮีโน่ คันหมายเลขทะเบียนหัวลาก 82-3473 ฉะเชิงเทรา ซึ่งมี นายธนกฤต บุญคำ อายุ 51 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 33 ม.5 ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เป็นคนขับมานั้น

เบียดเกี่ยวจนรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่าคันหมายเลขทะเบียน ขงล-803 ฉะเชิงเทรา ซึ่งมี น.ส.นรินธร แก้วไพศาล อายุ 20 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 108 ม.6 ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ล้มลง และถูกล้อรถทับร่างจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุตามภาพที่ปรากฏ 

ขณะเดียวกันหลังจากเลยผ่านจุดเกิดเหตุดังกล่าวไปแล้ว อีกประมาณ 50 เมตร บนเส้นทางข้างหน้ายังมีการวางแผงแท่งแบริเออร์บีบช่องทางการจราจรจาก 4 ช่องทางการสัญจรให้เหลือเพียง 2 ช่องทางด้านซ้าย เพื่อทำการก่อสร้างตามโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแยกบางพระ จึงทำให้ผู้ใช้รถส่วนใหญ่ที่ใช้เส้นทางประจำหรือผู้รู้ทางนั้น มักจะพยายามขับเบียดเข้าสู่ช่องทางด้านซ้ายเอาไว้อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้อยู่ภายใน 2 ช่องทางริมด้านซ้ายสุดไว้เท่านั้น จึงจะเดินทางต่อไปได้สะดวก

และอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ได้เลือกใช้วิธีขับชิดเส้นทางด้านซ้ายไว้ตลอดตั้งแต่แรก ก่อนที่จะถึงทางสามแยกเทศบาล 2 เพื่อจองเส้นทางการสัญจรไว้โดยที่ไม่ต้องมีการเปลี่ยนเส้นทางอีกไปจนจรดทางสามแยกบางพระ ที่จะทำได้ยากกว่า ขณะที่คนขับรถจักรยานยนต์นั้น อาจเข้าใจว่าช่องทางที่ตนเองจะเลี้ยวออกไปนั้น มีรถทางตรงถูกบังคับเลี้ยวไว้แล้วจึงไม่น่าจะมีรถพุ่งตรงออกมา จึงได้ตัดสินใจเลี้ยวรถออกไปโดยที่ไม่ได้ดูว่ามีรถขับมาตามเส้นทางหรือไม่ จนกลายเป็นเหตุสลดเกิดขึ้นในที่สุด

ขณะที่ ร.ต.ท.หญิง อรวรรณ มิตยสิทธ์ รองสารวัตรเวรสอบสวนจราจร สภ.เมืองฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ขณะนี้ได้ทำการสอบปากคำนายธนกฤต ไว้แล้วในเบื้องต้นก่อน เพื่อรอการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยที่ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาหรือดำเนินคดีต่อผู้ใด หากสามารถรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้แล้ว จึงจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และสำหรับผู้เสียชีวิตนั้นทราบว่ามาทำงานอยู่กับญาติภายในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ใกล้ที่เกิดเหตุ ร.ต.ท.หญิง อรวรรณ กล่าว

 สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา