In Bangkok
กทม.ลงเยียวยาชาวชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ จากเหตุเพลิงไหม้-เร่งปรับแผนเผชิญเหตุ
กรุงเทพฯ- สำนักงานเขตปทุมวัน กทม.ช่วยเหลือเยียวยาชาวชุมชนพัฒนาบ่อนไก่จากเหตุเพลิงไหม้- เร่งปรับปรุงแผนเผชิญเหตุสาธารณภัยให้ครอบคลุมทุกมิติ
นางมาศวัลย์ ปิ่นสุวรรณ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการสำรวจและรับฟังปัญหาความต้องการของชาวชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ว่า เพื่อให้การช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบภัยจากเหตุเพลิงไหม้ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สำนักงานเขตฯ จึงเคลื่อนย้ายประชาชนไปยังศูนย์พักพิง โดยประสานศูนย์เยาวชนบ่อนไก่เป็นสถานที่รองรับ รวมทั้งประสานหน่วยงานต่าง ๆ ให้การสนับสนุน เช่น ศูนย์บริการสาธารณสุข 16 ดูแลผู้ประสบเหตุมายังพื้นที่ รวมทั้งประสานจัดหาอาหาร น้ำดื่ม รถสุขาเคลื่อนที่ พร้อมลงพื้นที่สอบสวนเพื่อออกหนังสือรับรอง ซึ่งจากการสอบถามความต้องการของประชาชน 94 ครัวเรือน พบว่า สิ่งที่ต้องการ คือ เสื้อผ้า ชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน ชุดชั้นใน ที่นอน และเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น พัดลม หม้อหุงข้าว สำนักงานเขตฯ จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยขณะนี้มีผู้บริจาคสิ่งของตามที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว
ส่วนด้านที่พักอาศัย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยมีบ้านมั่นคงสวนพลู สามารถรับผู้พักอาศัยได้ 5 ครอบครัว พักอาศัยในห้องประชุม เป็นพื้นที่โล่ง ห้องน้ำรวมแยกชาย หญิง สามารถพักอาศัยได้ในระยะเวลา 2 – 3 เดือน หรือเช่าที่พักของการเคหะพระร่วง เขตสายไหม มีห้องว่างประมาณ 100 ห้อง โดยในเดือนแรก พักอาศัยโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เดือนที่สองเป็นต้นไป เสียค่าเช่าเดือนละ 999 บาท อยู่ได้ตลอด นอกจากนั้น ยังมีที่พักของการเคหะตลาดไท ซึ่งจะสร้างเสร็จและพร้อมเข้าพักอาศัยได้ในอีก 5 - 6 เดือน
นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. กล่าวว่า สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ให้การช่วยเหลือและเยียวยาชาวชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ จำนวน 91 หลังคาเรือน 138 ครอบครัว รวม 374 ราย โดยแจกจ่ายถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า ขณะเดียวกันได้ให้ความช่วยเหลือด้านอื่น ๆ เพิ่มเติม ได้แก่ ค่าวัสดุสมทบสร้าง หรือซ่อมแซมบ้านเรือนที่พักอาศัย และค่าที่พักอาศัยชั่วคราว หรือค่าเช่าบ้าน รวมถึงเงินทุนประกอบอาชีพ ซึ่งเป็นไปตามระเบียบ กทม.ว่าด้วยการสงเคราะห์ผู้ประสบภัย พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2564
ทั้งนี้ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้ความสำคัญกับการป้องกันเหตุเพลิงไหม้ที่อาจจะเกิดขึ้นในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะชุมชนแออัดเป็นเป้าหมายสำคัญสูงสุด เนื่องจากเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นแล้วจะมีผู้ประสบภัยที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก และใช้ระยะเวลาฟื้นฟูและบูรณะเป็นเวลาหลายปี จึงได้สั่งการให้สถานีดับเพลิงและกู้ภัยในสังกัด จัดทำ ทบทวน หรือปรับปรุงแผนเผชิญเหตุด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของชุมชนในพื้นที่รับผิดชอบให้ครอบคลุมทุกมิติ โดยเฉพาะกรณีพื้นที่ที่เข้าถึงยาก หรือมีข้อจำกัดทางกายภาพให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน เพื่อเตรียมความพร้อมและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนให้ได้มากที่สุด