Authority & Harm
ป้าเหยื่อจระเข้งับกำลังใจล้นคนแห่เยี่ยม ญาติคาใจคนของรัฐ'ห้ามคนล่าจระเข้'...?
ฉะเชิงเทรา-ป้าถูกจระเข้งับขากำลังใจล้น หลังชาวบ้านแห่ทยอยเข้าเยี่ยมตลอดทั้งวัน ขณะแพทย์นัดตัดไหมในวันอาทิตย์ 12 มิ.ย.นี้ที่ รพ.บางคล้า ส่วนอาการยังมีปวดบวมไปจนตลอดทั้งท่อนขา และเดินไม่ได้ ขณะญาติถามหน่วยงานรัฐ “ห่วงจระเข้ หรือห่วงคน กรณีห้ามคนล่าจระเข้ที่ชุกชุมกินเนื้อเป็นอาหาร” วอนหน่วยงานรับผิดชอบเร่งหาทางจับจระเข้ออกไปให้พ้นจากพื้นที่ให้หมด หวั่นอาจมีคนได้รับอันตรายซ้ำหนักกว่านี้
วันที่ 9 มิ.ย.65 เวลา 12.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าทางการรักษาอาการของ นางพัชนี ดำรงพันธ์ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 ม.1 ต.สาวชะโงก อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ที่ถูกจระเข้กัดที่ขาข้างซ้ายขณะออกไปงมกุ้งในคลองบางหัวเลน พื้นที่ ม.4 ต.สาวชะโงก จนได้รับบาดเจ็บมีรอยถูกเขี้ยวของจระเข้กัดเป็นรอยแผลลึกฉีกเป็นทางยาวจำนวน 7 แผล และแพทย์ต้องทำการเย็บปิดปากแผลถึง 26 เข็ม ตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 มิ.ย.65 ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด นางพัชนี บอกว่า ขณะนี้ยังคงมีอาการปวดและบวมไปตลอดทั้งท่อนขา โดยเฉพาะในเวลากลางคืนนั้น จะปวดขามากจนนอนไม่หลับ และแพทย์ผู้ทำการรักษาได้สั่งห้ามไม่ให้เดินหรือเคลื่อนไหวไปไหนอีก เนื่องจากเริ่มมีอาการไข่ดันบวม และเกรงว่าบาดแผลรอยเย็บจะฉีกออกด้วย ส่วนรอยฝีเย็บที่ปากบาดแผลขณะนี้เริ่มแห้งสนิท และไม่มีอาการติดเชื้อหรือกัดหนองมีน้ำเหลืองไหลออกมาแต่อย่างใด โดยแพทย์ได้นัดที่จะตัดไหมในวันอาทิตย์ที่ 12 มิ.ย.65 นี้
สำหรับกำลังใจที่ได้รับจากสังคมหลังจากถูกจระเข้กัดนั้น ได้มีทั้งชาวบ้าน ญาติ รวมถึงหน่วยงานราชการเดินทางเข้ามาเยี่ยมอย่างไม่ขาดสายเกือบตลอดทั้งวัน ในทุกๆ วัน ซึ่งตนได้ใช้สิ่งของที่มีคนถือนำมาเยี่ยมไข้ ประทังชีวิตไปวันๆ ก่อน เนื่องจากขณะนี้ยังออกไปหาจับกุ้งไม่ได้ แต่ยังไม่รู้ว่าจะอยู่นิ่งเฉยไปได้อีกนานเท่าใด หรือข้าวของที่นำมาฝากเยี่ยมจะหมดลงไปเมื่อใดนั้นยังไม่ทราบ
แต่หลังบาดแผลหายแล้วและสามารถเดินได้ตามปกติแล้ว ก็จะออกไปหางมกุ้งอีก เนื่องจากเป็นอาชีพที่ทำกินกันมาแบบนี้ จะไปทำอย่างอื่นก็คงไม่ได้ แต่จะไม่ไปยังที่บ้านบางหัวเลนอีกแล้ว โดยจะเลือกไปในที่มีน้ำตื่นๆ และไม่มีป่าจากขึ้นรกทึบมากนัก บริเวณใกล้ ๆ บ้านพักเท่านั้น นางพัชนี กล่าว
ขณะที่ นายพิทูรย์ (นามสมมุติ) อายุ 65 ปี ผู้มีศักดิ์เป็นน้าของผู้ได้รับบาดเจ็บ และได้เดินทางมาเยี่ยมดูอาการจากพื้นที่ ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ขณะนี้ทราบว่ายังมีจระเข้ มาอาศัยอยู่ในพื้นที่ริมแม่น้ำบางปะกงเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณโดยรอบวัดสมานรัตนาราม ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับบ้านบางหัวเลน ใน ต.สาวชะโงก อ.บางคล้า เนื่องจากยังคงมีคนถ่ายภาพจระเข้ที่ออกมานอนอาบแดดพักผ่อนให้เห็นอยู่เป็นระยะ
จึงรู้สึกเป็นห่วงคนที่ทำอาชีพประมง หรือทำมาหากินอยู่กับแหล่งน้ำ ส่วนคนที่ไม่ได้ลงน้ำรวมถึงตนเองด้วยนั้น ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวอะไรต่อจระเข้ที่ออกมาพลุกพล่านอยู่ในพื้นที่มากนัก จึงอยากให้หน่วยงานในพื้นที่แจ้งเตือนต่อชาวบ้านให้ทราบเป็นระยะ เพราะอาจจะมีบางคนที่ทำมาหากินอยู่กับน้ำและไม่มีสื่อโซเชียล อาจจะยังไม่ทราบ
ขณะที่ทางหน่วยงานนั้นห้ามชาวบ้านฆ่าจระเข้ หรือจับจระเข้มาแล่ทำกินเป็นอาหาร “เขาห่วงจระเข้ มากกว่าห่วงประชาชน” เพราะเกรงว่าประชาชนจะพากันมาฆ่าจระเข้เพียงด้านเดียว แต่พอจระเข้กัดคนกลับไม่มาให้เห็น หรือมาเป็นห่วงใยจึงอยากถามว่า “ไม่ห่วงชาวบ้านบ้างหรือ” เท่าที่ตนทราบเชื่อว่าจระเข้ในบริเวณนี้ ไม่ได้มาจากธรรมชาติอย่างแน่นอน และเชื่อว่าจะต้องออกมาจากฟาร์มอย่างแน่นอน
โดยในพื้นที่นี้ไม่เคยปรากฏว่ามีจระเข้อาศัยอยู่มาก่อน นับจากอดีตจนตนมีอายุใกล้จะครบ 65 ปีเต็มแล้ว ก็ยังไม่เคยพบว่ามีจระเข้ในแม่น้ำบางปะกงมาก่อน โดยมีแต่เพียงข่าวลือเกี่ยวกับจระเข้ของเจ้าที่ เจ้าทาง เจ้าพ่อเจ้าแม่ที่อาศัยอยู่ตามถ้ำ ใต้วัด ใต้โบสถ์ เมื่อครั้งยุคของคนรุ่นพ่อรุ่นแม่เท่านั้น แต่ยังไม่เคยมีใครเคยได้เห็นตัวจริงมาก่อนเลยสักคน แต่ปัจจุบันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่นั้น กลับมีจระเข้จริงๆ จำนวนมากหลายตัว และไม่รู้ว่ามาจากไหน นายพิทูรย์ กล่าว
สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา