EDU & Tech-Innovation

'ทีเคพาร์ค'ชี้คนไทยอ่านออนไลน์มากขึ้น GenZ นิยมอ่านหนังสือเพิ่มขึ้น200%



กรุงเทพฯ 18 สิงหาคม 2565 - สถาบันอุทยานการเรียนรู้ หรือ ทีเคพาร์ค เผยสถิติการอ่านของคนไทยครึ่งปีแรกเพิ่มกว่า 200% จากผลสำรวจเปรียบเทียบกับปี 2564 ที่ผ่านมา โดยมียอดการยืมหนังสือเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว พบคนรุ่นใหม่เจเนอเรชัน Z สมัครเป็นสมาชิกเพิ่มขึ้น โดยนิยมหนังสือประเภทการ์ตูนความรู้ วรรณกรรมแปล นวนิยายไทย การ์ตูนมังงะ ธุรกิจการลงทุน จิตวิทยาพัฒนาตนเอง เปิดโลกภาษา ทั้งนี้เพื่อตอกย้ำภารกิจการสร้างพื้นที่เรียนรู้ไม่สิ้นสุด มุ่งผลักดันแอปพลิเคชัน TK Read ห้องสมุดดิจิทัลสาธารณะ ให้ตอบโจทย์พฤติกรรมการอ่านและยืมหนังสือผ่านช่องทางออนไลน์ นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับพันธมิตร อาทิ  BTS และ MRT ขยายพื้นที่การเรียนรู้ เปิดตัว แคมเปญ TK Read ที่นี่ ที่ไหน ก็อ่านได้  ให้นักอ่านได้อัปเดตความรู้ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา

นายกิตติรัตน์ ปิติพานิช ผู้อำนวยการสถาบันอุทยานการเรียนรู้ กล่าวว่า เมื่อทีเคพาร์ควิเคราะห์พฤติกรรมเจเนอเรชัน Z พบว่า เป็นวัยที่นิยมเปิดรับข้อมูลข่าวสารผ่านทางออนไลน์ ชอบความสะดวกสบายจึงเลือกเน้นเข้าถึงบริการต่างๆ  ผ่านแอปพลิเคชัน และมีการใช้เครื่องมือสื่อสารในชีวิตประจำวันอยู่ตลอดเวลา ในทางกลับกัน พบว่าวัยนี้กลับชอบการหาความรู้จากการอ่านหนังสือ เพราะมองว่าการอ่านเป็นสื่อที่สร้างประสบการณ์ได้เป็นอย่างดีและนิยมใช้เทคโนโลยีการอ่านผ่านแอปพลิเคชัน ปัจจุบันทีเคพาร์คมีสมาชิก เจเนอเรชัน Z ช่วงอายุ 10 - 22 ปี จำนวน 9,600 คน จากจำนวนสมาชิกทั้งหมด 26,000 คน นับเป็นจำนวนถึง 1 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมด

สำหรับแนวโน้มการอ่านหนังสือของทีเคพาร์คนั้น ยอดการยืมหนังสือในห้องสมุดตั้งแต่เดือนมกราคม - สิงหาคม 2565 มีจำนวนถึง 400,000 เล่ม ในขณะที่ปี 2564 มียอดการยืมเพียง 115,000 เล่มเท่านั้น เห็นว่าอัตราการยืมหนังสือเพิ่มขึ้น 200%  โดยหนังสือที่ได้รับความนิยม คือ แนวการ์ตูนความรู้  วรรณกรรมแปล นวนิยายไทย การ์ตูนมังงะ ธุรกิจการลงทุน จิตวิทยาพัฒนาตนเอง เปิดโลกภาษา ตามลำดับ

“นอกจากนี้ทีเคพาร์ค ยังคงมุ่งมั่นในการเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ ส่งต่อความรู้สู่สาธารณชน ด้วยการพัฒนาสู่รูปแบบ Digital Content จึงได้ตั้งแคมเปญ TK Read ที่นี่ ที่ไหน ก็อ่านได้ โดยการผนึกกำลังกับพันธมิตรเครือข่าย บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS และ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยหรือ MRT จัดทำโครงการศูนย์การเรียนรู้ประชาชน (Public Learning Center) เพื่อเป็นพื้นที่การเรียนรู้ให้ประชาชนในจุดที่เป็นระบบขนส่งสาธารณะ  เพียงสแกนคิวอาร์โค้ด แอปพลิเคชัน TK Read ที่จะปรากฎในขบวนรถไฟ สถานีต่างๆ ทุกคนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ที่สะดวกรวดเร็วเข้าถึงการอ่านออนไลน์ได้ทันที ตอบสนองความต้องการของวัยรุ่นที่สะดวก สามารถอ่านได้ทุกที่ ทุกเวลา นอกจากนั้นในช่วงปลายปี 2565 ทีเคพาร์คจะร่วมมือกับ True Digital Park  เปิดโครงการอุทยานการเรียนรู้แห่งใหม่ใจกลางเมือง ติดสถานีรถไฟฟ้าสถานีปุณณวิถี เพื่อขยายพื้นที่แห่งการเรียนรู้ให้กับทุกคนเพิ่มขึ้น และยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรสร้างเมืองแห่งการเรียนรู้ หรือ Learning City ด้วยการเป็นต้นแบบของ "ห้องสมุดมีชีวิต” พื้นที่ที่ตอบโจทย์ความต้องการอย่างครบครันและทันสมัย” นายกิตติรัตน์ กล่าวเพิ่มเติม

แอปพลิเคชัน TK Read ของทีเคพาร์ค เรียกได้ว่าเป็นห้องสมุดดิจิทัลสาธารณะที่ใหญ่ และทันสมัยที่สุดในประเทศ มีสื่อรวมแล้วกว่า 5,000 รายการ ประกอบด้วยหนังสือจากสำนักพิมพ์ชื่อดัง สื่อการเรียนรู้ที่น่าสนใจ พร้อมให้บริการอีบุ๊กภาษาไทยจากสำนักพิมพ์ชั้นนำกว่า 3,482 เล่ม อีแมกกาซีน จำนวน 791 เล่ม หนังสือเสียง จำนวน 529 เล่ม และคอร์สเรียนออนไลน์ 172 เรื่อง โดยจะมีการอัปเดตเพิ่มเติมในทุกเดือน

ด้านนักแสดงหนุ่มคู่จิ้นคู่ฮอต จากซีรีส์ Vice Versa รักสลับโลก จิมมี่ - จิตรพล โพธิวิหค และ ซี-ทวินันท์ อนุกูลประเสริฐ ตอบในมุมของตัวแทนเด็กยุคเจเนอเรชัน Z ว่า ต้องยอมรับว่าเด็กในยุคนี้อาจไม่ได้ใช้การอ่านเป็นช่องทางหลักในการหาความรู้ เพราะมีช่องทางอื่นๆ เช่น การดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม การท่องเที่ยวและอีกมากมาย ซึ่งในช่องทางเหล่านี้อาจจะตอบโจทย์กับวัยเรามากกว่า โดยเรามองว่าแอปอย่าง TK Read สามารถเข้ามาช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ให้คนรุ่นใหม่ได้ เพราะไม่ว่าเราจะไปที่ไหน เราสามารถเปิดอ่านจากมือถือ หรือแท็บแล็ตได้เลย ความรู้มันไม่ได้ไกลตัวเราขนาดนั้น แค่เราเปิดมือถือ ก็ได้อ่านอะไรที่อยากอ่าน อยากหาข้อมูลอะไร ก็ครบถ้วนและสะดวกสบาย ตอบโจทย์คนสมัยใหม่อย่างเราๆมากครับ

ทางด้าน ปราปต์ หรือ ชัยรัตน์ พิพิธพัฒนาปราปต์ นักเขียนชื่อดังเจ้าของผลงานกาหลมหรทึก และ คุณหมีปาฏิหาริย์ มองว่าการอ่านเป็นช่องทางสำหรับการเรียนรู้ของคนทุกรุ่น ยิ่งทุกวันนี้โลกหมุนไปไวมาก เราทุกคนก็ยิ่งควรอ่านให้เยอะเพื่อเท่าทันและสามารถปรับตัวตามสิ่งที่เกิดขึ้น หลายสิ่งเปลี่ยนแปลง  แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยคือ ยิ่งรู้รอบ เราก็จะยิ่งรับมือกับสิ่งใหม่ๆ ได้ดีขึ้น เห็นทางแก้ปัญหา และเห็นโอกาสที่จะเติบโตต่อไป ไม่หล่นหายไปกับกาลเวลา

 นายกิตติรัตน์ ปิติพานิช ผู้อำนวยการสถาบันอุทยานการเรียนรู้ กล่าวปิดท้ายว่า นอกจากการส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ในทุกแพลตฟอร์ม ตลอดทั้งปีนี้ TK Park ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายสำหรับ เจเนอเรชัน Z ให้ได้แสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์และส่งเสริมการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด อาทิ ร่วมกับ FabLab Thailand จัด กิจกรรม Global Goals Jam ที่ระดมความคิดเห็นเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาของโลกตามแนวทางเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และ FAB Racers เรียนรู้การประกอบรถแข่งผ่านการออกแบบ ทดสอบทดลอง และพัฒนาต้นแบบรถแข่ง, People Public Library โครงการห้องสมุดประชาชน “สาธารณะ” นำร่องแห่งแรกที่ห้องสมุดประชาชนจังหวัดเชียงใหม่ โดยร่วมกันออกแบบห้องสมุดประชาชนที่ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการรุ่นใหม่, TK Park เปิดตำราวิชา แนะให้แนว กิจกรรมให้เด็กได้ค้นหาความถนัดและความสนใจของตนเอง ก่อนตัดสินใจเลือกมหาวิทยาลัย, TK Board Game Club สำหรับผู้ที่อยากแลกเปลี่ยนมุมมอง เรียนรู้ทักษะต่างๆ ผ่านบอร์ดเกมมีทุกวันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือน รวมถึงการประกวดออกแบบบอร์ดเกม Print & Play เล่น เรียนรู้ ไร้พรมแดน ที่สนับสนุนให้เยาวชนสามารถพัฒนาทักษะจากการเป็นผู้เล่นเป็นผู้ออกแบบบอร์ดเกมได้, เทศกาลดนตรี TK Music Weekend เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านดนตรี ผ่านวิทยากรและนักดนตรีผู้มีประสบการณ์ นอกจากนั้นยังมีงานเสริมทักษะด้านดิจิทัลคอนเทนต์สำหรับเยาวชน กับ 3 สาขาวิชา ได้แก่ Introduction to VR & Metaverse, 3D Modeling for Art Toy, 2D Animation Basic ทั้งหมดนี้โดยผู้เชี่ยวชาญจากสตูดิโอชั้นนำของไทย

 ผู้สนใจสามารถใช้งานห้องสมุดดิจิทัลของทีเคพาร์ค โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เปิดให้ดาวน์โหลดแล้ววันนี้ผ่านทางผ่านแอปพลิเคชัน “TK Read” บน iOS และ Android หรืออ่านผ่านเว็บไซต์ https://read.tkpark.or.th ติดตามความเคลื่อนไหวและข่าวสาร ได้ที่ www.tkpark.or.th หรือ เฟซบุ๊กแฟนเพจ TK Park อุทยานการเรียนรู้