Authority & Harm

สืบจนเจอ!ตร.ค่ายบางระจันไล่ล่าโจรแสบ รวบได้คาบ้านพร้อมของกลาง



สิงห์บุรี-ชุดสืบตำรวจค่ายบางระจัน ตามล่าจนเจอ โจรขโมยรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 100 สีแดง-เทา  หมายเลขทะเบียน กธท 698 สิงห์บุรี

วันที่ 7 มิ.ย.65 เวลา 14.30 น.  ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.จอมพล  รุจิรดำรงค์ชัย ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรค่ายบางระจัน จ.สิงห์บรี พ.ต.ท.ภาวัต  รัตนาภรณ์ รองผู้กำกับสอบสวน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรค่ายบางระจัน พ.ต.ท.จิรโรจน์ ตุ้มปิ่น สว.สส.สภ.ค่ายบางระจัน, ร.ต.อ.เดชพงษ์ สิงห์มณี รอง สว.สส.ฯ, ร.ต.อ.นิเวศ อยู่แย้ม รอง สว.สส.ฯ, ร.ต.ท.มานพ นุชสละ รอง สว.สส.ฯ, ด.ต.ยงยุทธ พิทักษ์, ด.ต.ธนเดช พันธ์น้อย และส.ต.ต.สหรัฐ ปิ่นทอง  ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายทรงกรด หรือ บาม ปานบัว อายุ 31 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 43/1 หมู่ที่ 5 ต.ห้วยไผ่ อ.แสวงหา จ.อ่างทอง  พร้อมด้วยของกลางคือ  รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 100 สีแดง-เทา  หมายเลขทะเบียน กธท 698 สิงห์บุรี  ชุดสี และตะกร้าหน้ารถของรถคันดังกล่าวที่ นายทรงกรดได้ลักไป

โดยเมื่อ วันที่ 7 มิ.ย.65 เวลา 11.35 น. ได้มี นายสันติ บัวรอด อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118 หมู่ที่ 5 ต.ห้วยไผ่ อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ได้เดินทางมาที่ สภ.ค่ายบางระจัน เพื่อมาแจ้งความว่า วันนี้เมื่อเวลาประมาณ  00.30 น. นายสันติ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 100 หมายเลขทะเบียน กธท 698 สิงห์บุรี มาจอดไว้ที่บริเวณหน้าอาคารพาณิชย์ ถนนสิงห์บุรี-สุพรรณบุรี ม.9 ต.บางระจัน .ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี ซึ่งเป็นที่พักของแฟนของ นายสันติ โดยไม่ได้ล็อคคอรถ และได้เข้าไปหาแฟนภายในที่พัก จนเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. นายสันติ ได้กลับมาบริเวณที่จอดรถจักรยานยนต์ของตนแล้วต้องตกใจเมื่อพบว่า รถจักรยานยนต์ของตนได้หายไปแล้ว จึงได้รีบมาแจ้ง กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจภูธรค่ายบางระจัน เพื่อให้ติดตามทรัพย์สินและติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย 

หลังจากได้รับแจ้งเหตุ เจ้าพนักงานตำรวจชุดสืบสวนได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จึงได้ร่วมกันสืบสวนติดตามตัวคนร้ายจากเหตุดังกล่าวอย่างกระชั้นชิดและต่อเนื่องโดยตลอด จนสืบทราบว่า นายทรงกรด หรือ บาม ปานบัว  อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/1 หมู่ที่ 5 ต.ห้วยไผ่  อ.แสวงหา จ.อ่างทอง เป็นคนร้ายที่ลักรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวและหลบหนีไป จนกระทั่งวันนี้ เวลา 12.00 น. เจ้าพนักงานตำรวจได้รับแจ้งจาก นายสันติ ว่าผู้มีพบเห็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ที่เหมือนกับรถจักรยานยนต์ของนายสันติฯ ที่ถูกลักไป และกำลังขับขี่อยู่บริเวณถนนสาธารณะ   บริเวณหมู่ที่ 5 ต.ห้วยไผ่ อ.แสวงหา จ.อ่างทอง เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้รีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับ นายสันติ เมื่อไปถึงเห็นได้พบผู้กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจริง จึงได้ส่งสัญญาณและเรียกให้ผู้ขับขี่หยุดรถและได้ลงไปตรวจสอบ พบว่าเป็นรถจักรยานยนต์คันที่ถูกขโมยไปจริง แต่สภาพไม่เหมือนเดิม โดยสภาพรถถูกถอดชุดสีและส่วนประกอบรถออก จึงนำตัวผู้ขับขี่ คือ นายทรงกรด หรือบาม  และได้นำตัวมาสอบสวนที่สถานีตำรวจพร้อมของกลาง

โดย  นายทรงกรดฯ ยอมรับว่า ตนได้ขโมยรถคันดังกล่าวไปจริงและได้ถอดชุดสีและตะกร้าหน้ารถออกและนำไปซุกซ่อนไว้บริเวณหน้าทางเข้าบ้านของตน ส่วนที่เหลือตนได้ถอดแล้วนำไปเผาไฟ เมื่อผู้สื่อข่าวได้ถามว่า ทำไมถึงแยกอะไหล่ ตั้งใจนำไปขายหรือไม่ ? นายทรงกลด ตอบว่า เอาไว้ใช้เอง ที่ถอดออกเพราะกลัวเจ้าของจำได้ แต่ได้ก่อเหตุมาประมาณ 2-3 ครั้งแล้ว และบอกว่าตนเป็นขโมยมือใหม่โดยหารถที่เจ้าของไม่ได้ล็อคคอ หรือมีกุญแจเสียบคารถไว้ ซึ่งนายทรงกลด ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าพนักงานตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.อ.จอมพล รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สภ.ค่ายบางระจัน  ได้ฝากเตือนประชาชนทั่วไปที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ว่า ในการจอดรถทุกครั้งควรล็อคคอรถทุกครั้ง อย่าเสียบกุญแจรถคาไว้ หรือจอดเอารถเข้าไปไว้ในบ้าน ถ้าประชาชนช่วยกันระวัง เหตุการณ์ร้ายเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น

จินตนา  ปานมี  ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สิงห์บุรี