In Bangkok

กทม.กั้นพื้นที่ห้ามใช้โกดังสินค้าที่เกิดเหตุ เพลิงไหม้ย่านราษฏร์บูรณะ



กรุงเทพฯ-เขตราษฎร์บูรณะและสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.กั้นพื้นที่ ห้ามใช้โกดังสินค้าที่เกิดเหตุเพลิงไหม้

นายดลจิตร์ เสรีรักษ์ ผู้อำนวยการเขตราษฎร์บูรณะ กทม. กล่าวกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังสินค้าย่านราษฎร์บูรณะ โดยหลังคายุบและกำแพงถล่มลงมาว่า สำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ ร่วมกับสถานีตำรวจนครบาลบางคอแหลมและสถานีดับเพลิงและกู้ภัยราษฎร์บูรณะลงพื้นที่สำรวจโครงสร้างอาคารเกิดเหตุที่สุ่มเสี่ยงจะเกิดอันตราย โดยได้ดำเนินการกั้นพื้นที่ ห้ามใช้อาคาร และจัดทำประกาศเขตเพลิงไหม้พื้นที่เขตราษฎร์บูรณะ ห้ามมิให้ผู้ใดก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคารในเขตเพลิงไหม้ภายใน 45 วัน นับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ให้ผู้ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคารในเขตเพลิงไหม้ ระงับการกระทำตามที่ได้รับอนุญาต หรือที่แจ้งไว้ภายใน 45 วัน นับแต่วันที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ เว้นแต่เป็นการก่อสร้างอาคารชั่วคราว เพื่อประโยชน์ในการบรรเทาทุกข์ที่จัดทำ หรือควบคุมโดยราชการ หรือดัดแปลง หรือซ่อมแซมอาคารเพียงเท่าที่จำเป็น เพื่ออยู่อาศัย หรือใช้ชั่วคราวเท่านั้น ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสำนักงานเขตฯ ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและผู้ประกอบการตระหนักและมีส่วนร่วมป้องกันเหตุอัคคีภัยอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ตามสถานประกอบการ ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงแจ้งในที่ประชุมคณะกรรมการชุมชน โดยให้ผู้นำชุมชนหมั่นตรวจตรา เฝ้าระวัง และตรวจสอบอุปกรณ์ในการบรรเทาและป้องกันเหตุอัคคีภัย นอกจากนั้น ยังได้ฝึกอบรม อปพร. เพื่อเป็นกำลังสนับสนุนการป้องกันและบรรเทาเหตุสาธารณภัย พร้อมทั้งฝึกซ้อมการเข้าระงับเหตุและการเผชิญเหตุอีกด้วย             

นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. กล่าวว่า จากเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสาสมัครกู้ภัยได้รับบาดเจ็บ จำนวน 7 ราย โดยบาดเจ็บเล็กน้อย 4 ราย บาดเจ็บปานกลาง 2 ราย และบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวในโรงพยาบาล เป็นการเข้ารักษาตัวตามสิทธิ ซึ่งการเยียวยาจะเป็นไปตามพระราชบัญญัติสงเคราะห์ผู้ประสบภัยเนื่องจากการช่วยเหลือราชการ การปฏิบัติงานของชาติ หรือการปฏิบัติตามหน้าที่มนุษยธรรม พ.ศ.2543 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยสามารถยื่นคำร้องขอรับความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุ และจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่กำหนด อย่างไรก็ตาม สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้สั่งการให้สถานีดับเพลิงและกู้ภัยรณรงค์ส่งเสริมความรู้ให้ประชาชนตระหนักและมีส่วนร่วมป้องกันเหตุอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งให้คำแนะนำตรวจตรา เฝ้าระวัง และเตรียมความพร้อมป้องกันอันตรายจากเหตุเพลิงไหม้ โดยเฉพาะการตรวจสอบระบบไฟฟ้าของสถานประกอบการและบ้านเรือนประชาชน เพื่อป้องกันเหตุไฟฟ้าลัดวงจรอย่างต่อเนื่อง หากพบเหตุเพลิงไหม้ หรือเหตุสาธารณภัยอื่น ๆ สามารถแจ้งเหตุผ่านสายด่วน 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง