In Thailand

ปราจีนฯใบกัญชา ส่งขาย รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ปัจจุบันราคา กก.ละ 6,000



ปราจีนบุรี-รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร นำร่องกัญชาเพื่อการรักษาโรค-สุขภาพ  นั้น พบราคาใบกัญชา ส่งขาย รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ราคา ปัจจุบัน กิโลกรัมละ 6,000 บาท  - ยังใช้ประโยชน์สารพัดทั้งสร้างรายได้ - ดูแลสุขภาพ – อาหารการกิน หลังจากร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ถูกถอนออกจากวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรไปปรับแก้ไข ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่เกี่ยวกับกัญชาออกไปก่อนจนกว่ามีกฎหมายแม่ออกมา

วันนี้ 18 ก.ย.65  ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า สถานการณ์เกี่ยวกับกัญชา  มี รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นผู้นำร่องหลักในการศึกษาค้นคว้าวิจัย  โดยที่ผ่านมา จ.ปราจีนบุรี มี กลุ่มวิสหกิจชุมชนการปลูกกัญชาประกอบด้วย มูลนิธิ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร  ,  กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ ต.บ้านพระ อ.เมืองปราจีนบุรี ,  กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ ต.เขาไม้แก้ว  อ.กบินทร์บุรี มีโรงงานสกัดสารกัญชา ที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร    พร้อมมีคลินิกกัญชาทางการแพทย์ที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ,รพ.ประจำอำเภอ ทั้ง 7 แห่ง และ รพ.สต.บ้านพระ 1 แห่ง 

นายสุนทร   คมคาย กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ ต.เขาไม้แก้ว  อ.กบินทร์บุรี  จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า พื้นที่ในการปลูกเกษตรอินทรีย์ ของชาว ต.เขาไม้แก้ว รวมกว่า 500 ไร่  ทำการปลูกกัญชา รวม 1,000 ต้น ทำข้อตกลงMOU.กับ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จำหน่ายใบกัญชา ราคา ปัจจุบัน กิโลกรัมละ 6,000 บาท   พร้อมกับจำหน่ายต้นในราคาต้นละ 50 บาท (ต้นสูง 1 ฟุต)”นายสุนทร กล่าว

ทั้งนี้    กลุ่มเกษตรอินทรีย์เขาไม้แก้ว  ได้ลงนามข้อตกลง (MoU) กับรพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร    เพื่อเพาะปลูกกัญชาสายพันธุ์ไทย ‘พันธุ์หางกระรอกภูพาน’ จำนวน 1,000 ต้น  โดยปลูกในโรงเรือน  ระบบปิด  จำนวน 4 โรง   เป็นการปลูกแบบอินทรีย์ 

เริ่มปลูกเมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา  ใช้เวลาปลูกประมาณ  5-6 เดือนจึงเริ่มเก็บเกี่ยวได้  โดยจะเก็บเกี่ยวเฉพาะใบ  นำใบมาอบแห้งเพื่อไล่ความชื้นและป้องกันเชื้อราแล้วส่งมอบให้แก่ รพ.  ก่อนหน้า ที่ผ่านมาส่งมอบกัญชาอบแห้งไปแล้วจำนวน 85 กิโลกรัม  ราคากิโลกรัมละ 5,500 บาท

นอกจากนี้กลุ่มยังร่วมมือกับ รพ.สต. เขาไม้แก้ว  ปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์อีกจำนวน 50  ต้น  เริ่มปลูกในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา  ตามแผนงานจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2565   โดยสมาชิกกลุ่มเกษตรอินทรีย์ร่วมกันลงหุ้นๆ ละ 500 บาท  คนหนึ่งไม่เกิน 20 หุ้น  เพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเพาะปลูกกัญชา  เช่น  ค่าโรงเรือน  แรงงาน  เมล็ดพันธุ์  ฯลฯ

“กัญชาถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจ  เป็นพืชทางเลือกที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนได้  แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องปลดล็อกเพื่อให้นำดอกกัญชามาใช้ประโยชน์ได้  เช่น  นำมาเป็นเครื่องปรุงรส  หรือผงนัว  ใส่ในอาหาร  แกงเผ็ด  ผัดเผ็ด  ต้มยำ  เพราะดอกกัญชามีคุณสมบัติทำให้อยากอาหาร  เมื่อใส่แล้วจะทำให้อาหารมีรสชาติอร่อย  ทำให้ใช้ประโยชน์จากกัญชาได้หลายอย่าง  ไม่ใช่เฉพาะทางการแพทย์เท่านั้น” 

สุนทรเสนอความเห็น  และว่า  กลุ่มฯ มีแผนที่จะนำผลผลิตจากกัญชามาผลิตเป็นสินค้าต่างๆ  เช่น  คุ๊กกี้กัญชา   ชาชงดื่ม  น้ำกัญชาสด  ผงนัวหรือผงชูรสที่ผลิตจากกัญชา  ลูกประคบกัญชา  ฯลฯนายสุนทร กล่าว  กล่าว

มานิตย์   สนับบุญ/ปราจีนบุรี