Authority & Harm

เปิดใจ...คนเลี้ยงจระเข้ในพื้นที่สาวชะโงก ฟาร์มหมูนิยมเลี้ยงไว้กินซากหมูตาย



ฉะเชิงเทรา-อดีตคนเลี้ยงจระเข้สาวชะโงก เผยประสบการณ์ถูกปั่นราคาจากตัวละนับแสนบาท สุดท้ายเหลือแค่หลักร้อย ชี้มูลเหตุทำคนย่านนี้นิยมเลี้ยงกันไว้มากส่วนใหญ่เป็นฟาร์มเลี้ยงหมู เพื่อใช้เป็นห่วงโซ่อาหารกำจัดซากสุกรที่ตายภายในฟาร์ม ก่อนนำเนื้อมาแล่หั่นให้เป็นอาหารจระเข้ ขณะชาวบ้านยังหวาดกลัวไม่มีใครกล้าเข้าใกล้แหล่งน้ำ ส่วนแม่ค้าขายของเผยคึกคักมากขึ้นหลังคนแห่เยี่ยมเหยื่อคมเขี้ยว

วันที่ 7 มิ.ย.65 เวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายศักดิ์ชาย วนิชย์ถนอม อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 ม.5 ต.สาวชะโงก อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา อดีตเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสุกร และเคยเลี้ยงจระเข้ไว้ภายในฟาร์มด้วย ได้เล่าประสบการณ์ในการเลี้ยงจระเข้ที่ผ่านมาเมื่อกว่า 30 ปีก่อนว่า ในอดีตตนเองนั้นเคยทำฟาร์มเลี้ยงสุกร และได้เลี้ยงจระเข้ไว้เพื่อกำจัดซากสุกรที่ตายภายในฟาร์มด้วย

โดยเมื่อมีสุกรภายในฟาร์มตาย จะนำเอามาแล่เนื้อเพื่อนำไปให้จระเข้กินเป็นอาหาร และส่วนใหญ่คนที่เลี้ยงจระเข้ใน ต.สาวชะโงก และตำบลใกล้เคียงนั้น จะเป็นเจ้าของฟาร์มสุกรเกือบทั้งสิ้น ซึ่งในขณะนั้นราคาจระเข้ที่ซื้อมาเลี้ยงมีราคาสูงมาก โดยที่ลูกจระเข้ความยาวประมาณ 1 ฟุต (30 ซม.) มีราคาสูงถึง 8,000-10,000 บาท และหากคัดเลือกตัวสวยๆ ราคาจะสูงถึง 11,000 บาท ส่วนแม่พันธุ์ความยาวประมาณ 2 เมตร ตนเคยซื้อมาจำนวน 3 ตัวในราคาตัวละ 120,000 บาท

แต่มาถึงในขณะนี้ราคาจระเข้ถูกลงอย่างมากเหลือแค่เพียงตัวละ 500 บาท โดยครั้งสุดท้ายที่ตนเคยซื้อมาเลี้ยงเมื่อกว่า 10 ปีก่อนเหลือเพียงตัวละ 2 พันบาท และราคาที่ตนขายออกไปเมื่อกว่า 10 ปีก่อนตัวขนาดความยาวเกือบ 2 เมตรขายไปได้เพียงในราคา 6 พันบาท ส่วนแม่พันธุ์ที่เคยซื้อมาในราคา 120,000 บาท ขายออกไปได้เพียงตัวละ 25,000 บาททั้งที่เลี้ยงมานานถึงกว่า 10 ปีแล้ว ก่อนที่จะเลิกเลี้ยงไปเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากขาดทุนโดยตนได้เริ่มเลี้ยงจระเข้มาตั้งแต่เมื่อประมาณปี 2530 

