Authority & Harm
บิ๊กโอ๋แถลงข่าวรวบขบวนการนายหม่อง ได้ของกลาง6.9หมื่นเม็ดยึดทรัพย์1ล.
นครปฐม-ตำรวจภูธรภาค 7 แถลงรวบผู้ต้องหา ขบวนการค้ายาบ้า โดยได้ผู้ต้องหา 2 ราย ยาบ้า 6.9 หมื่นเม็ด รถกระบะ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 3 คัน อาวุธปืนหลายกระบอก รวมมูลค่า 1 ล้านบาทเศษโดยเจ้าตัวเคยถูกจับกุมและถูกปล่อยตัวมาพียง 3 เดือน สืบทราบเป็นเครือข่ายของนายหม่องลือ นำเข้ามาจากชายแดน เตรียมขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการอีก ผบช.ภ.7 ตั้งทีมเฉพาะกิจไล่ล่ากลุ่มค้ายาขอประชาชนแจ้งเบาะแส จากหอพัก บ้านเช้า บ้านร้าง พร้อมกระชากตัวเอาให้สิ้นซาก
วันนี้ 1มิถุนายน 65 เวลา 13.20 น. ที่อาคารกองอำนวยการตำรวภูธรภาค 7 ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.ปรีดา อิ่มเจริญ ผบก.ศฝร.ภ.7/หน.ชปส.ภ.7 แถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาในคดียาเสพติด 2 รายพร้อมของกลางยาบ้า อาวุธปืนและยึดทรัพย์มาได้หลายรายการ โดยเป็นเครือข่ายของนายหม่องลือ ซึ่งอาศัยช่วงคลายล๊อคดาวน์ ลักลอบค้ายาหลังจากเคยโดนจับกุมไปแล้วและถูกปล่อยตัวมาเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เผยว่า ในการแถลงข่าวดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา เครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ “เครือข่ายนายหม่องลือ” จำนวน 2 ราย
1. นายธวัฒหรือปุ้ย เสือส่าน อายุ 40 ปี ที่อยู่ 121/5 ม.7 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี (ผู้ต้องหาที่1)
2. นายอดุลย์หรือเป้ เสนาบุตร อายุ 34 ปี ที่อยู่ 68/6 ม.1 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี (ผู้ต้องหาที่2)
พร้อมด้วยของกลาง
1. ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวนรวม 69,200 เม็ด
2. อาวุธปืนลูกซองแบบกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ Hatsan ขนาด เบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก
3. อาวุธปืนลูกซองเดี่ยว ขนาด เบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก
4. อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 มม. จำนวน 1 กระบอ
5. เครื่องกระสุนปืน ขนาด เบอร์ 12 จำนวน 5 นัด
6. รถยนต์ ยี่ห้อ Isuzu รุ่น D-max สี ดำ ทะเบียน ผข 3655 ราชบุรี
7. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Yamaha รุ่น R15 สี ดำ ทะเบียน 3ขอ 6638 กทม.
8. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 i ทะเบียนป้ายแดง รวย 8806 ฮอนด้ากาญจนบุรี
รวมทรัพย์สินที่ยึดทั้งหมด 1,017,562 บาท พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา กับผู้ต้องหาที่ 1 ว่าได้กระทำความผิดฐาน “จำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต” แจ้งข้อกล่าวหา กับผู้ต้องหาที่ 2 ว่าได้กระทำความผิดฐาน “จำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)โดยการมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยมีอาวุธหรือใช้อาวุธเพื่อการค้า ก่อให้เกิดเหตุการณ์แพร่กระจายในกลุ่มประชาชน อันก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชน และมีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวว่า สำหรับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เจ้าหน้าที่ได้ติดตามพฤติกรรมโดยสืบทราบว่าเคยมีประวัติถูกจับกุมมาแล้วในคดียาเสพและมีการถูกปล่อยตัวมาเพียง 3 เดือนก็กลับมาก่อเหตุอีกครั้ง ซึ่งขอแจ้งประชาชน ว่าหากพบเบาะแสการค้ายา โดยมีข้อมูลเป็นกลุ่มหอพัก ห้องเช่า หรือบ้านร้างจะมีกลุ่มนพวกนี้มาพักยาเอาไว้ หรือมาซุ่มอยู่ซึ่ง ตร.ภ.7มีทีมเฉพาะกิจ นำโดย พล.ต.ต.ปรีดา อิ่มเจริญ ผบก.ศฝร.ภ.7หน.ชปส.ภ.7 จะนำชุดเข้าไปดำเนินการปราบปรามให้สิ้นซากต่อไป
พล.ต.ต.ปรีดา อิ่มเจริญ ผบก.ศฝร.ภ.7/หน.ชปส.ภ.7 เผยว่า จากการติดตามจับกุมดังกล่าว ชุดปฏิบัติการพิเศษ ได้มีการสืบทราบว่า ได้มีการเคลื่อนไหวจะนำยาเสพติดมาส่งให้ลูกค้าชาวไทยผ่านทางชายแดนเข้ามาทางจังหวัดกาญจนบุรี บริเวณถนนสาธารณะ ม.7 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และบ้านเลขที่ 121/5 ม.7 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด ภ.7 ซึ่งจากการสืบสวนพบ เครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ในพื้นที่ จังหวัดกาญจนบุรี “เครือข่ายนายหม่องลือ” มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติด(ยาบ้า) และได้สืบทราบและติดตามเข้าจับกุมต้องหาที่ 1 มียาเสพติดจำนวนหนึ่งและได้ขยายผลไปกับกุมผู้ต้องหาที่ 2 โดยได้ยาบ้าอีก 6 หมื่นกว่าเม็ดในรถกระบะของกลางและขยายผลไปที่บ้านำพักพบอาวุธปืนราคาแพงหลายรายการ รวมถึงรถจักรยานยนต์อีก 3 คัน จึงได้ควบคุมตัวและทำการยึดทรัพย์ทั้งหมดมูลค่า 1 ล้านบาทเศษ โดยจะมีการส่งตัวดำเนินคดีทันทีและพยายามจะขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการซึ่งจะมีอีกแต่ขอทำงานในทางลับก่อน