In Thailand
ลูกช้างป่าอ่างฤาไนบุกไร่สวนตายอีกตัว ลอยอืดในร่องสวนเหม็นคลุ้งทั่วบริเวณ
ฉะเชิงเทรา-ช้างน้อยตกน้ำ ตายต่อเนื่องล่าสุดลูกช้างเพศผู้วัยประมาณ 9 เดือนลอยขึ้นอืดอยู่ในสระน้ำกลางสวนยางพารา ชาวบ้านเข้ามาดูแลทำงานภายในสวนได้กลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ก่อนเดินออกตามหาร่องรอยจากกลิ่นพบซากลูกช้างอีก 1 ตัวโผล่ลอยขึ้นเหนือน้ำริมขอบสระ ด้าน จนท.เร่งทำการกำจัดซากด้วยการฝังกลบไว้ในบริเวณที่เกิดเหตุ
วันที่ 18 ส.ค.65 เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่จากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 1306 อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา และสัตวแพทย์ประจำหน่วยงานอนุรักษ์ ได้เร่งทำการใช้รถแบ็คโฮทำการฝังกลบซากของลูกช้างป่าวัยประมาณ 9 เดือน - 1 ปี ที่บริเวณภายในสวนยางพารา พื้นที่ ม.20 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา หลังจากมีชาวบ้านเดินเท้าเข้ามาพบซากของลูกช้างเพศผู้ลอยขึ้นอืดอยู่ภายในสระน้ำของสวนยางพาราแห่งดังกล่าวนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (08.40 น.)
จากการสอบถามผู้เข้ามาพบเห็นทราบว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมากำลังเดินทางเข้ามาทำงานอยู่ภายในสวนยางแห่งดังกล่าว ได้กลิ่นเหม็นเน่าของซากลูกช้างโชยมาแต่ไกล จึงได้ออกเดินตามหาต้นตอของกลิ่น จนมาพบว่ามีลูกช้างตกน้ำตายอยู่ภายในสระน้ำดังกล่าว ซึ่งมีความกว้างประมาณ 15 เมตรยาวประทาณ 30 เมตร และมีความลึกประมาณ 5 เมตร โดยมีลักษณะสูงชันและลึก โดยสวนยางแห่งนี้อยู่ห่างจากบริเวณด้านหลังวัดหนองกระทิง มาประมาณ 900 เมตร ซึ่งมีการปลูกยางพาราสลับกับสวนป่ายูคาลิปตัส เอาไว้โดยรอบบริเวณ
หลังเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบชันสูตรซากช้างโดยสัตวแพทย์ในเบื้องต้นแล้ว แล้วเชื่อว่าลูกช้างป่าตัวนี้น่าจะตกน้ำตายมาแล้วเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 5 วัน จนมีสภาพเน่าเปื่อยและทำให้หนังหุ้มกะโหลกศีรษะหลุดลอกออกมาแล้ว อีกทั้งตามลำตัวยังมีสภาพขึ้นอืดบวม และเน่าเปื่อยจนเปลี่ยนแปลงสภาพและขนาดไปจากเดิมมากแล้ว เจ้าหน้าที่จึงต้องทำการเก็บฝังซากเอาไว้ตรงบริเวณใกล้เคียงกับขอบสระน้ำแห่งนี้ โดยห่างจากขอบสระมาประมาณ 20 เมตร เพื่อเป็นการกำจัดซากลูกช้างด้วยการฝังกลบในเบื้องต้นไว้ก่อน
สำหรับพื้นที่พบซากลูกช้างป่านั้น อยู่ในพื้นที่ห่างไกล จึงไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ และหน่วยงานอื่นเดินทางเข้ามาร่วมกันตรวจสอบซากลูกช้างที่ชาวบ้านพบในวันนี้ โดยมีเพียงเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเพียง 2-3 หน่วยงานเท่านั้น ที่เดินทางเข้ามายังในที่เกิดเหตุ
สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา