In Global

บทวิเคราะห์-ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน จะต้องกลับมารวมกันในสักวันหนึ่ง



บทวิเคราะห์  - ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน  เกาะไต้หวันอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน  เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของจีน  แต่ไหนแต่ไรมา เกาะไต้หวันก็เป็นส่วนหนึ่งของจีนที่ไม่อาจแบ่งแยกได้ และจะต้องกลับมารวมกันในสักวันหนึ่ง

ในทางประวัติศาสตร์  จีนได้ปกครองเกาะไต้หวันทุกยุคทุกสมัย  ตั้งแต่เดือนตุลาคม ค.ศ.1949 เป็นต้นมา  เขตไต้หวันกลายเป็นเขตบริหารระดับมณฑลของสาธารณรัฐประชาชนจีน  โดยเป็น 1 ใน 23  มณฑลของจีน

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1949  รัฐบาลพรรคก๊กมินตั๋งล่าถอยไปอยู่บนเกาะไต้หวันเนื่องจากแพ้สงครามกลางเมือง  หลังจากสงครามบนคาบสมุทรเกาหลีปะทุขึ้นเมื่อปี 1950  สหรัฐฯได้จัดส่งกองเรือที่ 7 ไปรุกรานเขตไต้หวัน  และได้ลงนามสนธิสัญญาเพื่อป้องกันร่วมกันกับทางการไต้หวัน  โดยจัดเขตไต้หวันอยู่ใต้การคุ้มครองของสหรัฐฯ  เป็นเหตุให้จีนแผ่นดินใหญ่กับเขตไต้หวันตกอยู่ในสภาพที่แบ่งแยกกัน  เมื่อเดือนมกราคมปี 1979  จีน-สหรัฐฯได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ  โดยสหรัฐฯยอมรับว่ารัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นรัฐบาลชอบธรรมเพียงหนึ่งเดียวของจีน  เขตไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน  และยกเลิกสนธิสัญญาเพื่อป้องกันร่วมกัน  อีกทั้งถอนทหารออกจากเขตไต้หวัน  แต่เมื่อเดือนเมษายนปีเดียวกัน  สหรัฐฯได้ประกาศใช้กฎหมายว่าด้วยความสัมพันธ์กับเขตไต้หวัน  เพื่อให้การสนับสนุนทางการเมือง  เศรษฐกิจ  และการทหารต่อเขตไต้หวันต่อไป

ถึงแม้ว่าจีนแผ่นดินใหญ่กับไต้หวันยังไม่ได้รวมเป็นปึกแผ่น  และบรรลุความเป็นเอกภาพก็ตาม แต่สภาพความเป็นจริงที่ทั้งจีนแผ่นดินใหญ่และเขตไต้หวันล้วนอยู่ในจีนประเทศเดียวนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด  หลักการจีนประเทศเดียวหมายถึง  ทั้งจีนแผ่นดินใหญ่และเขตไต้หวันล้วนขึ้นอยู่กับจีนประเทศเดียว  ซึ่งเป็นฉันทามติของประชาคมโลก  และเป็นกฎเกณฑ์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ได้รับการยืนยันจากมติ 2758 ของสหประชาชาติ  ปัญหาไต้หวันเป็นปัญหาที่เหลือตกทอดจากสงครามกลางเมืองของจีน  แก่นแท้ของปัญหาไต้หวันคือ  ความเป็นเอกภาพของจีน  ปัญหาไต้หวันเป็นเรื่องอธิปไตย  พรรคคอมมิวนิสต์จีน  รัฐบาลจีนและประชาชนจีนจัดการแก้ไขปัญหาไต้หวันและบรรลุความเป็นเอกภาพของมาตุภูมิเป็นภาระหน้าที่ทางประวัติศาตร์อย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่

ปัญหาไต้หวันเป็นกิจการภายในของจีน  โดยห้ามอิทธิพลภายนอกไปแทรกแซง  หลักนโยบายในการแก้ไขปัญหาไต้หวันคือ  “บรรลุความเป็นเอกภาพอย่างสันติ  หนึ่งประเทศสองระบบ”  แต่ไม่รับรองว่าจะไม่ใช้กำลังอาวุธ  การที่จีนแผ่นดินใหญ่ไม่ยอมยกเลิกวิธีการใช้กำลังอาวุธในการรวมไต้หวันกลับคืนสู่อ้อมอกมาตุภูมิ  ไม่ได้เจาะจงต่อพี่น้องไต้หวัน  ก็เพื่อต่อต้านอิทธิพลต่างประเทศที่จะแทรกแซงการรวมจีนเป็นเอกภาพหรือมุ่งที่จะให้ไต้หวันเป็นเอกราช

เนื่องด้วยสองฟากฝั่งช่องแคบไต้หวันได้ร่วมกันใช้ความพยายาม  ทั้งสองฝ่ายได้ทำลายสภาพการปิดกั้นและเริ่มมีการไปมาหาสู่กันตั้งแต่เมื่อทศวรรษปี 1980 เป็นต้นมา  โดยเปลี่ยนจากความเป็นปฏิปักษ์กันหันไปสู่การผ่อนคลายลง  ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์  ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา  บุคคลสองฟากฝั่งช่องแคบไต้หวันได้มีการไปมาหาสู่กันและการแลกเปลี่ยนกันทางเศรษฐกิจ  วัฒนธรรม  และด้านต่าง ๆ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2015  สี จิ้นผิงประธานาธิบดีจีนและหม่า อิงจิ่ว ผู้นำทางการไต้หวันได้พบปะกันที่กรุงสิงคโปร์ ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำทั้งสองฟากฝั่งช่องแคบไต้หวันได้พบปะกันหลังจากปี 1949  เป็นต้นมา  จากสถิติของสำนักงานศุลกากรจีนแผ่นดินใหญ่พบว่า  ปี 2021 อัตราการค้าระหว่างสองฟากฝั่งไต้หวันทะลุ 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  มีธุรกิจไต้หวันจำนวนเกือบ 6,000 รายมาประกอบการในจีนแผ่นดินใหญ่  นอกจากนี้  มีธุรกิจจำนวนกว่า 40 แห่งได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จีนแผ่นดินใหญ่แล้ว

เนื่องจากสาเหตุทางประวัติศาสตร์และสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน  ความสัมพันธ์ระหว่างสองฟากฝั่งไต้หวันยังคงมีปัญหาจำนวนหนึ่งที่ยากที่จะแก้ไขได้ดำรงอยู่  หลังจากเดือนพฤษภาคมปี 2016 ที่นางไช่ อิงเหวิน ดำรงตำแหน่งผู้นำทางการไต้หวัน  เธอชูสิ่งที่เรียกว่า  “ทัศนะประเทศจีนที่แตกต่างกัน”  โดยประกาศว่า  “ไต้หวันเป็นประเทศประชาธิปไตย”  โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา  ไช่ อิงเหวินสมรู้ร่วมคิดกับอิทธิพลภายนอกเพื่อให้ไต้หวันเป็นเอกราช  เป็นเหตุให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองฟากฝั่งช่องแคบไต้หวันสลับซับซ้อนยิ่ง  สถานการณ์ระหว่างสองฟากฝั่งช่องแคบไต้หวันปั่นป่วนและตึงเครียด  

อย่างไรก็ตาม  การรวมจีนแผ่นดินใหญ่กับเขตไต้หวันเป็นปึกแผ่นเป็นความปรารถนาร่วมกันของประชาชนทั้งสองฟากฝั่งช่องแคบไต้หวัน  ขอแต่ให้ทั้งสองฝ่ายยึดมั่นเจตนารมณ์ที่ไว้วางใจกัน  แสวงหาจุดร่วมในขณะที่สงวนความแตกต่างไว้  และได้รับชัยชนะร่วมกัน  ก็จะผลักดันให้การเจรจาระหว่างสองฟากฝั่งไต้หวันได้รับผลงานที่เป็นคุณ  เชื่อว่า  พร้อมไปกับวันเวลาที่ผันผ่าน  ปัญหาไต้หวันย่อมจะได้ข้อยุติ  และไต้หวันย่อมจะกลับคืนสู่อ้อมอกของมาตุภูมิ

เขียนโดย โจว ซวี่ ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CMG)