Authority & Harm

คนเดินเรือเห็นจระเข้3ม.ที่เขื่อนบางปะกง รอดผ่านเขื่อนสู่ลุ่มน้ำตอนล่างของแม่น้ำ



ฉะเชิงเทรา-คนเดินเรือ นำเที่ยวรอบเกาะวัดสมานรัตนาราม เผยยังมีจระเข้ขนาดยาว 3 เมตร ที่นักท่องเที่ยวเคยพบเห็นบ่อยครั้งในระยะแรก ก่อนที่จะมีเหตุการณ์จระเข้กัดขาคนเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้หายตัวไปจากจุดที่มีคนพบเห็นบ่อยครั้ง เชื่อหลุดรอดผ่านเลยไปจากบานประตูระบายน้ำของเขื่อนทดน้ำบางปะกงลงสู่พื้นที่ลุ่มน้ำทางตอนล่างแล้ว หลังกัปตันพบเห็นเองเป็นครั้งสุดท้ายที่บริเวณหน้าบานประตูระบายน้ำสีส้ม

วันที่ 14 มิ.ย.65 เวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้า กรณียังชาวบ้านพบเห็นรอยเท้าของจระเข้เดินอยู่ตามพื้นดินเลน ระหว่างป่าจากชายแม่น้ำบางปะกง เข้า-ออก ไปยังที่บริเวณใต้ถุนของศาลาปฏิบัติธรรม ต่อเนื่องไปจนถึงยังใต้แนวเขื่อนป้องกันตลิ่งของวัดสมานรัตนาราม พื้นที่ ม.11 ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดสามารถที่จะติดตามจับจระเข้ได้เพิ่มเติมอีก

หลังจากได้มีการจับจระเข้จากพื้นที่บริเวณนี้ไปได้แล้วเพียงจำนวน 2 ตัว โดยตัวแรกมีความยาวเกือบ 2 เมตร ส่วนตัวที่ 2 มียาวประมาณ 2 เมตรเศษ หลังจากเกิดเหตุการณ์จระเข้กัดขาคนงมกุ้ง ที่บริเวณปากคลองบ้านบางหัวเลน พื้นที่ ม.4 ต.สาวชะโงก อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามแม่น้ำบางปะกงสายเก่า เยื้องกันกับหน้าวัดสมานรัตนาราม จุดที่มีการพบเห็นจระเข้และร่องรอยเท้า รวมถึงทางเดิน เข้า-ออก ของจระเข้ตามพื้นดินหลังจากระดับน้ำลดลงตามระดับน้ำทะเล

ขณะที่นายนพรัตน์ ปั้นแหยม อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.2 ต.บางตลาด อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นกัปตันขับเรือนำเที่ยวรอบเกาะ ที่บริเวณวัดสมานรัตนาราม ได้เปิดเผยถึงลำดับเหตุการณ์ การพบจระเข้ในบริเวณย่านนี้ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์จระเข้กัดขาชาวบ้านว่า ก่อนหน้านี้ประมาณเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังขับเรือนำเที่ยวอยู่ภายในลำน้ำ ได้มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาทำบุญสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในบริเวณวัดสมานฯ แล้ว

ยังได้ลงเรือนำเที่ยวรอบเกาะที่ท่าน้ำวัดสมานรัตนาราม ที่เชื่อมต่อกันระหว่างแม่น้ำบางปะกงสายเก่า และแม่น้ำสายใหม่ ที่มีการขุดลัดพื้นที่ขึ้นมา เพื่อใช้เป็นที่ตั้งอาคารระบายน้ำของเขื่อนทดน้ำบางปะกง และได้มีการถ่ายคลิปในระหว่างชมทัศนียภาพไปตลอดแนวของลำน้ำด้วย จนกระทั่งนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นหญิงรายแรกที่ได้พบเห็นจระเข้ในบริเวณนี้ ได้ถ่ายคลิปติดภาพของจระเข้ที่ขึ้นมานอนอยู่บนแนวป่าจากริมตลิ่งมาด้วย

ก่อนที่จะร้องบอกเพื่อนๆ รวมทั้งตนด้วย ซี่งในขณะนั้นตนเองก็ยังได้ร้องออกมาด้วยความประหลาดใจด้วยว่า “มาได้อย่างไร” จนทำให้บรรดานักท่องเที่ยวต่างพากันพูดด้วยว่า กัปตันเองซึ่งเป็นคนขับเรือและอยู่ในพื้นที่ย่านนี้อยู่เป็นประจำยังไม่รู้เลยว่าจระเข้นั้นมาได้อย่างไร ซึ่งจระเข้ตัวแรกที่พบนั้นเป็นจระเข้ที่มีขนาดใหญ่มาก ความยาวประมาณ 3 เมตร โดยมีการพบเห็นครั้งสุดท้ายที่บริเวณด้านหน้าของอาคารระบายน้ำสีส้ม ของเขื่อนทดน้ำบางปะกง และได้หายตัวไปโดยที่ยังไม่มีใครสามารถจับได้

จึงเชื่อว่าจระเข้ตัวดังกล่าว ที่มีขนาดใหญ่และยาวถึง 3 เมตรนั้น ได้หลุดรอดใต้บานประตูเขื่อนทดน้ำบางปะกงลงไปยังพื้นที่ลุ่มแม่น้ำตอนล่างแล้ว และไม่ทราบว่าทางลุ่มน้ำตอนล่างนั้นมีคนจับตัวไปได้แล้วหรือยัง ก่อนที่จะมีคนมาพบจระเข้ตัวขนาดที่เล็กกว่าอีกหลายตัว ที่มีความยาวเพียงเกือบ 2 เมตร โผล่ขึ้นมานอนอาบแดดให้ชาวบ้านได้พบเห็นและถ่ายภาพเอาไว้ได้หลายครั้ง ที่บริเวณด้านหน้าวัดสมานรัตนาราม จนกระทั่งมีชาวบ้านออกมางมหากุ้งจนถูกจระเข้กัด เพียงไม่กี่วันก่อนหน้า

หลังเกิดเหตุจระเข้กัดคน จึงได้มีการติดตามไล่ล่าจนสามารถจับจระเข้ไว้ได้ 1 ตัว จากภายในคลองบางหัวเลนจุดที่เกิดเหตุจระเข้กัดคน และล่าสุดที่เพิ่งมีการจับได้ไปนั้น เป็นจระเข้ขนาดความยาว 2 เมตรเศษ ที่บริเวณทางด้านทิศเหนือของวัดสมานรัตนาราม ตรงบริเวณใกล้กับกระทงใหญ่กลางน้ำ ห่างจากเขตวัดไปเพียงประมาณ 20 เมตร จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครสามารถจับจระเข้ได้เพิ่มเติมอีกเลย

ขณะที่ในพื้นที่ยังคงมีผู้พบเห็นร่องรอยของจระเข้เดินรอดผ่านใต้ถุนของศาลาปฏิบัติธรรมชายแม่น้ำบางปะกง เข้าออกไปมาอยู่ตลอด ในขณะน้ำลง นายนพรัตน์ กล่าว

สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา