Biz news

ซีไอดีไอชนาพัฒน์จัดงาน ซีไอดีไอ อาร์ต ธีสิส แอน ดีไซน์คานิวัล 2022



กรุงเทพฯ-สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ (CIDI Chanapatana)ตอกย้ำการเป็นสถาบันปั้นนักออกแบบ รุ่นใหม่พร้อมก้าวเข้าสู่การสร้างแบรนด์ระดับมืออาชีพ จัดงาน “ซีไอดีไอ อาร์ต ธีสิสแอน ดีไซน์ คานิวัล 2022” (CIDI ART THESIS AND DESIGN CARNIVAL 2022) ภายใต้ธีม TABULA RASA (Start Fresh)ปลดปล่อยจินตนาการ ลบล้างความทรงจำ ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งหนึ่งสิ่งใด สู่การริเริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่ผ่านการถ่ายทอดแฟชั่นโชว์ศิลปนิพนธ์ปี 2022 จำนวนรวมกว่า 80 ชุด

ผลงานจากนักศึกษาสาขาการออกแบบแฟชั่น (Fashion Design) ชั้นปีที่ 2ที่สำเร็จการศึกษาพร้อมยลโฉมนิทรรศการการออกแบบของนักศึกษาสาขาการออกแบบตกแต่งภายในและผลิตภัณฑ์ (Interior & Product Design)เพลิดเพลินไปกับร้านขายสินค้าแฟชั่นกว่า 30 แบรนด์ดังของศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน พร้อมกิจกรรมฟรีเวิร์คช็อป ตั้งแต่วันนี้ – 16สิงหาคม 2565 ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น G สามย่านมิตรทาวน์

นายเถกิง ออศิริชัยเวทย์ ผู้อำนวยการสถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ กล่าวว่า“สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ได้ริเริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2543โดยสมเด็จพระญาณวชิโรดม หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโรเจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล โดยมีพันธกิจหลักในการสร้างนักออกแบบอันเป็นการยกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าของไทย สถาบันฯจึงมุ่งพัฒนานักออกแบบให้มีการสร้างสรรค์ผลงานบนพื้นฐานความคิดของเศรษฐกิจยุคใหม่ ที่ขับเคลื่อนผ่าน Creative Economyและสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของตลาดที่มีการเกิดขึ้นของแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างๆ”

นายสิทธิพัฒน์ ธนสารสิน ประธานคณะกรรมการดำเนินงานสถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ กล่าวว่า“ปัจจุบันวงการดีไซเนอร์ไทยมีความก้าวหน้าทางด้านการออกแบบที่มีความทันสมัย และพัฒนาไปสู่ความเป็นสากลมากขึ้นเช่นเดียวกับที่ทางสถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์เล็งเห็นถึงความสำคัญกับวงการออกแบบของประเทศไทย สู่เวทีการออกแบบในระดับนานาชาติตลอดจนบ่มเพาะนักออกแบบรุ่นใหม่ให้มีความพร้อมในอุตสาหกรรมออกแบบระดับโลกจึงได้มีการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนจากอาจารย์ผู้มีประสบการณ์ด้านการออกแบบจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อให้เกิดการพัฒนาศักยภาพของนักออกแบบไทยอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด”

ภายในงานได้จัดการแสดงแฟชั่นโชว์ศิลปนิพนธ์ผลงานของนักศึกษาชั้นปีที่2 รวมกว่า 80 ชุด โดยมีคอลเลคชั่นไฮไลท์จากนักศึกษามาร่วมถ่ายทอดผลงานในครั้งนี้ อาทิ “Cotton Granny”ที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากความต้องการท้าทายความสิ้นเปลืองสู่การเกิดใหม่ที่เคยถูกลืมจนเป็นชิ้นงานใหม่ที่กลับมาสดใสมีชีวิตชีวาสีสันหลากหลายที่แสดงออกถึงความไร้เดียงสาและความโกลาหลวุ่นวายอย่างสนุกสนานด้วยเทคนิคการรวมตัวของผ้าโครเชต์มือสองที่ถูกคัดสรรผสมกับชิ้นงานแฮนด์เมดที่ถักขึ้นมาเพื่อให้มองเห็นคุณค่าของสิ่งรอบตัวและได้ยืดอายุของผ้าให้สามารถสร้างประโยชน์ให้แก่คนและโลกได้ยาวนานยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายคือการอนุรักษ์เสื้อผ้าผ่านการ

Upcycle ด้วยเทคนิคแพทช์เวิร์ค, “Coming through the Storm”ด้วยแรงบันดาลใจที่จะก้าวข้ามผ่านอุปสรรค และความกลัวที่เปรียบเสมือนกับการเดินฝ่าพายุฝนเพื่อเดินไปดั่งจุดหมายที่ปลอดภัยข้างหน้าช่วงเวลาแห่งการฝ่าฟันไปยังจุดหมาย อุปสรรค และการเรียนรู้ในระหว่างทางอาจทำให้พบกับความงดงามที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ

กลายเป็นความงดงามที่ไม่สมบูรณ์แบบผ่านเทคนิคการออกแบบด้วยการมัดย้อมผ้าเส้นใยธรรมชาติชนิดต่างๆ

โดยย้อมแบบ Ice Dye เพื่อสร้างสรรค์ลวดลายลงบนผืนผ้าและแต่งเติมสีสันที่เป็นเอกลักษณ์ในคอลเลคชั่นนี้ และ “Through Peacefulness”ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความสงบสุขภายในจิตใจจากการเข้าวัดและค้นพบความสุขและความสวยงามจากภาพวาดจิตรกรรมบนผนังวัดถ่ายทอดออกมาเป็น 3 ผลงาน จาก 3 ผนังวัด ได้แก่ ผนังวัดสระบัวแก้วขอนแก่น, ผนังวัดช่องนนทรี กรุงเทพฯ และผนังวัดราชสิทธาราม กรุงเทพฯด้วยเทคนิค การทอ, มัดหมี่, การปัก, การเพนท์, บาติก และการมัดย้อมที่ได้ร่วมมือกับชุมชนเพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนเมื่อใดที่สวมใส่เสื้อผ้าในคอลเลคชั่นนี้ นอกจากจะได้รับความสวยงามยังได้ส่งต่อเรื่องราวของศิลปวัฒนธรรมไทยอีกด้วยและในส่วนของการแสดงผลงานศิลปนิพนธ์ของนักศึกษาสาขาออกแบบตกแต่งภายในและผลิตภัณฑ์ มีทั้งผลงานการออกแบบตกแต่งภายในซึ่งเป็นงานประเภทร้านค้า และสำนักงาน ส่วนผลงานการออกแบบผลิตภัณฑ์ได้นำผลงานการออกแบบเฟอร์นิเจอร์มาจัดแสดง ทั้งงานออกแบบเก้าอี้ โต๊ะชั้นวาง โคมไฟ เป็นต้นโดยตัวอย่างของงานออกแบบตกแต่งภายในร้านค้าประเภทเครื่องแต่งกายที่มาในแนวคิด “Jungle of Nemean” ที่สื่อถึงเรื่องราวของเทพนิยายกรีกแล้วนำองค์ประกอบต่างๆ

จากในเทพนิยายมาถ่ายทอดออกมาเป็นองค์ประกอบในงานตกแต่งภายในที่สื่อออกมาเป็นการจัดวางพื้นที่การนำรูปทรงโค้งและเส้นตรงมาผสมผสานกันให้เกิดความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยจัดสัดส่วนของโทนสีภายในที่นำสีเขียวมาเป็นโทนสีหลักนำมารวมเข้ากับวัสดุลายไม้เพื่อให้เกิดความรู้สึกที่กลมกล่อมและผ่อนคลายกับลูกค้าที่มาใช้บริการส่วนตัวอย่างผลงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ในแนวคิด “Rope LockKnockdown Chair” ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความชอบสมัยเด็กอย่างการต่อบ้านกระดาษที่ถูกแถมมาในกล่องขนมสามารถเปลี่ยนจากกระดาษแบนๆให้กลายเป็นบ้านเล็กๆ ที่มีมิติและแอบซ่อนรายละเอียดน่ารักๆ อยู่ภายใน ถูกนำมาเป็นแนวคิดตั้งต้นในการทำKnockdown Chairที่ต้องการให้แผ่นไม้ไม่กี่ชิ้นสามารถประกอบขึ้นเป็นเก้าอี้ได้และผูกรัดทุกชิ้นส่วนด้วยเชือกเพียงเส้นเดียว

นอกจากนั้นยังซ่อนลูกเล่นสีสันย้อนยุคจากการเลือกใช้เชือกไหมพรมที่ถูกถักขึ้นใหม่ใช้แทนเชือกสำเร็จรูปที่สามารถเลือกเล่นสีสันจากการ Collab กับแบรนด์ Cotton Grannyแบรนด์จากนักศึกษาสาขาออกแบบแฟชั่น รุ่นที่ 19ที่สร้างสรรค์เชือกให้งานดูมีสีสันกลิ่นอายของยุค 90s มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ภายในงานเพลิดเพลินไปกับร้านขายสินค้าแฟชั่นของตกแต่งบ้าน เครื่องประดับ จากศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของสถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ เกือบ 30 ร้านค้าอาทิ AMATA, NADYNJADYN, JIRA STUDIO, Le Casino, Teerachin,FUETRE.bkk, The Jarit เป็นต้นและพิเศษกับกิจกรรมฟรีเวิร์คช็อปให้ได้ทดลองความเป็นนักออกแบบในตัวคุณโดยผู้ที่สนใจเข้าเรียนที่สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.02-741-3717-8 หรือเว็บไซต์www.chanapatana.com เฟซบุ๊ก www.facebook.com/Chanapatana