Health & Beauty

'มะเร็ง'ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิดป้องกันได้ด้วย 'กินอาหารให้เป็นยา-กินยาเป็นอาหาร'



กรุงเทพฯ-มะเร็ง ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด “เริ่มกินอาหารให้เป็นยา ก่อนจะต้องกินยาเป็นอาหาร” ป้องกันได้ด้วย“Innovative Synergy Health Solution” แนวทางดูแลสุขภาพตามเทรนด์ไลฟ์สไตล์ในโลกยุคใหม่

ตั้งแต่ต้นปี 2565 เป็นต้นมา เชื่อว่าทุกคนคงได้ทราบข่าวการสูญเสียของบุคคลสำคัญในวงการบันเทิงครั้งยิ่งใหญ่ กับการจากไปของ ดารา นักแสดง นักร้อง ที่มีชื่อเสียงของประเทศไทยหลายท่านด้วยโรคมะเร็ง คงจะดีไม่น้อย ถ้าเราป้องกันการสูญเสียนี้ได้….คำถามคือ จะทำอย่างไร  ในเมื่อร่างกายของคนเรามีเชื้อมะเร็งอยู่ในตัวกันทุกคน

แพทย์หญิง อัญวีณ์ เกียรติอติพงษ์ (คุณหมอจ๋า) แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ป้องกัน ผู้เสนอแนวทางดูแลสุขภาพแบบ“Innovative Synergy Health Solution” เป็นการรวมศาสตร์ทั้ง3ด้านเข้าด้วยกันเพื่อเน้นการปรับไลฟ์สไตล์ให้ห่างไกลโรคด้วยตัวเอง ได้แก่ 1. Preventive Medicine (เวชศาสตร์ป้องกัน) 2. Anti-Aging Nutrition เวชศาสตร์ชะลอวัยที่เน้นเรื่องโภชนาการ และ 3. Aesthetic Medicine โดยเน้นเรื่องความงามแบบองค์รวมจากภายในสู่ภายนอก คุณหมอจ๋ากล่าวว่า “การป้องกันการเกิดมะเร็งนั้น ต้องใช้องค์ความรู้หลายๆศาสตร์ร่วมกัน และคุณหมอจ๋าก็ยังให้ความสำคัญกับสุขภาพลำไส้ เพราะลำไส้คือ สมองที่ 2 ของร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันของคนเราส่วนหนึ่งขึ้นกับสุขภาพของลำใส้ที่จะส่งผลต่อร่างกายทั้งระบบแบบองค์รวม  พฤติกรรมการกินอาหารจึงสามารถเป็นตัวบ่งชี้สุขภาพของเราได้ เรียกง่ายๆว่า You are What You Eat นั่นเอง ดังนั้นเราควรเริ่ม ‘กินอาหารให้เป็นยา จะได้ไม่ต้องกินยาเป็นอาหาร’ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งตั้งแต่วันนี้”

จากประสบการณ์ที่ครอบครัวของคุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญและเป็นแพทย์ที่คลุกคลีกับผู้ป่วยมะเร็งมาหลายสิบปี ประกอบกับอุดมการณ์และความมุ่งมั่นตั้งใจของแพทย์หญิง อัญวีณ์ เกียรติอติพงษ์ (คุณหมอจ๋า) จึงเกิดแรงบันดาลใจที่จะผสานองค์ความรู้ด้านต่างๆ มาคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ต่อยอดเพื่อช่วยเหลือผู้ที่กำลังต่อสู้กับโรคมะเร็ง  ซึ่งอาจเป็นตัวผู้ป่วยมะเร็งเองหรือเป็นผู้ดูแลใกล้ชิดผู้ป่วย  จึงได้ก่อตั้ง “Happy Chemo Club” ขึ้นเพื่อเป็นพื้นที่ที่ใช้ในการพูดคุย สร้างแรงบันดาลใจ คอยส่งกำลังใจ และส่งความรู้ที่ถูกต้องให้กับผู้ป่วยมะเร็งรวมถึงผู้ดูแลผู้ป่วยทุกท่าน คุณหมอจ๋ากล่าวว่า “Happy Chemo Club เป็นพื้นที่เปิดกว้างให้ทุกคนมาร่วมแชร์ประสบการณ์ แบ่งปันกำลังใจให้ผ่านช่วงเวลาเผชิญโรคมะเร็งไปได้อย่างมีความสุขที่สุด การมีคนรับฟัง เข้าใจ และได้รู้ว่ามีคนคอยส่งกำลังใจ คอยอยู่เคียงข้างกันเสมอ คือสิ่งที่มีคุณค่ามากที่สุดในช่วงเวลาที่ยากลำบากของผู้ป่วยมะเร็ง ด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าผู้ป่วยมะเร็งมีความเจ็บป่วยทางกายร่วมกับความวิตกกังวลในใจ การมี Happy Chemo Club ะช่วยส่งพลังใจไปคอยโอบอุ้มให้สามารถก้าวผ่านกระบวนการรักษาด้วยคีโมซึ่งเป็นจุดที่ยากที่สุดไปได้อย่างมีความสุข” หมอจ๋ายังกล่าวอีกว่า “อยากให้คนไทยทุกคนมีสุขภาพดีแบบยั่งยืน จึงสนับสนุนให้ปรับพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยงก่อนเกิดโรค และได้แนะนำให้ใช้การผสานศาสตร์ที่ตนสนใจ ในรูปแบบ Innovative Synergy Health Solution ให้ความรู้แก่ประชาชน ผ่านช่องทาง “หมอจ๋า พาเติมสุข refill to the fullest” ที่ประชาชนทุกคนสามารถเข้าไปหาข้อมูลต่างๆได้ในทุกช่องทางออนไลน์” นอกจากนั้น คุณหมอจ๋ายังเป็นผู้สนับสุนหลักของโครงการ ‘บันทึกพิชิตมะเร็ง’  โดย Art for Cancer by Ireal  ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งต่อองค์ความรู้ที่ถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญ ผนวกด้วยการส่งกำลังใจและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ป่วยมีชีวิตอยู่อย่างเข้าใจและเข้มแข็ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้ผู้ป่วยและครอบครัวจับมือกันเผชิญโรคมะเร็งไปได้อย่างไม่โดดเดี่ยวและราบรื่น

