In Bangkok
กทม.ติดตามดำเนินคดีผู้จอดรถตู้ทางเท้า หน้าโรงแรมย่านลุมพินี-จับปรับผู้ฝ่าฝืน

กรุงเทพฯ-สำนักงานเขตปทุมวันและสำนักเทศกิจ กทม.ติดตามดำเนินคดีผู้จอดรถตู้บนทางเท้าหน้าโรงแรมย่านลุมพินี - กวดขันจับปรับผู้ฝ่าฝืนต่อเนื่อง
นางมาศวัลย์ ปิ่นสุวรรณ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กทม. กล่าวกรณีมีรถตู้จอดบนทางเท้าหน้าโรงแรมย่านลุมพินีและถอยรถจนเกือบเกิดอุบลัติเหตุกับผู้ใช้ทางเท้าว่า สำนักงานเขตปทุมวัน ได้ตรวจสอบพบว่า รถตู้คันดังกล่าวเป็นรถ Grab โดยสาร ในวันเกิดเหตุลูกค้าของโรงแรมแห่งหนึ่งย่านลุมพินี ได้เรียกมารับเพื่อไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด และเนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวมีรถเข้าออกหนาแน่น เมื่อรถมาถึงพนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของโรงแรมได้โบกรถให้ถอยหลัง เพื่อจอดรอผู้โดยสารบริเวณหน้าโรงแรม รถตู้คันดังกล่าวได้ถอยหลังรถขึ้นมาบนทางเท้า ซึ่งเป็นพื้นที่ว่างด้านหน้าโรงแรมที่มิได้กั้นรั้ว และมีแนวพื้นที่ของโรงแรมเชื่อมต่อกับทางเท้าสาธารณะ การถอยรถจึงล้ำมาในทางสาธารณะ จนเกือบชนผู้ใช้ทางเท้า ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) ลุมพินี ให้ดำเนินคดีกับรถตู้คันดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นสำนักงานเขตฯ ได้ส่งหนังสือแจ้งเจ้าของรถตู้ เพื่อดำเนินคดีกรณีความผิดจอดรถบนทางเท้า
ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผู้กระทำผิดเดินทางมาพบ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ออกหมายเรียกมาเปรียบเทียบปรับ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จราจรทางบก พ.ศ.2522 นอกจากนั้น สำนักงานเขตฯ ยังได้แจ้งเจ้าของโรงแรมและสถานประกอบการให้เข้มงวดการปฏิบัติหน้าที่ของ รปภ. เพื่อช่วยดูแลกวดขันมิให้พนักงาน รวมถึงผู้ที่มาใช้บริการนำรถขึ้นมาจอดบนทางเท้าอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งวางแนวกั้น เพื่อจำกัดพื้นที่ไม่ให้ล้ำเข้าไปบนทางเท้า ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ได้เพิ่มความเข้มงวดกวดขันบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ฝ่าฝืนขับขี่ หรือจอดรถยนต์ รถจักรยานยนต์บนทางเท้า โดยสั่งการให้ฝ่ายเทศกิจจัดเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจลงพื้นที่กวดขันบริเวณดังกล่าว และทุกพื้นที่ในเขตปทุมวัน เพื่อแก้ไขปัญหาการจอด หรือขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์บนทางเท้า เพิ่มความปลอดภัยให้ประชาชนที่สัญจรบนทางเท้า
นอกจากนั้น สำนักงานเขตฯ ยังได้ดำเนินการตามโครงการ “จุดกวดขัน จับ-ปรับ รถจอด หรือขับขี่บนทางเท้า” อย่างต่อเนื่อง โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจ ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์กวดขันตรวจตรารถจอดและขับขี่บนทางเท้าในพื้นที่เขตปทุมวัน โดยแจ้งประชาชนให้ทราบว่าการขับขี่ หรือจอดรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์บนทางเท้า มีความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 17 (2) มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท หากมีผู้กระทำผิดซึ่งหน้า เจ้าหน้าที่จะตักเตือนโดยเลื่อนรถออก หรือให้หยุดขับขี่บนทางเท้า และเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย ตลอดจนปิดป้ายประชาสัมพันธ์ในจุดต่าง ๆ พร้อมอธิบายข้อกฎหมายสำคัญ เพื่อให้เจ้าของกิจการ ผู้ค้า และประชาชนมีส่วนร่วมดูแลพื้นที่ทางเท้าสาธารณะ เพื่อสร้างจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคม เคารพสิทธิของผู้ใช้ทางเท้าและไม่กระทำผิดกฎหมาย
นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กทม. กล่าวว่า สำนักเทศกิจ ได้ประชาสัมพันธ์เจ้าของโรงแรมดังกล่าวไม่ให้นำรถมาจอดบนทางเท้า รวมถึงให้ตั้งแผงเหล็กกั้นแนวโรงแรมกับแนวทางเท้าและได้ว่ากล่าวตักเตือน รปภ.ห้ามมิให้ผู้ใช้บริการโรงแรมนำรถขึ้นมาจอดบนทางเท้า ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสำนักเทศกิจได้ดำเนินโครงการกวดขันรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จอด หรือขับขี่บนทางเท้า โดยบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศกิจสำนักงานเขตลงพื้นที่ตรวจตราดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย กวดขันมิให้มีการฝ่าฝืนขับขี่ หรือจอดรถบนทางเท้าตามถนนต่าง ๆ รวมทั้งตั้งจุดจับ - ปรับบริเวณที่มีการฝ่าฝืนจำนวนมาก โดยตั้งแต่เดือน ก.ค.61 - 5 ก.ย.65 ได้จับกุมผู้ฝ่าฝืนแล้ว 43,039 ราย ปรับเป็นเงิน 47,014,900 บาท หากผู้ฝ่าฝืนก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชน เช่น ทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย หรือเฉี่ยวชนผู้ใช้ทางเท้าจนได้รับบาดเจ็บ หรือหากต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ จะดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับในอัตราสูงสุด พร้อมทั้งส่งเรื่องให้ สน.ท้องที่ดำเนินคดีอาญาอีกข้อหาหนึ่ง อีกทั้งได้ดำเนินการตามโครงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อการจัดระเบียบเมือง โดยรณรงค์ไม่จอด หรือขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์บนทางเท้า เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่าง กทม.กับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน รณรงค์ไม่จอด หรือขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์บนทางเท้าและยังเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดให้เจ้าหน้าที่ได้รับทราบและดำเนินการกับผู้กระทำผิดทันที ผ่านช่องทางการแจ้ง อาทิ www.bangkok.go.th/reward, Facebook สำนักเทศกิจ หรือแจ้งโดยตรงต่อเจ้าหน้าที่เทศกิจ กทม.ทั้ง 50 เขต