In News

จี้ทางหลวงสร้างความมั่นใจกับผู้ใช้ทาง ยืนยันมาตรฐานโครงสร้างสะพานทั่วปท.



กรุงเทพฯ- อธิบดีกรมทางหลวง เผยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งทางหลวง เร่งสร้างความมั่นใจผู้ใช้ทาง ยืนยันความปลอดภัยโครงสร้างสะพานทั่วประเทศ

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์อุบัติเหตุคานสะพานลอยกลับรถ กม. ที่ 34 บนถนนพระราม 2 ร่วงหล่นระหว่างการบูรณะซ่อมแซมพื้นสะพาน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมานั้น นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีความห่วงใยผู้ใช้ทางถึงความกังวลและความเชื่อมั่นในความแข็งแรงของโครงสร้างสะพานที่อาจส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพความปลอดภัยในลักษณะเดียวกัน จึงสั่งการให้กรมทางหลวง (ทล.) เร่งสร้างความมั่นใจผู้ใช้ทางในความปลอดภัยของโครงสร้างสะพานทั่วประเทศ

สำหรับสะพานในความรับผิดชอบของ ทล. มีจำนวนกว่า 17,000 สะพาน ทล. มีการตรวจสอบประเมินสภาพโครงสร้างสะพานตามรอบเวลาและมีมาตรฐานขั้นตอนการทำงานที่เหมาะสมกับแต่ละชนิดของโครงสร้างสะพาน รวมถึงดำเนินการบูรณะซ่อมแซมภายใต้การใช้จ่ายงบประมาณให้เกิดความคุ้มค่า มีการบริหารจัดการด้วยระบบบริหารงานบำรุงรักษาสะพาน (Bridge Maintenance and Management System: BMMS) ซึ่งเป็นระบบจัดการข้อมูลสะพานทั่วประเทศที่ถูกพัฒนาขึ้นเมื่อปี 2554 และปรับปรุงให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ เพื่อใช้ในการรวบรวมข้อมูลรายละเอียดสะพาน กระบวนการตรวจสอบสภาพโครงสร้างในแต่ละส่วน วิเคราะห์และประเมินผลด้านการให้บริการ (Condition Rating) นำไปสู่การจัดลำดับความสำคัญของสะพาน เพื่อใช้ในการวางแผนการซ่อมบำรุง แก้ไขปรับปรุงในระยะเร่งด่วนและระยะยาว ซึ่งช่วยให้การดำเนินงานของ ทล. เกิดประสิทธิภาพสูงสุดภายใต้งบประมาณที่ได้รับการจัดสรร โดยการสำรวจสภาพสะพานนั้น จะแบ่งระดับการตรวจสอบเป็น 3 ระดับ ตามรอบระยะเวลา ได้แก่

1. การสำรวจปกติซึ่งเป็นการตรวจสอบโดยทั่วไป รอบระยะเวลา 1 - 2 ปี 

2. การตรวจสอบหลักซึ่งเป็นการตรวจสอบสภาพสะพานอย่างละเอียด เพื่อทำให้รู้ถึงสภาพของสะพาน โดยผู้ตรวจสอบจะนำข้อมูลที่ตรวจสอบมาจัดวางแผนการซ่อมแซม/บำรุงรักษาสะพานให้มีสภาพการใช้งานในระดับปกติ รอบระยะเวลา 7 - 10 ปี หรือเมื่อพบความเสียหายจากการตรวจสอบปกติ 

3. การตรวจสอบแบบพิเศษซึ่งเป็นการตรวจสอบสภาพสะพานในกรณีที่สะพานมีความเสียหายหรือเกิดเหตุฉุกเฉินที่อาจส่งผลต่อการใช้งานของสะพาน หรือกรณีสะพานที่มีความสำคัญที่จำเป็นต้องวิเคราะห์ความสมบูรณ์ของโครงสร้าง ซึ่งการวินิจฉัยความเสียหายจำเป็นต้องใช้เทคนิควิธีการเฉพาะกรณี การตรวจสอบอาจใช้การทดสอบแบบทำลาย (Destructive Testing) หรือการทดสอบแบบไม่ทำลาย(Nondestructive Testing) เพื่อประเมินความสมบูรณ์ของโครงสร้าง และนำไปสู่การวางแผนงานบูรณะซ่อมแซมอย่างเป็นระบบต่อไป

อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยปกติในทุก ๆ สัปดาห์ แขวงทางหลวงทั่วประเทศ จำนวน 104 แห่ง จะมีการตรวจสอบการใช้งานสะพานในเส้นทางหลวงที่รับผิดชอบ เพื่อให้อยู่ในสภาพแข็งแรงใช้งานได้อย่างปลอดภัยเป็นปกติสม่ำเสมอ โดยสะพานที่เปิดใช้งานอยู่ปัจจุบันได้มีสำรวจเบื้องต้นแล้ว ยืนยันว่าทุกสะพานมีความแข็งแรงใช้งานได้อย่างปลอดภัยและยังได้สำรวจ วิเคราะห์ ประเมินผล โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ ทล. ในระบบ BMMS อย่างละเอียดขึ้นไปอีกตามรอบเวลา

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้ทางมากยิ่งขึ้น ทล. จะเร่งดำเนินการตรวจสอบความสมบูรณ์แข็งแรงของโครงสร้างสะพานกลับรถ สะพานยกระดับ สะพานลอยข้ามแยก สะพานข้ามแม่น้ำ และอื่น ๆ บนโครงข่ายทางหลวงสายหลัก ซ้ำอีกครั้งหนึ่ง (Double Check) โดยจัดจ้างสถาบันการศึกษาที่เป็นที่ยอมรับ ซึ่งจะเป็นการตรวจสอบโครงสร้างสะพานทุกจุดอย่างละเอียด ตามหลักวิชาการด้านวิศวกรรมโยธา ด้วยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ และได้สั่งการทุกโครงการก่อสร้าง ทั้งโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ และการซ่อมแซมโครงการขนาดเล็กให้ปิดกั้นการจราจรในขณะที่มีการก่อสร้างหรือซ่อมแซมสะพานทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดความมั่นใจต่อผู้ใช้ทางและประชาชน ในการสัญจรบนโครงข่ายทางหลวงทั่วประเทศอย่างปลอดภัย

หากประชาชนผู้ใช้ทางพบเห็นถนนหรือสะพานชำรุดเสียหาย สามารถแจ้งได้ที่สำนักงานทางหลวง/แขวงทางหลวงทั่วประเทศ หรือสายด่วนกรมทางหลวง โทร. 1586 (โทรฟรี 24 ชั่วโมง)