คุณหมอจ๋ายังแนะนำอีกว่า ”สิ่งสำคัญที่สุดอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งมีแรงสู้ในระหว่างการรักษานอกจากกำลังใจแล้ว คือ กำลังกายที่ได้จากโภชนาการที่ดี เนื่องจากเซลล์มะเร็งจะมีการหลั่งสารบางอย่างที่ทำให้ผู้ป่วยกินได้น้อยลง ทำให้ขาดพลังงานและผอมแห้ง ภูมิคุ้มกันตก  ซึ่งสารอาหารที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ป่วยมะเร็งนั้นก็คือ ‘โปรตีน’ โดยจะมีความต้องการมากกว่าคนปกติถึง 1.5– 2เท่า (คนปกติต้องการโปรตีน1กรัมต่อน้ำหนักตัว1กิโลกรัมต่อวัน)  อีกทั้งเมื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาโดยการผ่าตัด ฉายแสง หรือเคมีบำบัด (Chemo) ร่วมกับความเครียด ก็ยิ่งทำให้ผู้ป่วยกินอาหารได้น้อยลงอีก จึงเป็นสาเหตุให้ปริมาณโปรตีนในร่างกายลดลง ปริมาณเม็ดเลือดชนิดต่างๆก็จะต่ำลง หากมาถึงจุดที่ค่าเลือดไม่ผ่านก็จะทำให้รับการรักษาต่อไปไม่ได้ จะต้องเว้นและเลื่อนเวลารับเคมีบำบัดออกไป โดยในช่วงที่เว้นการรักษานี้ก็จะเปิดโอกาสให้มะเร็งลุกลามรุนแรงขึ้นได้ หากผู้ป่วยมะเร็งมีภาวะโภชนาการที่ดี จะทำให้ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องครบถ้วนตามเวลาและได้ประสิทธิภาพในการรักษาสูงสุด นอกจากนั้นยังแนะนำสารอาหารที่สำคัญอีกสองอย่าง คือ ‘Sunfiber’ นวัตกรรมใยอาหารโลกใหม่ มีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติกส์ (Prebiotic) คือเป็นอาหารของจุลินทรีย์ในลำไส้ ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย  และ  ‘Suntheanine’ สารอาหารบำรุงจิตใจ ช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งรู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด มีสมาธิและมีความสุขเพิ่มขึ้น จึงสามารถผ่านการรักษาโดยเคมีบำบัด (Chemo) ไปได้แบบแฮปปี้”

ถึงแม้ปัจจุบันการแพทย์จะพัฒนาก้าวหน้าไปมาก  แต่ “มะเร็ง” ยังเป็นโรคที่มีความลับซ่อนอยู่อีกมากมาย ยังมีอีกหลายแง่มุมที่การแพทย์พยายามศึกษาเพิ่มเติมแต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ และยังไม่มีการรักษาใดที่การันตีได้ว่าจะหาย100% ไปตลอดชีวิต การปรับพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด การรู้จักดูแลตนเองและคนที่เรารักให้ถูกวิธี ด้วยการรับประทานอาหารที่ดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ จัดการกับความเครียดอย่างเหมาะสม อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีไม่มีมลพิษ  หลีกเลี่ยงการเอาสารพิษต่างๆเข้าสู่ร่างกาย รวมถึงการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เมื่อทำเป็นประจำทุกวันจนเป็นนิสัยก็จะรักษาภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง สามารถตรวจจับเซลล์ที่มีความผิดปกติและกำจัดทิ้งได้ตั้งแต่แรกเริ่ม และลดความเสี่ยงการเปิดยีนมะเร็งในร่างกายของเราได้ อย่างไรก็ตามด้วยภาระหน้าที่ความรับผิดชอบ ภาวะปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และปัจจัยต่างๆ ที่บีบบังคับให้เราทุกคนต้องเร่งรีบอยู่ตลอดเวลาจนไม่มีเวลากินเวลานอนที่เหมาะสม การเลือกสรรวัตถุดิบดีๆมาปรุงเป็นอาหารโภชนาการสูงให้แก่ตนเองและคนที่เรารักจึงทำได้ยาก คุณหมอจ๋าจึงแนะนำให้หาตัวช่วยเสริมโภชนาการที่มีคุณภาพสูง เพื่อให้หนึ่งมื้อขอเราเป็นมื้อแห่งการ “ปกป้อง” “เสริมสร้าง”และ “เยียวยา” ทั้งสุขภาพกายและใจ และขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจสนับสนุนให้คนไทย “กินอาหารให้เป็นยา  ก่อนจะต้องกินยาเป็นอาหาร” เพื่อให้มีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน