In Thailand

'เสธ.แก้ว'ลงพื้นที่ช่วยป้าจูป่วยติดเตียง ชื่นชมหลานสาวม.5ดูแลไม่ห่าง 



นครปฐม-พ.ท.ดร.สินธพ เสธ.แก้ว ส.ส.นครปฐม เขต 1 พื้นที่มอรถเข็นและเครื่องยังชีพให้ป้าจู อายุ 85 ปี ผู้ป่วยเส้นเลือดในสมองตีบ โดยชื่นชมหลานสาว นร.ชั้นม.5 คอยดูแลไม่ห่างโดยเป็นเด็กพฤติกรรมดีมีความตั้งในการศึกษา ซึ่งเป็นภาพที่เห็นครอบครัวมีความอบอุ่นเป็นสิ่งที่จะทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุขที่สุด 

วันนี้ 2 พ.ค. 65 พ.ท.ดร.สินธพ แก้วพิจิตร (เสธ.แก้ว) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครปฐม เขต 1 พร้อมด้วย คณะทำงานและกลุ่มเพื่อนเสธ.แก้ว เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 318/27 ชุมชนวัดพระงาม เขตเทศบาลนครนครปฐม จังหวัดนครปฐม เพื่อเป็นตัวแทนนำรถเข็นสำหรับผู้ป่วย และเครื่องอุปโภค บริโภค มอบให้กับนางจู เหล่าขจร หรือคุณป้าจู อายุ 85 ปี ซึ่งนอนป่วยด้วยอาการเส้นเลือดในสมองตีบ ไม่สามารถเดินได้ โดยมีความต้องการรถเข็นสำหรับผู้ป่วยเพื่อให้สำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน โดยมีหลานสาวนักเรียนชั้น ม.5 ได้เป็นผู้ช่วยดูแลร่วมกับลูกหลานไม่ห่าง

พ.ท.ดร.สินธพ (เสธ.แก้ว) ส.ส.นครปฐม เผยว่าได้รับการประสานงานจาก รศ.ดร.วรกาญจน์ สุขสดเขียว คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ว่าคุณป้าจู เพิ่งป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบซึ่งยังต้องการที่จะได้รับรถเข็นสำหรับผู้ป่วยเพื่อให้ใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อฝึกการเดินและขึ้นลงจากเตียงผู้ป่วย เพื่อให้มีอาการดีขึ้น โดยกลุ่มเพื่อนเสธ.แก้ว ได้มีการนำรถเข็น รวมถึงข้าวสารอาหารแห้งมามอบให้เพื่อให้ใช้สำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเมื่อได้มาพบครอบครัวนี้แล้วถือว่ามีความน่าประทับใจเนื่องทราบว่าลูกสาวของคุณป้าจูต้องมีการฟอกไต เป็นประจำซึ่งเป็นปัญหาด้านสุขภาพในครัวเรือน แต่ยังดีที่มีหลานสาวคือน้องมิ้นท์ ซึ่งเป็นผู้ที่ช่วยบิดาในการมาดูแลคุณย่าหรืออาม่า ให้มีการฝึกกายภาพและดูแลเรื่องสุขภาพ โดยทราบว่าเป็นเด็กที่เรียนดี มีเกรดเฉลี่ยถึง 3.9 ในช่วงที่ต้องดูแลญาติผู้ใหญ่ไปด้วยซึ่งเป็นเรื่องดีที่เห็นความรักความอบอุ่นในครอบครัวซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงดัชนีความสุขในครัวเรือน 

นางสาววิชญาพัชณ์ ชื่นมี หรือน้องมิ้น อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นม.5 โรงเรียนราชิณีบูรณะ บอกว่า ตนเองมีหน้าที่ดูแลอาม่า ในการทำความสะอาดร่างกายและฝึกยืดกล้ามเนื้อ โดยต้องขอบคุณ พ.ท.ดร.สินธพ (เสธ.แก้ว) ส.ส.นครปฐม ที่ทราบข่าวและเข้ามาดูแล สอบถามความเป็นอยู่ ส่วนตัวแล้วรู้สึกดีใจ ทำให้มีกำลังใจในการอาม่ามากขึ้น ซึ่งอยากให้มีผู้นำชุมชน หรือผู้แทนที่ได้เข้ามาดูประชาชนแบบนี้จะทำให้ประชาชนได้รับการดูแลแบบนี้ทุกครัวเรือน และขอขอบคุณที่ไม่ทอดทิ้ง ตอนนี้ได้วางแผนจะสอบเข้าเป็นตำรวจเพื่อรับราชการจะได้มีสวัสดิการดูแลครอบครัวให้มากขึ้น โดยพยายามใช้ความตั้งใจในช่วงเรียนออนไลน์ให้ได้มากที่สุดด้วย