In Bangkok
กทม.ร่วมชป.ประสานปฏิบัติงานใกล้ชิด เร่งระบายน้ำจุดเชื่อมต่อกรุงเทพฯ
กรุงเทพฯ-สำนักการระบายน้ำ กทม.ร่วมกรมชลประทานประสานปฏิบัติงานใกล้ชิด เร่งระบายน้ำจุดเชื่อมต่อกรุงเทพฯ บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน
นายสมศักดิ์ มีอุดมศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม.กล่าวชี้แจงกรณีสื่อสังคมออนไลน์วิจารณ์การเปิดประตูระบายน้ำพระยาสุเรนทร์ เพื่อระบายน้ำจากคลองแสนแสบและคลองพระโขนงว่า ประตูระบายน้ำพระยาสุเรนทร์อยู่ในความรับผิดชอบการควบคุมปิด-เปิดประตูโดยสำนักการระบายน้ำ กทม. รวมถึงประตูระบายน้ำอื่น ๆ รวม 14 แห่งที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งกรมชลประทานได้ส่งมอบให้กรุงเทพมหานครรับมาดูแลตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา เพื่อใช้ในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเมื่อมีฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพฯ จะส่งผลให้คลองต่าง ๆ มีระดับน้ำสูงขึ้นและเกิดปัญหาน้ำท่วมขัง ซึ่งสำนักการระบายน้ำ ร่วมกับกรมชลประทาน โดยเฉพาะสำนักงานชลประทานที่ 11 ได้ประสานงานกันตลอดเวลาทั้งทางโทรศัพท์และกลุ่มไลน์ รวมถึงปฏิบัติงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยกรมชลประทานจะช่วยเร่งระบายน้ำจุดเชื่อมต่อกับพื้นที่กรุงเทพฯ ที่มีน้ำท่วมขังออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาและคลองแนวตั้งต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อกับคลองชายทะเล ก่อนใช้สถานีสูบน้ำที่ประจำอยู่ตามคลองชายทะเลสูบน้ำออกสู่ทะเลอ่าวไทยตามลำดับ นอกจากนี้ ยังได้ประชุมหารือร่วมกับเทศบาลนครนนทบุรี กรมทางหลวง เทศบาลนครปากเกร็ด เทศบาลเมืองคูคต กรมชลประทาน และเทศบาลตำบลสำโรงเหนือ เพื่อบูรณาการการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม รวมทั้งบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนบริเวณเขตรอยต่อระหว่างกรุงเทพฯ และปริมณฑลให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
สำหรับการเตรียมความพร้อมตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในปี 2565 รวมถึงการรองรับสถานการณ์ฝนในพื้นที่กรุงเทพฯ กทม.ได้เร่งลดระดับน้ำตามคูคลองให้อยู่ในระดับต่ำ สำรวจและติดตั้งเครื่องสูบน้ำชั่วคราวในพื้นที่จุดเสี่ยงและจุดเฝ้าระวังน้ำท่วม โดยเฉพาะบริเวณถนนสายหลัก พื้นที่ชุมชน และพื้นที่จุดอ่อนน้ำท่วมในถนนซอย ล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำ ขุดลอกคูคลอง เปิดทางน้ำไหล จัดเก็บขยะวัชพืช รวมถึงจัดเก็บขยะตะแกรงท่อระบายน้ำ ขยะหน้าตะแกรงสถานีสูบน้ำ และบ่อสูบน้ำในขณะที่มีฝนตก เพื่อเร่งระบายน้ำให้ไหลเข้าระบบได้สะดวกรวดเร็วขณะเดียวกันได้ตรวจสอบประสิทธิภาพของอุโมงค์ระบายน้ำ สถานีสูบน้ำ ประตูระบายน้ำ และบ่อสูบน้ำให้พร้อมใช้งาน จัดเตรียมสำรองเครื่องสูบน้ำกรณีเหตุฉุกเฉิน จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำชนิดเคลื่อนที่ (โมบายยูนิต) พร้อมรถเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในคลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร คลองบางนา คลองพระโขนง และคลองประเวศบุรีรมย์ ซึ่งติดตั้งแล้ว 12 จุด จำนวน 38 เครื่อง รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่หน่วยเร่งด่วน (BEST) พร้อมเครื่องมือ อุปกรณ์ เพื่อเข้าแก้ไขปัญหาตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงการเข้าพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชน ประสานการไฟฟ้านครหลวงกรณีฉุกเฉินหรือไฟฟ้าดับ ตลอดจนประสานหน่วยงานโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ยังไม่แล้วเสร็จให้เร่งแก้ไขปัญหา เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อระบบระบายน้ำของ กทม.