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในการเลี้ยงจระเข้นั้น ตนเชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้จระเข้มีราคาสูงในขณะนั้น เพราะเกิดจากกระแสของการปั่นราคากันเองมากกว่า คล้ายกับพระเครื่อง หรือเช่นเดียวกันกับสัตว์อีกหลากหลายชนิด ที่ถูกปั่นราคาจนสูงเกินจริง เช่น นกกระจอกเทศ รวมไปถึงแม้แต่ราคาวัวที่มีข่าวปั่นกันไปจนถึง 30-40 ล้านบาท ซึ่งหากนำมาแร่เอาเนื้อจริงๆ คงเหลือราคาเนื้อไม่กี่บาท

ส่วนกรณีในพื้นที่มีจระเข้ออกมาชุกชุมและยังกัดขาชาวบ้านด้วยนั้น ตนไม่ทราบว่ามาจากไหน แต่ก็อาจจะเกิดจากการปล่อยปละละเลยของเจ้าของฟาร์มที่ไม่ดูแลเอาใจใส่ หรือกำแพงฟาร์มเลี้ยงพังเมื่อหลุดออกมาแล้วไม่มีคนมาตามจับกลับคืน ตามข้อมูลที่นายก อบต.สาวชะโงก ออกมาระบุ หรืออาจมีคนแอบลักลอบปล่อยออกมา ซึ่งก็อาจจะเป็นไปได้หลากหลายสาเหตุ ซึ่งความรับผิดชอบต่อสังคมของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน

โดยที่อดีตของพื้นที่นั้นในยุคก่อน รุ่นปู่ รุ่นลุง ของตนก็อาจจะเคยมี แต่ได้มีคนญวน (เวียดนาม) ที่อพยพเข้ามาจับไปกินกันจนหมด จนถึงรุ่นตนเมื่อครั้งสมัยเด็กๆ ยังได้ลงเล่นน้ำกันอยู่เป็นประจำ แถบย่านวัดใหม่ขุนสมาน (วัดสมานรัตนาราม) ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามหน้าบ้านและยังว่ายน้ำข้ามฝั่งแม่น้ำบางปะกงกันอยู่เป็นประจำอีกด้วย ก็ยังไม่เคยมีใครพบเห็นจระเข้มาก่อน และยังไม่เคยมีเหตุการณ์จระเข้กัดคนเกิดขึ้นในพื้นที่อีกด้วย

แต่มาถึงในเวลานี้กลับมีจระเข้ชุกชุม เพราะที่ผ่านมามีการจับไปได้แล้วหลายสิบตัว จึงน่าเชื่อว่าเป็นจระเข้ที่หลุดออกมาจากฟาร์มเลี้ยง ที่มีอยู่จำนวนมากในย่านแถบนี้ก็เป็นไปได้ นายศักดิ์ชาย กล่าว

ขณะที่ น.ส.พยุง เดชสุภะพงษ์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/1 ม.1 ต.สาวชะโงก กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์จระเข้กัดคนใกล้บ้านจึงไม่มีกล้าเข้าใกล้แหล่งน้ำ โดยเฉพาะแม่น้ำบางปะกง เพราะกลัวจระเข้กัด เนื่องจากว่าไม่ทราบว่ายังมีจระเข้อยู่อีกหรือไม่ หรือมีอีกจำนวนเท่าใด แต่หลังเกิดเหตุการณ์จระเข้กัดคนในพื้นที่ ได้ทำให้มีผู้คนเดินทางเข้ามาถามหาคนถูกจระเข้กัดบ่อยครั้ง

และยังมีคนแวะเข้ามาเยี่ยมมากขึ้น ทำให้การค้าขายในพื้นที่ดีขึ้น มีคนพลุกพล่านมากขึ้น หลังจากซบเซาจากในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ระบาดมานาน ซึ่งตนนั้นเป็นแม่ค้าขายกล้วยทอด ที่มีร้านค้าอยู่หน้าปากทางเข้าบ้านของคนที่ถูกจระเข้กัดพอดี จึงพลอยขายดีไปด้วย น.ส.พยุง กล่าว

สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา