Authority & Harm

รองผบช.ภ.4ถกคดีหลานปาดคอย่าดับ วางแนวทางป้องกันก่อเหตุซ้ำขึ้นมาอีก



อุดรธานี-รอง ผบช.ภ.4 ประชุมติดตามคดีหลานปาดคอย่าดับ ให้แนวทางการป้องกันก่อเหตุซ้ำขึ้นมาอีก 

วันที่ 3 มกราคม 2564  เวลา15.30 น.  พ.ต.ท.ผลิตอรัญ บุญมาตุ่น รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วย  ร.ต.อ.ศักดา บุญก้อน รอง สว..สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้นำตัว นายกิตติภัฏ หรือฟีฟ่า อายุ 22 ปี หนุ่มนักเรียนนอก ก่อเหตุฆ่าปาดคอ นางอนงค์ เลิศอำนวยลาภ อายุ 66 ปี ย่าแท้ๆเสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอนของหลานชาย แล้วออกไปก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงสาวหมอนวดแผนโบราณ และใช้อาวุธปืน ยิงสาวผู้ช่วยพยาบาล ในโรงพยาบาลเอกชน ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2คน แต่พ้นขีดอันตรายแล้ว   มาทำการสอบสวนปากคำ ต่อหน้าทนายความอาสา และญาติของผู้ต้องหา  1 คน แต่ผู้ต้องหา ให้การประกอบสำนวนคดี แต่ไม่รู้เรื่อง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที 


ต่อมาเวลา17.00 น.  ที่ห้องประชุม ศปก.สภ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ต.สุภากร คำสิงห์นอก รอง ผบช.ภ.4 เดินทางมาติดตามความคืบหน้า สรุปสำนวนคดีอุจฉกรรจ์ของ นายกิตติภัฏ หรือฟีฟ่า อายุ 22 ปี หนุ่มนักเรียนนอก  โดยมี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี  และ ตำรวจฝ่ายสอบสวน และสืบสวน ได้ร่วมกันทำการคดี เหตุการณ์ที่เกิดเหตุ เริ่มตั้งแต่ นายกิตติภัฏ หรือฟีฟ่า อยู่ที่บ้านยังไม่ก่อเหตุ แล้วไปก่อเหตุฆ่าย่า ก่อนออกไปก่อเหตุข้างนอก

 
พล.ต.ต.สุภากร คำสิงห์นอก รอง ผบช.ภ.4 เปิดเผยว่า วันนี้ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 ให้เดินทางมาดูคดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญให้กับพี่น้องชาวเมืองอุดรธานี โดยมี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี และคณะบรรยายสรุปสำนวนในการดำเนินคดีต่อคนร้าย ที่มีอาการทางจิตประสาท โดยมีการสั่งการให้ผู้บังคบบัญชาให้คอยควบคุมคดี รวมถึงการสอบสวนของขบวนการของกฎหมาย เชื่อว่าคงไม่มีปัญหาในด้านพยานและหลักฐาน ต่อผู้ก่อเหตุที่มีอาการทางจิตประสาท ตรงนี้มีเรามีกฎหมายกำหนดวิธี เรื่องของ ป.วิอาญา ม.14ที่จะดำเนินการส่งต่อให้จิตแพทย์ตรวจวิเคราะห์อาการ เพื่อนำผลมาประกอบสำนวนการสอบสวน ในเบื้องต้นคงต้องส่งตัวไปที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี ส่วนทางด้านการสอบสวน ทางหัวหน้าพนักงานสอบสวน ยังคงมีปัญหาการสื่อสารกับปากคำ นายกิตติภัฏ หรือฟีฟ่า อยู่  หรือให้การไม่ได้ 


ส่วนมาตรการป้องกันได้พูดคุยกับผู้บังคับการว่า ประชาชนคงยังวิตกกังวลกับเหตุการณ์นี้อยู่ อย่างไรก็ตามตนเองก็ได้มอบนโยบายในที่ประชุมไปเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้คงไปประสานทางผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ก็คงมีมาตรการเฝ้าระวัง ติดตามกลุ่มผู้ที่อาจจะก่อเหตุทุกกลุ่มที่เสี่ยงที่สามรถก่อเหตุในลักษณะนี้ได้ เพื่อกำหนดมาตรการ เพื่อสร้างความอุ่นใจแก่พี่น้องประชานชาว จ.อุดรธานีต่อไป  

กฤษดา  จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี