Authority & Harm
สองผัวเมียพร้อมทนายร้องตำรวจภาค7 หลังเจอตร.สามร้อยยอดไล่รัวกระสุนใส่
นครปฐม-ทนายความทีมทนายตั้ม นำสองสามีภรรยา นำเอกสารบันทึกประจำวันพร้อมหนังสือร้องขอความเป็นธรรมยื่นต่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ระบุถูกจ.ส.ต.พงษ์พัฒน์ รื่นภิรมย์ พร้อมพวก ขับรถไล่กวดพร้อมมีเสียงปืนดังขึ้น 6 นัดก่อนจะไปขอความช่วยเหลือจากประชาชนที่ปั๊มน้ำมันกลางดึก เหตุเกิดช่วงกลางดึกคืนวันที่ 30 พ.ค. โดยได้แจ้งความไปแล้วและติดตามคดีแต่ถูกแจ้งว่าไม่สามารถเรียกผู้ก่อเหตุมาสอบได้ต้องส่งให้ ปปช.ดำเนินการ หวั่นคดีไม่คืบตัดสินในร้องหัวหน้าสูงสุดของหน่วยเพื่อขอความเป็นธรรม
วันนี้ 10 มิถุนายน 2565 ที่สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 อ.เมือง จ.นครปฐม นายธนยศ ทองมี อายุ 33 ปี พร้อมด้วย นางสาววาเศรษฐี ส่งเสียงอายุ 31 ปี สามีภรรยาชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เดินทางมาพร้อมกับนายธนกร วรกิจ อายุ 33 ปี ทนายความ(ตัวแทน) ของทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ เพื่อยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกรณี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดสภ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขับรถประกบและมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด เหตุเกิดเมื่อเวลา 00.50 น. ของคืนวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมี พล.ต.ต.นิรันดร ศิริสังข์ไชย ผู้บังคับการอำนวยการ ตำรวจภูธรภาค 7 เป็นผู้รับมอบ
นายธนยศ ทองมี อายุ 33 ปี เล่าว่าเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นช่วงกลางดึกขณะที่ตนเองขับรถตู้ยี่ห้อนิสสัน แวน24 สีเทา ทะเบียน ฮธ 1634 กรุงเทพ กลับมาจาก อำเภอบางสะพาน และเข้ามาในพื้นที่อำเภอสามร้อยยอด ได้มี จ.ส.ต.พงษ์พัฒน์ รื่นภิรมย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามร้อยยอด พร้อมพวก 4 คน ไม่แต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและไม่แสดงตัว ได้ขับรถยนต์เก๋งสีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ได้ลงมาจากรถแล้วนำไฟฉายมาส่องใส่ที่รถของตนเองและเรียกให้จอดในที่มืด ซึ่งช่วงนั้นเกรงว่าจะเป็นกลุ่มมิจฉาชีพจึงได้ขับรถหนี จากนั้น จ.ส.ต.พงษ์พัฒน์ รื่นภิรมย์ ได้ขับรถตามและกวดตามรถมา ช่วงเวลานั้นได้มีเสียงปืนดังขึ้น 6 นัด จากนั้นได้ขับเข้าไปในพื้นที่ อำเภอปราณบุรีและได้เข้าไปขอความช่วยเหลือที่ป้อมตำรวจ แต่จ.ส.ต.พงษ์พัฒน์ รื่นภิรมย์ และพวกได้ลงจากรถและนำสิ่งของคล้ายอาวุธปืนมาจ่อที่ตนเองและภรรยาที่มาด้วย โดยเป็นเหตุที่ให้ตนเองภรรยาและลูกที่นั่งมาในรถต่างตกใจและหวาดวิตก กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เข้าแจ้งความและมีคลิบที่ถ่ายเอาไว้มาประกอบหลักฐานไว้โดยเกรงคดีไม่คืบจึงได้เข้ามายื่นหนังสือร้องเรียนในวันนี้
นางสาววาเศรษฐี ส่งเสียงอายุ 31 ปี ภรรยา บอกว่า ช่วงที่ตนเองมาถึงป้อมตำรวจได้บีบแตรมาถึงป้อมตำรวจแต่ไม่มีใครออกมา จนกระทั่ง จ.ส.ต.พงษ์พัฒน์ รื่นภิรมย์ ได้ลงเอามาข่มขู่ แต่ตนเองไม่ลงและได้ยินดเสียงข่มขู่ว่า กูเป็นตำรวจและบอกให้ลงจากรถทั้งตนเองและสามี โดยคืนนั้นก็ได้ขับรถหลบหนีไปจนเกิดอุบัติเหตุทำให้มีรถเฉี่ยวชนกันกับรถคันที่ขับกวดมา และไปขอความช่วยเหลือที่ปั๊มน้ำมันที่ห่างไปประมาณ 100 เมตร แต่รถเก๋งสีดำไม่ได้ขับกวดตามมา โดยวันรุ่งขึ้นตำรวจคนนั้นได้มีการเข้ามาติดต่อเจรจาเพื่อขอโทษ แต่ตนเองได้ลองสอบถามความคืบหน้าของคดีไปแล้ว ที่ สภ.ปราณบุรีแต่ถูกแจ้งว่าไม่มีอำนาจในการสอบเพราะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องส่งไปที่ ปปช. ให้ทำการดำเนินการ จึงได้ตัดสินใจมายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมในวันนี้ และตอนนี้มีความหวาดกลัวเพราะต้องมามีปัญหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ก็อยากจะได้รับความเป็นธรรมในสิ่งที่เกิดขึ้น