EDU Research & ESG

ไลอ้อนรุก'อาชีวศึกษาระบบทวิภาคี'รุ่น6 ดึงเด็กสู่การเรียนรู้อาชีวะควบคู่วิชาชีวิต



กรุงเทพฯ-การเปิดโอกาสและพัฒนาเยาวชนเข้าสู่ระบบการศึกษา นับว่าเป็นสิ่งที่หลายองค์กรธุรกิจให้ความสำคัญ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อคนไทย มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจคู่คุณธรรม พัฒนาสินค้านวัตกรรมและโครงการเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงโครงการพัฒนาเยาวชนให้มีความรู้ความสามารถเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและเป็นผู้นำพาประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจในระยะยาว ประสานความร่วมมือกับภาครัฐ และสถาบันการศึกษา ภายใต้โครงการ “อาชีวศึกษาระบบทวิภาคี”

ที่ผ่านมา บริษัทฯดำเนินโครงการประสานความร่วมมือกับวิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ จ.ชลบุรี  วิทยาลัยการอาชีพแกลง จ.ระยอง ในการจัดการเรียนการสอนหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประเภทวิชาช่างอุตสาหกรรม สาขาวิชาซ่อมบำรุง และสาขาวิชาเมคคาทรอนิกส์  โดยมีรูปแบบการเรียนการสอนเป็นการเรียนวิชาพื้นฐานที่วิทยาลัย และการเรียนฝึกปฏิบัติที่โรงงานโดยทีมไลอ้อนเป็นผู้สอน  

“สายชล ศีติสาร” กรรมการบริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในวันปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ประจำปี 2565 โครงการ “อาชีวศึกษาระบบทวิภาคี” ว่า “ไลอ้อน ประเทศไทย ได้เริ่มโครงการนี้ตั้งแต่ ปี 2560 โดยมีเป้าหมายมุ่งผลิตนักศึกษาอาชีวะที่เป็นเลิศด้านคุณธรรมและปฏิบัติงานได้จริงตรงตามความต้องการของสถานประกอบการสอดรับกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ นับเป็นโครงการนำร่องของระบบการศึกษาไทย เน้นการเรียนใน 2 ส่วนได้แก่ วิชาชีพและวิชาชีวิต นักเรียนที่เข้ามาในโครงการนี้มีโอกาสในการเก็บเกี่ยวประสบการณ์และยกระดับการเรียนรู้อย่างเต็มที่ เพื่อให้พร้อมรับมือกับโลกของเทคโนโลยี AI ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ที่ผ่านมาได้เปิดโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชนมาแล้ว 5 รุ่น จำนวน 58 คน โดยปัจจุบันอยู่ในรุ่นที่ 6 มีนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ 9 คน

“ณัฐวุธ จันทร์เหลือง” หรือ “ตาต้า” น้องใหม่ที่ได้ก้าวสู่การเป็นนักเรียนในโครงการได้เปิดใจถึงความรู้สึกที่ว่า “พลาดหวังจากการสอบเข้าศึกษาต่อในสายสามัญ และได้รับคำปรึกษาจากอาจารย์ที่ปรึกษาและทราบว่ามีโครงการนี้ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของตนเองที่ต้องการเป็นวิศวกร ซึ่งเป็นความโชคดีที่ได้รับโอกาสจากไลอ้อน นอกจากได้ทุนการศึกษาแล้ว ยังช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับทางบ้านอีกด้วย ซึ่งสำหรับตนเองนั้นนับเป็นอีกจุดเปลี่ยนที่สำคัญในการปรับตัวเคยอยู่กับครอบครัวต้องมาใช้ชีวิตนักศึกษาในหอพัก และอยากฝากน้องๆ ในรุ่นต่อไปว่า เป้าหมายไม่ได้อยู่เพียงแค่การเรียนต่อในสายสามัญเท่านั้น ยังมีประสบการณ์ใหม่ๆให้เราได้เรียนรู้นอกโรงเรียน โดยอนาคตตั้งใจว่าจะเรียนและทำงานไปด้วย และเป้าหมายคือเรียนให้จบถึงระดับปริญญาตรี เพื่อเป็นวิศวกรให้ได้ตามที่ตั้งใจไว้”

“รุ่งเรือง สมตน” คุณแม่ของ “ณัฐวุธ” เปิดความรู้สึกที่ลูกชายได้เข้าร่วมโครงการว่า “ตอนที่รู้ว่าลูกไม่ได้เรียนต่อในสายสามัญ ตอนนั้นรู้สึกสงสารลูกมากแต่ได้ปลอบใจและปรึกษาอาจารย์เพื่อคุยกันว่าจะเดินไปทางไหนต่อ จึงได้ทราบว่ามีโครงการนี้และรู้สึกดีใจมากที่ลูกชายได้ทุนเรียนต่อ ทั้งยังช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัว ขอให้ลูกได้เดินตามฝันและไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้”

“สุภาวดี เลสัก” หรือ “แตงโม” รุ่นพี่ ปวช.ปี3 ที่ใกล้จะจบการศึกษาจากโครงการนี้ เปิดใจว่า “การได้ทุนเรียนต่อนับว่าช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายให้กับแม่ ซึ่งตอนนี้เป็นกำลังหลักในการหารายได้เพียงคนเดียว แม้จะเป็นจุดเปลี่ยนจากแรงบันดาลใจเดิมที่ต้องการเป็นครู แต่การได้เข้ามาศึกษาในหลักสูตรนี้นับว่าได้เปิดประสบการณ์ เห็นอะไรที่แปลกใหม่ ได้เรียนรู้จากพี่ๆ ในไลอ้อน ได้เห็นกระบวนการผลิตใช้หุ่นยนต์ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมทั้งได้สังคมใหม่ อยู่หอพักใช้ชีวิตด้วยตนเอง ส่วนเป้าหมายในชีวิตหลังจากเรียนจบแล้วตั้งใจที่จะเรียนต่อเพิ่มเติมพร้อมกับทำงานไปด้วยเพื่อส่งเงินแบ่งเบาค่าใช้จ่ายให้กับทางบ้าน”  

อีกโครงการที่มุ่งสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชนไทย โดยนอกจากจะได้ความรู้ในการเรียนวิชาพื้นฐานสามัญ และวิชาชีพแล้ว สิ่งที่แตกต่างคือ มีการสอนวิชาทักษะการใช้ชีวิต ที่เน้นปลูกฝังด้านคุณธรรมและจริยธรรม เป็นอนาคตของชาติที่เป็นคนดีและคนเก่ง นอกจากการสนับสนุนทุนการศึกษายังให้สวัสดิการระหว่างเรียน ไม่ว่าจะเป็น ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าบำรุงการศึกษา อุปกรณ์การเรียน ค่าที่พัก และรถรับส่ง รวมถึงสวัสดิการบริษัท เสมือนพนักงาน อาทิ ห้องออกกำลังกาย ลานเล่นกีฬา สวนหย่อม เป็นต้น โดยเมื่อสำเร็จการศึกษาจะได้รับใบประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และได้ใบรับรองการผ่านงาน รวมทั้งยังมีโอกาสได้ร่วมงานกับบริษัทในอนาคต