In News

นายกฯเตือนปชช.พื้นที่เฝ้าระวังน้ำหลาก มีมรสุม9-14ก.ค.นี้จี้รับมือน้ำท่วมฉับพลัน



กรุงเทพฯ-โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ ห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวังน้ำหลาก กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตาม ประเมินสถานการณ์ และเตรียมรับมือกรณีเกิดสถานการณ์น้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลัน

วันนี้ (8 กรกฎาคม 2565) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินสถานการณ์และเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำหลาก รวมทั้งแจ้งเตือนให้พี่น้องประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำหลาก ในช่วงระหว่างวันที่ 8 - 14 กรกฎาคม 2565

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน เนื่องจากในช่วงวันที่ 9 - 14 กรกฎาคม 2565 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น รวมทั้งในช่วงวันที่ 10 - 12 กรกฎาคม 2565 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้

ทั้งนี้ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้ประเมินสถานการณ์น้ำ พบว่า จะมีปริมาณฝนตกสะสมต่อเนื่อง สถานการณ์น้ำในลำน้ำ และแหล่งน้ำธรรมชาติบางพื้นที่ที่ฝนตกหนักอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก จึงอาจส่งผลให้เกิดน้ำหลาก น้ำท่วมฉับพลัน จึงขอให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมขัง ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน ในช่วงวันที่ 8 – 14 กรกฎาคม 2565 

"นายกรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำหลาก โดยขอให้เฝ้าติดตามสภาพอากาศและสภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสม และพื้นที่เสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมเป็นประจำ รวมทั้งให้ตรวจสอบความแข็งแรงของแหล่งกักเก็บน้ำ พร้อมระบายน้ำในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังอยู่เดิม เพื่อเตรียมพร้อมรับน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ รวมทั้งวางแผนเผชิญเหตุรับสถานการณ์ เตรียมพร้อมรับมือ และแจ้งเตือนล่วงหน้า เพื่อให้ประชาชนได้เตรียมพร้อมได้ทันท่วงทีกรณีเกิดการอพยพ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์น้ำได้ที่ www.rid.go.th http://swoc.rid.go.th/ https://www.facebook.com/Wmsc.Irri หรือสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมชลประทาน 1460 " นายธนกรฯ กล่าว