Authority & Harm
ร้องทุกข์!หนุ่มคลั่งถือมีดดักจี้สาวขี่จยย. เด็ก13ถูกจี้บนถนนทิ้งรถหนีเอาตัวรอด!
ปราจีนบุรี-ร้องทุกข์!หนุ่มคลั่งถือมีดดักจี้สาวขี่จยย.บนถนนทิ้งรถวิ่งหนีเอาตัวรอด!!บนถนนสายเขาไม้แก้ว-วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีขณะขับรถมาตามถนนบริเวณบ้านคลองตามั่นจู่ๆมีชายวัยกลางคนยืนอยู่ใต้ร่มไม้ข้างทาง เดินออกมากลางถนนในมือถือมีดมาด้วยและบอกให้จอดรถ ชายหนุ่มคนดังกล่าวมีท่าทางน่ากลัวมาก
วันนี้ 14ธ.ค.63 ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรีรายงานว่า ได้รับร้องทุกข์จากผู้ปกครองเด็กหญิงอายุ 13 ปี นั่งซ้อนท้ายรถจยย.ไปกับลูกพี่ลูกน้อง 2 คน บนถนนสายเขาไม้แก้ว-วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีขณะขับรถมาตามถนนบริเวณบ้านคลองตามั่นจู่ๆมีชายวัยกลางคนยืนอยู่ใต้ร่มไม้ข้างทาง เดินออกมากลางถนนในมือถือมีดมาด้วยและบอกให้จอดรถ ชายหนุ่มคนดังกล่าวมีท่าทางน่ากลัวมาก ญาติจึงจอดรถทิ้งไว้ ชายคนดังกล่าวพยายามใช้มีดจะทำร้าย จีงพาหลานสาวถอยออกจากรถ
ขณะนั้นมีคนขับกระบะที่ขับตามหลังมาเห็นบอกให้หนีออกมาขึ้นรถ จึงพาหลานสาววิ่งออกมาขึ้นรถชายคนดังกล่าววิ่งไล่ตามไปและวนอยู่ข้างกระบะรถคนขับเห็นท่าไม่ดีจึงรีบขับรถออกมาจากจุดเกิดเหตุได้อย่างปลอดภัยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับพ่อของเด็กสาวอายุ 13 ปี โดยพ่อของเด็กสาวกล่าวว่าอยากให้ผู้สื่อข่าวไปดูตรงที่เกิดเหตุว่าบริเวณดังกล่าวนั้นอันตรายหรือไม่ตัวเองคิดว่าชายคนดังกล่าวจะดักซุ่มเพื่อก่อเหตุกับผู้ที่ขับขี่รถสัญจรผ่านไปมาซ้ำอีกครั้งหนึ่ง นางสุพัตรา ศัพเสนาะ น้าสาว ผู้ขับขี่รถ จยย.พาหลานสาว อายุ 13 ปี เป็นลูกสาวของตนออกไปซื้อของที่ตลาดวังท่าช้างซึ่งหลานสาวจะไปเที่ยวตลาดนัดซึ่งพ่อของเด็กไปขายของที่ตลาดนัดห่างจากบ้าน 8 กม.เป็นพื้นที่รอยต่อ
วันเกิดเหตุวันที่ 13 ธ.ค.นางสุพัตรากล่าวว่าขากลับมาถึงที่เกิดเหตุเห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่ข้างถนนฝั่งตรงข้ามตอนแรกไม่ได้คิดอะไรคงเป็นชาวบ้านละแวกนี้รอจะข้ามถนน พอรถวิ่งมาในระยะใกล้ชายคนดังกล่าวได้เดินเข้ามาหาในมือถือมีดมาด้วยตัวเองตกใจมากที่เห็นชายคนดังกล่าวถือมีดเข้ามาจี้ให้หยุดรถ ผู้ชายคนนี้ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนมีท่าทางน่ากลัวมากพูดจาไม่รู้เรื่องขณะนั้นพยายามมองมือของชายคนนี้ตลอดเวลาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นประมาณ 30 วินาที พลเมืองดีขับรถตามหลังมาเห็นจึงได้เรียกให้วิ่งออกมาขึ้นรถหนีเอาตัวรอดชายคนดังกล่าวถือมีดวิ่งไล่ตามไปพลเมืองดีจึงขับรถหนีออกมาโดยด่วนเพื่อความปลอดภัย
ด.ญ.ปิยะดา เต็มมากอายุ 13 ปี กล่าวว่า ตอนนี้ยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่กับเรื่องที่เกิดขึ้น พูดอะไรไม่ออก ชาวบ้านคนหนึ่งหมู่เดียวกัน(ไม่ขอปิดเผยชื่อ) บอกว่าเห็นชายคนนี้ทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว มีทั้งถือปืนออกมาเดินเลาะถนน ชาวบ้านไม่อยากยุ่งด้วย เพราะว่าเป็นคนคุ้มคลั่งบ่อยๆเกรงจะได้รับอันตราย ชายคนนี้ไม่มีใครยุ่งเกี่ยวด้วยกลัวได้รับอันตราย
นายวีรพล เผือกแคร์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.11ต.เขาไม้แก้ว กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่บ้าน ได้รับแจ้งจากกำนันว่าในหมู่บ้านเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น กำนันและตำรวจสายตรวจมาตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว โดยชายคนดังกล่าวมีอาการมึนเมายอมรับว่าผู้ก่อเหตุถ้ากินเหล้าแล้วจะเกิดอาการคุ้มคลั่งเป็นประจำ กินเหล้าอย่างเดียวไม่เท่าไหร่แต่หากว่าเสพอย่างอื่น จะถือมีดออกมาหาดักขู่ทำร้ายคนอื่น ได้รับแจ้งหลายครั้งแล้วเคยว่ากล่าวตักเตือนไปแล้วหลายครั้งก็ทำอีกต่อมา
ขณะนางสาคร บุญตั้งผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 กล่าวว่า ลูกบ้านที่ก่อเหตุชื่อนายกิตติพงษ์ ภณโสภา อายุ 36 ปี ปกติเป็นคนขยันทำงานชอบกินเหล้า และมีอาการมึนเมาคุ้มคลั่ง เที่ยวถืออาวุธออกมานอกบ้านข่มขู่จะทำร้ายผู้อื่นเป็นประจำจากนั้น ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 22 ม.11เป็นบ้านของผู้ก่อเหตุ แต่ไม่พบตัวนายกิตติพงษ์ มีพี่สาวนางน้ำ (นามสมมุติ) กล่าวว่า เป็นพี่สาวนายกิตติพงษ์ ซึ่งเป็นคนขยันทำงานดี แต่เสียอยู่อย่างเดียวชอบกินเหล้า ถ้ากินเหล้าเกินครึ่งขวดจะออกอาการคุ้มคลั่งทุกครั้ง แม่และญาติๆห้ามปรามไม่ให้กินเหล้ามากนะ แต่ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่มีใครเข้าใจตนเองหรอก ตนเป็นคนเก็บกดและมีเรื่องราวที่แสนเจ็บปวดสุมอยู่ในอกและกล่าวต่อไปว่า น้องชายมีครอบครัวแต่แยกกันมีลูก 1 คน อยากให้น้องชายหายจากอาการนี้ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ถ้าไม่เมาจะพูดจาดีและขยันทำงาน แต่ถ้ากินเหล้าเข้าไปแล้วจะออกอาการคุ้มคลั่งทุกครั้งไปมีคนพูดให้ฟังเสมอว่าน้องชายถืออาวุธออกไปข่มขู่คนอื่นหลายๆครั้งแล้วเหมือนกัน เรื่องราวที่เกิดขึ้นขอโทษแทนน้องชายด้วยที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนและหวาดกลัว
ด้านนายสมภพ ปลาไตร กำนัน ต.เขาไม้แก้ว เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากตำรวจว่ามีคนคุ้มคลั่ง ถือมีดข่มขู่ทำร้ายคน จึงออกมาระงับเหตุ เห็นนายกิตติพงษ์กำลังถือมีดอยู่ในมือ จึงพูดจาเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธลงแต่โดยดี นายกิตติพงษ์จึงยอมวางมีดและพูดคุยด้วยพร้อมกับรับปากว่าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว
ขณะที่นายชัยวัฒน์ แสนสุข(พ่อของเด็ก13 ) กล่าวว่าอยากร้องเรียนผ่านสื่อว่าอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำตัวผู้ก่อเหตุไปบำบัดและรักษาให้หายจากอาการคุ้มคลั่งแบบนี้ เพราะผู้เสพยาปัจจุบันคือผู้ป่วยที่ต้องรักษาบำบัด เกรงว่าวันข้างหน้าผู้ก่อเหตุถือมีดออกมาไล่จี้ไล่ทำร้ายคนอื่นจะเกิดอันตรายถึงชีวิตหรือเกิดผู้ก่อเหตุจี้บังคับจับตัวผู้หญิงไปทำไม่ดีจะอย่างไร กรณีของลูกสาวตัวเองนับว่าโชคดีที่ไม่ถูกผู้ก่อเหตุยังไม่ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตตามที่เคยออกข่าวมาแล้วหลายครั้ง...
มานิตย์ สนับบุญ/ปราจีนบุรี