In Bangkok
รองผู้ว่าฯจักกพันธุ์ลงพื้นที่เขตคันนายาว สำรวจสวน15นาทีส่องจุดเสี่ยงภัย

กรุงเทพฯ-รองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์ ลงพื้นที่เขตคันนายาว สำรวจสวน 15 นาที ส่องจุดเสี่ยงภัย เล็งเปลี่ยนที่ว่างเป็นสวน ตรวจคัดแยกขยะต้นแบบ
(2 ก.ย.65) เวลา 13.30 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตคันนายาว ประกอบด้วย โครงการสวนสาธารณะ 15 นาที และจุดเสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม บริเวณสวนน้ำคันนายาวภิรมย์ ซอยเสรีไทย 38 จากข้อมูลการสำรวจสวนสาธารณะในพื้นที่เขตคันนายาว มีสวนสาธารณะ 6 แห่ง ได้แก่ สวนหย่อมริมคลองลำนุ่น สวนคันนายาวรมณีย์ สวนหย่อมริมคลองหลอแหล สวนน้ำคันนายาวภิรมย์ ซอยเสรีไทย 38 สวนน้ำคันนายาวภิรมย์ ซอยเสรีไทย 50 และสวนน้ำคันนายาวภิรมย์ ซอยเสรีไทย 52 ซึ่งสวนน้ำคันนายาวภิรมย์ ซอยเสรีไทย 38-ซอยเสรีไทย 52 สำนักงานเขตคันนายาว ได้รับมอบจากสำนักสิ่งแวดล้อม พื้นที่ทั้งหมด 383 ไร่ 3 งาน 94 ตารางวา แบ่งเป็นบึงน้ำ 287 ไร่ 3 งาน 94 ตารางวา และเป็นพื้นดิน 96 ไร่ รวมพื้นที่ดินที่ดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ 9 ไร่ 2 งาน 66 ตารางวา คงเหลือพื้นที่ดิน 86 ไร่ 1 งาน 34 ตารางวา โดยปรับปรุงเป็นสวน 15 นาที เพื่อให้ประชาชนได้มีพื้นที่สำหรับออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจใกล้บ้าน
ส่วนจุดเสี่ยงภัยต่อการเกิดอาชญากรรม มีจำนวน 6 จุด ได้แก่ สะพานลอยคนเดินข้ามปากซอยรามอินทรา 107 ป้ายรถประจำทางฝั่งตรงข้ามห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ สวนคันนายาวรมมณีย์ ถนนสวนสยาม ลานสภาวัฒนธรรม ซอยเสรีไทย 52 สวนน้ำคันนายาวภิรมย์ ซอยเสรีไทย 38 และป้ายรถประจำทางหน้าลุมพินีคอนโด ถนนนวมินทร์ โดยได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจ ดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชน
สำหรับพื้นที่ว่างเปล่าของเอกชนที่จะใช้เป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ บริเวณด้านหลังอาคารสำนักงานเขตคันนายาว มีพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ ซึ่งทางนวธานี มีนโยบายที่จะยกที่ดินดังกล่าวให้กรุงเทพมหานคร จัดทำประโยชน์ในการสร้างสวนสาธารณะ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในพื้นที่เขตคันนายาว ปลูกต้นไม้ สร้างกำแพงกรองฝุ่นทั่วกรุง ตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้สำนักงานเขตคันนายาว ได้ดำเนินกิจกรรมปลูกต้นไม้ล้านต้น ในวันสำคัญต่างๆ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน โดยปลูกต้นไม้ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 ถึงเดือนสิงหาคม 2565 จำนวน 272 ต้น แบ่งออกเป็นไม้ยืนต้น 18 ต้น ไม้พุ่ม 256 ต้น ประกอบด้วย ต้นเหลืองเชียงราย ต้นกัลปพฤกษ์ ต้นฝรั่งขี้นก ต้นพะยูง ต้นพะยอม และต้นทองอุไร ในโอกาสนี้รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เยี่ยมชมสวนสุขใจ บก.น.4 ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่ร่วมดำเนินการระหว่างสำนักงานเขตคันนายาว กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 (บก.น.4) และสถานีตำรวจนครบาลบางชัน พร้อมทั้งร่วมกับผู้บริหารเขตคันนายาวปลูกต้นรวงผึ้ง บริเวณสวนสุขใจ บก.น.4
จากนั้น รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ตรวจเยี่ยมการคัดแยกขยะต้นแบบ บริเวณตลาดสายเนตร กม.8 ถนนรามอินทรา เดิมตลาดสายเนตรดำเนินการจัดเก็บขยะ วันเว้นวัน มีปริมาณขยะ 2.5 ตัน จำนวน 3 ถัง รวมปริมาณจัดเก็บขยะ 7.5 ตัน โดยไม่มีการคัดแยกขยะค่าธรรมเนียม จัดเก็บเดือนละ 24,000 บาท ชำระเป็นรายปีๆ ละ 288,000 บาท ปัจจุบันตลาดสายเนตร มีการจัดเก็บขยะวันเว้นวัน มีปริมาณขยะ 2.5 ตัน จำนวน 2 ถัง รวมปริมาณจัดเก็บขยะ 5 ตัน (รวมแบบยังไม่คัดแยก) และทางตลาดได้มีการคัดแยกขยะตามระบบ โดยแยกขยะรีไซเคิล ออกไปจำหน่ายได้เดือนละประมาณ 12,000 บาท และคัดแยกผักและผลไม้ให้สำนักงานเขตคันนายาว เพื่อส่งทำปุ๋ยวันละประมาณ 1 ตัน คงเหลือปริมาณขยะที่จัดเก็บ 4 ตัน ทั้งนี้ สำนักงานเขตคันนายาว ได้ดำเนินการสร้างต้นแบบการแยกขยะ และต่อยอดให้การแยกขยะระดับเขตสมบูรณ์ครบวงจร ตามกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ สถานศึกษา จำนวน 2 แห่ง ชุมชน จำนวน 7 แห่ง อาคาร (ห้างสรรพสินค้า) จำนวน 1 แห่ง ตลาด จำนวน 1 แห่ง ศาสนสถาน จำนวน 2 แห่ง
โดยในวันนี้มี นายกรณิศ บัวจันทร์ ผู้อำนวยการเขตคันนายาว พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตคันนายาว และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล